เนื้อหาในหมวด ข่าว

อัปเดต \

อัปเดต "10 อาชีพเงินเดือนสูงที่สุดในไทย" ประจำปี 2025

เว็บไซต์ michaelpage รายงานว่า ตลาดแรงงานไทยปี 2025 ยังคงเต็มไปด้วยบรรยากาศธุรกิจที่ระมัดระวังท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่ยังคงเป็นตลาดที่ “ผู้สมัครงานเป็นฝ่ายได้เปรียบ” อย่างชัดเจน ยิ่งเมื่อมีบริษัทต่างชาติเข้ามาตั้งฐานในประเทศไทยมากขึ้น การแข่งขันแย่งชิงบุคลากรที่มีความสามารถและศักยภาพด้านรายได้ก็ยิ่งทวีความรุนแรง

การย้ายศูนย์กลางภูมิภาค เปิดโอกาสความก้าวหน้าแก่คนไทย โซเนีย เฟอร์นันเดซ ผู้อำนวยการบริษัท Michael Page Thailand เปิดเผยว่า แนวโน้มสำคัญคือการย้ายตำแหน่งงานระดับภูมิภาคจากตลาดใหญ่อย่าง ฮ่องกง, สิงคโปร์ และญี่ปุ่น มายังประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ “China+1” ทำให้ตำแหน่งบริหารระดับภูมิภาคเปิดกว้างมากขึ้นสำหรับคนไทย และมีการบรรจุผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นในหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น ส่งผลให้เส้นทางความก้าวหน้าและมาตรฐานค่าตอบแทนถูกนิยามใหม่

การเปลี่ยนงานมักมาพร้อมการปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้น 15–30% แต่สายงานสนับสนุนอย่าง HR, การเงิน และกฎหมายมักได้ปรับขึ้นในอัตราที่น้อยกว่า ทั้งนี้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษยังคงมีค่าพรีเมียมเพิ่มอีก 10–15% โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ต้องใช้ทักษะเชิงลึก

ความต้องการบุคลากรเปลี่ยนตามทิศทางอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นตัวอย่างสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง เมื่อเทคโนโลยีใหม่โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เข้ามามีบทบาท บริษัทดั้งเดิมต้องปรับตัว ขณะที่ผู้เล่นรายใหม่ด้าน EV กลับเร่งขยายการผลิตและสร้างตำแหน่งงาน ทำให้ความต้องการแรงงานที่มีทักษะเฉพาะทางพุ่งสูง

พนักงานยุคใหม่ยังให้ความสำคัญกับโอกาสการเรียนรู้และการทำงานใกล้ชิดกับผู้บริหาร ส่งผลให้บริษัทขนาดเล็กหรือแบรนด์ใหม่สามารถดึงดูดคนเก่งได้ หากมอบโอกาสลงมือจริงและเปิดให้เข้าถึงบทบาทเชิงกลยุทธ์ อย่างไรก็ตาม หลายองค์กรยังไม่ทันกับพลวัตตลาด การตัดสินใจล่าช้าอาจทำให้พลาดการจ้างงานหรือจำต้องเสนอเงินเดือนสูงขึ้น

ศักยภาพไทยในสายตาต่างชาติ ประเทศไทยยังคงเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจด้วยปัจจัยด้านเสถียรภาพทางการเมือง ทำเลเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาค และการลงทุนจากหลายประเทศทั้งจีน, ยุโรป และสหรัฐฯ การขยายตัวของธุรกิจต่างชาติจะเปิดโอกาสการทำงานเพิ่มขึ้นในหลายภาคส่วน

bangkokthailandskyline

10 อาชีพที่มีรายได้สูงที่สุดในไทยปี 2025 จากข้อมูลคู่มือเงินเดือนปี 2025 ของ Michael Page

  • ผู้บริหารระดับ C-suite
    เงินเดือนเฉลี่ย: 380,000–800,000 บาท/เดือน
    บทบาทผู้บริหารระดับสูงถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ทั้งด้านกลยุทธ์ การเงิน นวัตกรรม การพัฒนาบุคลากร การบริหารความเสี่ยง และการสร้างความยั่งยืนระยะยาว

  • ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR Director)
    เงินเดือนเฉลี่ย: 700,000 บาท/เดือน
    โดยเฉพาะในธุรกิจ FMCG มีบทบาทกำหนดกลยุทธ์คน สรรหาพนักงาน พัฒนาศักยภาพ ดูแลการเรียนรู้ การมีส่วนร่วมของพนักงาน และการบริหารผลตอบแทนให้สอดคล้องกับตลาด

  • ผู้อำนวยการฝ่ายการค้า (Commercial Director)
    เงินเดือนเฉลี่ย: 400,000 บาท/เดือน
    รับผิดชอบการวางกลยุทธ์ด้านรายได้ การขยายตลาด และสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงิน

  • ผู้อำนวยการซัพพลายเชนระดับภูมิภาค
    เงินเดือนเฉลี่ย: 400,000 บาท/เดือน
    ดูแลการจัดซื้อ โลจิสติกส์ และการวางแผนหลายตลาด มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน

  • ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน (Finance Director)
    เงินเดือนเฉลี่ย: 400,000 บาท/เดือน
    มีหน้าที่กำหนดกลยุทธ์การเงิน วางงบประมาณ วิเคราะห์ และบริหารการลงทุน รวมถึงดูแลความเสี่ยงและการตรวจสอบภายใน

  • หัวหน้าฝ่าย Market Access
    เงินเดือนเฉลี่ย: 395,000 บาท/เดือน
    เน้นการวางกลยุทธ์ด้านการเข้าถึงตลาดยาและบริการสุขภาพ ประสานงานกับหน่วยงานรัฐ ผู้จ่ายเงิน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในระบบสาธารณสุข

  • ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด (Marketing Director)
    เงินเดือนเฉลี่ย: 370,000 บาท/เดือน
    วางกลยุทธ์แบรนด์ การเปิดตัวสินค้า การตลาดออนไลน์-ออฟไลน์ และการเจาะตลาดผู้บริโภค

  • หัวหน้าฝ่าย IT (Head of IT)
    เงินเดือนเฉลี่ย: 350,000 บาท/เดือน
    ดูแลกลยุทธ์เทคโนโลยี ระบบโครงสร้างพื้นฐาน การรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ และการนำดิจิทัลโซลูชันมาใช้ในองค์กร

  • ที่ปรึกษาด้าน ESG (ESG Advisor)
    เงินเดือนเฉลี่ย: 315,000 บาท/เดือน
    ช่วยองค์กรสร้างกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ตอบสนองต่อกฎระเบียบและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

  • ที่ปรึกษากฎหมายอาวุโส (Senior Legal Counsel)
    เงินเดือนเฉลี่ย: 300,000 บาท/เดือน
    ดูแลสัญญา ข้อกฎหมาย การกำกับดูแล ป้องกันความเสี่ยงทางกฎหมาย และให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์แก่องค์กร