
หมอเตือนผู้ชายเปลี่ยน “ท่าฉี่” ลดเสี่ยงโรคต่อมลูกหมาก คนส่วนใหญ่ทำผิดมาทั้งชีวิต
หมอแนะนำผู้ชาย "นั่งฉี่" ลดเสี่ยงโรคต่อมลูกหมาก เผยท่ายืนอันตรายกว่าที่คิดในระยะยาว
แม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กในชีวิตประจำวัน แต่ท่าทางในการปัสสาวะส่งผลต่อสุขภาพผู้ชายอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่อง ต่อมลูกหมาก และ ระบบทางเดินปัสสาวะ การเลือกนั่งปัสสาวะถือเป็นทางเลือกที่ช่วยลดความเสี่ยงและทำให้การขับปัสสาวะเป็นไปอย่างสมบูรณ์
ท่านั่งช่วยดูแลต่อมลูกหมากและระบบทางเดินปัสสาวะ
ผู้ชายส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการยืนปัสสาวะ เพราะสะดวกและมักถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นชาย แต่แพทย์สมัยใหม่แนะนำว่าการนั่งต่างหากคือทางเลือกที่ดีกว่า นพ. Gerald Collins ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินปัสสาวะจากโรงพยาบาล Alexandra (อังกฤษ) ระบุว่า “การนั่งปัสสาวะช่วยให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและกระดูกสันหลังผ่อนคลาย ทำให้กระแสปัสสาวะไหลอย่างเป็นธรรมชาติและกระเพาะปัสสาวะขับออกได้หมดจดมากขึ้น”
งานวิจัยจากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัย Leiden (เนเธอร์แลนด์) พบว่าการนั่งช่วยให้กระเพาะปัสสาวะว่างได้ดีกว่าการยืน เนื่องจากท่ายืนทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและหน้าท้องต้องเกร็ง ส่งผลให้การขับปัสสาวะไม่หมดและอาจเกิดความอึดอัด
ความสำคัญกับผู้ชายวัยกลางคนและสูงอายุ
เมื่ออายุมากขึ้น ความเสี่ยงต่อภาวะต่อมลูกหมากโตเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจกดทับท่อปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะลำบาก ต้องลุกบ่อยกลางคืน และกระแสปัสสาวะอ่อนหรือสะดุด ข้อมูลชี้ว่า ผู้ชายอายุเกิน 80 ปี ราว 80% ต้องเผชิญภาวะนี้
ดร. Jesse N. Mills ศาสตราจารย์คลินิกด้านระบบทางเดินปัสสาวะ มหาวิทยาลัย UCLA (สหรัฐฯ) อธิบายว่า “การนั่งปัสสาวะช่วยให้ผู้ชายใช้กล้ามท้องดันปัสสาวะออกจนหยดสุดท้าย รู้สึกสบายและสะอาดกว่า”
ประโยชน์ด้านสุขอนามัยและความสะดวก
ท่านั่งยังช่วยลดน้ำปัสสาวะกระเด็น ทำให้ห้องน้ำสะอาด ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และช่วยลดภาระการทำความสะอาดในบ้าน นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยสำหรับผู้ชายทุกวัย
วัฒนธรรมและทัศนคติที่แตกต่างกัน
แม้ประโยชน์ทางการแพทย์ชัดเจน การเปลี่ยนนิสัยไม่ง่าย โดยเฉพาะในผู้ชายที่ยืนปัสสาวะแล้วถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นชาย ในเยอรมนี การนั่งปัสสาวะเคยถูกเรียกว่า “Sitzpinkler” ในเชิงลบ แต่ปัจจุบัน 40% ของผู้ชายเยอรมันเลือกนั่ง และบางห้องน้ำสาธารณะมีป้ายห้ามยืนเพื่อความสะอาด
ที่สหรัฐฯ มีเพียง 10% ของผู้ชายที่นั่งปัสสาวะประจำ ขณะที่ผู้ชายอายุ 55 ปีขึ้นไปถึง 35% ไม่เคยนั่ง แต่คนรุ่นใหม่อายุ 18–24 ปีเปิดกว้างมากกว่า สะท้อนความแตกต่างระหว่างเจเนอเรชัน
ในญี่ปุ่น การนั่งปัสสาวะเป็นบรรทัดฐานใหม่ตั้งแต่ปลายยุค 1990 คำว่า “suwari-shon” (นั่ง+ปัสสาวะ) กลายเป็นที่นิยม สำรวจปี 2021 พบว่า 60.9% ของผู้ชายวัย 20–60 ปีเลือกนั่งเพื่อความสะอาดและความสบาย
สรุป
การนั่งปัสสาวะเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่ช่วยลดความเสี่ยงต่อมลูกหมากโต ปัสสาวะออกหมดจด และส่งผลดีต่อสุขภาพผู้ชาย ทั้งด้านสุขภาพ คุณภาพชีวิต และสุขอนามัยในสังคม การเป็นผู้ชายไม่ได้ขึ้นอยู่กับท่ายืนหรือท่านั่ง แต่ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัว