
คริสเตียน vs คริสตัง: ใครนับถือแม่พระ รับศีลมหาสนิท และเชื่อใน "ไฟชำระ" หลังความตาย
คริสเตียน กับ คริสตัง ต่างกันอย่างไร ทำไมหลายคนยังเรียกผิด? อธิบายความเชื่อเรื่องไฟชำระในศาสนาคริสต์แบบเข้าใจง่าย
คำว่า "คริสเตียน" กับ "คริสตัง" ต่างกันตรงไหน? ทำไมยังใช้ผิดกันอยู่? มารู้จักความหมายทางศาสนา พร้อมอธิบายเรื่องความเชื่อของคริสตชน เข้าใจง่ายในบทความเดียว
หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “คริสเตียน” และ “คริสตัง” ใช้เรียกผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ และสงสัยว่าทั้งสองคำนี้แตกต่างกันอย่างไร บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจความหมายของทั้งสองคำ พร้อมอธิบายความเชื่อเรื่อง “ไฟชำระ” หลังความตาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลักคำสอนของคริสต์ศาสนาบางนิกาย
คริสเตียน คืออะไร?
คำว่า “คริสเตียน” (Christian) มาจากภาษาอังกฤษ ใช้เรียกผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์โดยรวม ไม่ว่าจะอยู่ในนิกายโรมันคาทอลิก โปรเตสแตนต์ หรือออร์โธดอกซ์ โดยหมายถึงผู้ที่เชื่อและติดตามคำสอนของพระเยซูคริสต์
ตามพจนานุกรม Cambridge Dictionary ได้ให้ความหมายไว้ว่า “Christian” (noun) – a follower of or a believer in Christ ดังนั้น คำว่า “คริสเตียน” จึงเป็นคำสากลและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ที่ใช้เรียกผู้เชื่อในพระคริสต์ทั่วโลก
คริสตัง มีที่มาอย่างไร?
คำว่า “คริสตัง” มาจากภาษาโปรตุเกสว่า “Cristão” ซึ่งมีความหมายเดียวกับคำว่า “Christian” ในภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ในภาษาโปรตุเกส คำนี้ออกเสียงคล้ายว่า “คริสทัง” มากกว่าคำว่า “คริสตัง”
ในบริบทไทย คำว่า “คริสตัง” มักใช้เรียกผู้ที่นับถือนิกายโรมันคาทอลิกอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในภาคใต้และชุมชนคริสต์ท้องถิ่น นอกจากนี้ คำนี้ยังมีความหมายเชิงวัฒนธรรมและเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนคริสต์ในพื้นที่นั้น ๆ ซึ่งเป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างกว้างขวางในชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ตาม ในภาษาไทย คำว่า “คริสตัง” ไม่ค่อยใช้กับผู้ที่นับถือนิกายโปรเตสแตนต์ หรือใช้ในวงจำกัดเท่านั้น
- เปิดประวัติ "นักบุญเปาโล" จากศัตรูพระคริสต์ สู่ผู้นำความเชื่อ เจ้าของชื่อบาทหลวงในภาพยนตร์ "ท่าแร่"
- สะพรึง หนังสือลับวาติกัน ทำนายถึง "วันสิ้นโลก" ระบุชัดจะเกิดใน ค.ศ.เท่าไหร่ อีกแค่ไม่กี่ปี!
เปรียบเทียบ คริสเตียน กับ คริสตัง
แง่มุม | คริสเตียน | คริสตัง |
---|---|---|
ที่มา | ภาษาอังกฤษ (Christian) | ภาษาโปรตุเกส (Cristão) |
การใช้งานในไทย | ใช้ทั่วไปกับทุกนิกาย โดยเฉพาะโปรเตสแตนต์ | นิยมใช้กับนิกายโรมันคาทอลิกอย่างชัดเจน |
ความหมายตามสากล | ผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ | ผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ (ในภาษาโปรตุเกส) |
ความเชื่อร่วมกันของคริสตชน
ไม่ว่าจะเรียกว่า “คริสเตียน” หรือ “คริสตัง” ทั้งสองกลุ่มล้วนเชื่อในหลักพื้นฐานเดียวกัน คือ
จุดต่างที่สำคัญระหว่างนิกายโรมันคาทอลิก กับโปรเตสแตนต์
แม้ว่าทั้งสองนิกายจะนับถือพระเยซูคริสต์เหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างสำคัญในบางเรื่อง เช่น
ความแตกต่างเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบการปฏิบัติศาสนาและความเชื่อที่หลากหลาย แม้จะนับถือพระเยซูคริสต์เหมือนกัน
มิสซาคืออะไร?
มิสซา (Mass) คือพิธีกรรมสำคัญในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกและออร์โธดอกซ์ เป็นพิธีเฉลิมฉลองพระมหาสนิท (Eucharist หรือ Holy Communion) ที่ผู้เชื่อร่วมกันระลึกถึงพระมหาทรมานและการกลับคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ในรูปแบบขนมปังและเหล้าองุ่น ซึ่งเชื่อว่าเป็นร่างกายและโลหิตของพระองค์ตามหลักคำสอน
ในมิสซา ผู้เข้าร่วมจะรับศีลมหาสนิท เป็นการเสริมสร้างความเชื่อและความสัมพันธ์กับพระเจ้า นอกจากนี้ยังมีการสวดมนต์ การอ่านพระคัมภีร์ และบทเทศน์จากพระสงฆ์ด้วย
มิสซาในมุมมองของคริสเตียนและคริสตัง
-
คริสตัง
ในบริบทของไทย คำว่า “คริสตัง” มักหมายถึงผู้ที่นับถือนิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมีพิธีมิสซาเป็นพิธีสำคัญประจำวันหรือประจำสัปดาห์
พิธีมิสซาของคริสตังมีรูปแบบและพิธีกรรมเฉพาะ เช่น การสวดภาวนาเป็นภาษาละตินหรือภาษาไทย การรับศีลมหาสนิท และการปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของคริสตจักรโรมันคาทอลิก -
คริสเตียนทั่วไป (โปรเตสแตนต์และอื่นๆ)
ในนิกายโปรเตสแตนต์ซึ่งมักถูกเรียกว่าคริสเตียนโดยรวม ไม่มีพิธี “มิสซา” แบบโรมันคาทอลิก แต่จะมีพิธีกรรมของตนเอง เช่น การนมัสการ (Worship service) ที่เน้นการสวดมนต์ เพลงสรรเสริญ และการอ่านพระคัมภีร์ รวมถึงการรับศีลมหาสนิทในโอกาสพิเศษต่าง ๆ แต่รูปแบบและความหมายของศีลมหาสนิทจะแตกต่างจากนิกายโรมันคาทอลิกอย่างชัดเจน
ศาสนาคริสต์เชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิดหรือไม่?
ในศาสนาคริสต์นั้น ไม่มีความเชื่อในเรื่องของการกลับชาติมาเกิดหรือการเวียนว่ายตายเกิดเหมือนในศาสนาอื่นๆ เช่น ศาสนาพุทธหรือศาสนาฮินดู ศาสนาคริสต์สอนว่ามนุษย์มีชีวิตเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น ตามพระคัมภีร์ในหนังสือฮีบรู (9:27) ที่ระบุว่า “มนุษย์มีการกำหนดให้ตายเพียงครั้งเดียว แล้วก็จะมีการพิพากษา”
หลังจากเสียชีวิต วิญญาณของแต่ละคนจะต้องเผชิญกับการพิพากษาของพระเจ้า ซึ่งจะแยกผู้ที่เชื่อและยอมรับพระเยซูคริสต์ให้เข้าสู่สวรรค์ และผู้ที่ปฏิเสธพระเจ้าจะถูกลงโทษในนรก
นอกจากนี้ ในนิกายโรมันคาทอลิกยังมีความเชื่อในเรื่อง “ไฟชำระ” (Purgatory) ซึ่งเป็นสถานที่หรือสภาวะที่วิญญาณจะถูกชำระล้างจากบาปเล็กน้อยก่อนเข้าสู่สวรรค์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามีการเกิดใหม่หลังความตายแต่อย่างใด
ดังนั้น หลักคำสอนของศาสนาคริสต์จึงแตกต่างจากศาสนาอื่นที่มีแนวคิดเรื่องการกลับชาติมาเกิดอย่างชัดเจน โดยเน้นว่าแต่ละคนมีชีวิตเพียงครั้งเดียว และหลังจากนั้นจะต้องเผชิญกับผลของการดำเนินชีวิตในโลกนี้ตามการพิพากษาของพระเจ้า
ความเชื่อเรื่องไฟชำระคืออะไร?
ในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก มีความเชื่อเรื่อง “ไฟชำระ” (Purgatory) ซึ่งเป็นสถานที่หรือสภาวะที่วิญญาณของผู้ที่ตายแล้ว แต่ยังไม่บริสุทธิ์พอจะเข้าสวรรค์ ต้องผ่านการชำระจิตใจให้สะอาดก่อนเข้าสู่สวรรค์
ความเชื่อนี้มองว่าไฟชำระไม่ใช่การลงโทษแต่เป็นกระบวนการชำระล้างจิตใจ เพื่อเตรียมความพร้อมให้วิญญาณบริสุทธิ์และสมบูรณ์ก่อนจะได้เข้าสู่พระเจ้าที่สวรรค์ ในไทย คำว่า “ไฟชำระ” เป็นคำแปลที่ใช้สื่อถึงสภาพการชำระล้างหรือการเตรียมจิตใจนี้
แต่อย่างไรก็ดี คำสอนดังกล่าวยังคงไม่ได้รับการอธิบายที่ชัดเจน ทำให้แม้แต่ตัวคริสตชนเองบางคนยังเกิดความสงสัยหรือสับสนอยู่บ้าง เนื่องจากเรื่องราวดังกล่าวอยู่เหนือเหตุผลของมนุษย์ แต่หากอ้างอิงตามรายงานจากทีมข่าวช่อง 3 'ไฟชำระ' ในคำนิยามของบาดหลวงทั้ง 4 ท่าน ได้อธิบายออกมาในภาษาที่เข้าใจง่าย ให้ท่านผู้อ่านได้ลองทำความเข้าใจ หนึ่งในความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายของคริสตชน ดังนี้
ไฟชำระเป็นสภาพของวิญญาณตามความเชื่อคาทอลิก, ที่ยังไม่สามารถเข้าสู่สวรรค์ได้ เนื่องจากตอนยังมีชีวิตได้ทำบาปผิดแต่ไม่ร้ายแรงหรือหนักมาก, ตามคำสอนที่ว่าไว้ เช่นการตั้งใจฆ่าคนตาย, การลบหลู่ต่อพระและศีลมหาสนิท / ถ้ามีบาปเบาเมื่อตายไปวิญญาณจะต้องไปใช้โทษบาป ซึ่งมนุษย์ไม่สามารถตอบได้ว่าจะมากน้อย, ยาวนาน, และแบบไหน - บาดหลวงสมพร มีมุ่งกิจ
ไฟชำระ หมายถึง สภาพที่บรรดาวิญญาณมนุษย์ที่ได้ตายไป และยังไม่สามารถอยู่ในสวรรค์ได้ เพราะยังมีบาป มีข้อบกพร่องอยู่บ้าง ยังไม่เหมาะจะไปสวรรค์ ต้องรอและใช้โทษบาปเสียก่อน เราเรียกพระศาสนจักรนี้ว่า พระศาสนจักรที่กำลังใช้โทษ - บาดหลวงนันทพล สุขสำราญ
ไฟชำระ คือ สถานะที่ชำระตนให้หมดจากโทษของบาป เมื่อพร้อมแล้ววิญญาณก็จะได้ไปอยู่ในสวรรค์ สวรรค์ที่จะพบกับพระเป็นเจ้า และมีความสุขกับพระองค์ - บาดหลวงเอกพงษ์ สุวิชากร
พระศาสนจักรเราสอนว่าไฟชำระ ซึ่งเป็นสถานที่หรือสภาพที่ถูกชำระให้บริสุทธิ์ มีไว้สำหรับการตระเตรียมวิญญาณเพื่อให้ได้รับสิทธิในการเข้าสู่สวรรค์ พระศาสนจักรจึงสนับสนุนเราภาวนา, ให้ทานและทำกิจใช้โทษบาปแทนวิญญาณทั้งหลายในไฟชำระ เพราะดวงวิญญาณเหล่านั้นไม่สามารถที่จะภาวนาเพื่อตัวเองได้อีกต่อไป - บาดหลวงศิรวิชย์ มารีย์พัฒนกิจ
อย่างไรก็ดี สำหรับนิกายโปรเตสแตนต์นั้น หลักคำสอนนี้ไม่ได้ระบุชัดเจนในพระคัมภีร์ฉบับโปรเตสแตนต์ แต่มีการอ้างอิงโดยอ้อม เช่นในหนังสือ 2 มักคาบี 12:46 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ พระคัมภีร์ชุดเดอโรรัต (Deuterocanonical books) ที่อยู่ในพระคัมภีร์เฉพาะของนิกายโรมันคาทอลิกและออร์โธดอกซ์ รวมถึง 1 โครินธ์ 3:15 ที่กล่าวถึงการ “รอดโดยผ่านไฟ”
นิกายโปรเตสแตนต์ และออร์โธดอกซ์ส่วนใหญ่ ไม่เชื่อในแนวคิดเรื่องไฟชำระ โดยให้เหตุผลว่าไม่มีหลักฐานชัดเจนในพระคัมภีร์โปรเตสแตนต์ และขัดกับหลักความรอดโดยพระคุณของพระเจ้า ซึ่งเป็นความเชื่อพื้นฐานของนิกายเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ออร์โธดอกซ์บางสาขา มีแนวคิดเรื่องการชำระล้างหลังความตายในรูปแบบที่แตกต่างจากแนวคิดไฟชำระของโรมันคาทอลิก
คำเรียกที่ต่าง แต่ความเชื่อหลักคล้ายคลึงกัน
คำว่า “คริสเตียน” และ “คริสตัง” มีที่มาต่างกันตามภาษาและวัฒนธรรมการเผยแผ่ศาสนาในไทย แต่ทั้งสองคำหมายถึงผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์เหมือนกัน ต่างกันเพียงการใช้งานในบริบทท้องถิ่น
นอกจากนี้ ความเชื่อเรื่อง “ไฟชำระ” ยังเป็นอีกหนึ่งแนวคิดสำคัญที่สะท้อนความแตกต่างในรายละเอียดของนิกาย โดยเฉพาะในโรมันคาทอลิกซึ่งมีพิธีกรรมและคำสอนเฉพาะทาง
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคุณจะเรียกตัวเองว่า "คริสเตียน" หรือ "คริสตัง" จะเชื่อในแม่พระ รับศีลมหาสนิท หรือมองว่าไฟชำระมีจริงหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดอาจไม่ใช่ความเหมือนหรือความต่าง แต่อยู่ที่ว่า “ความเชื่อ” ของเรานำพาเราให้รักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์มากขึ้นหรือเปล่า
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง