เนื้อหาในหมวด ข่าว

กูรูชี้! 3 การตั้งค่า iPhone ที่แอบดูดแบตเตอรี่ และวิธีปิดเพื่อยืดอายุการใช้งาน

กูรูชี้! 3 การตั้งค่า iPhone ที่แอบดูดแบตเตอรี่ และวิธีปิดเพื่อยืดอายุการใช้งาน

3 การตั้งค่า iPhone ที่อาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว และวิธีปิดเพื่อยืดอายุการใช้งาน

มีผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีเผยว่า มี "3 การตั้งค่าแอบแฝงใน iPhone" ที่อาจดูดแบตเตอรี่โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว การปิดการตั้งค่าเหล่านี้สามารถช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้นและเครื่องไหลลื่นขึ้น

คุกกี้คืออะไร และทำงานอย่างไร เมื่อคุณกด "ยอมรับคุกกี้ทั้งหมด" เกิดอะไรขึ้น

1. ปิด “Learn From This App” สำหรับแอป Siri

เข้าไปในเมนู Siri หรือ Apple Intelligence แล้วเลือก “Apps” จากนั้นเลือกแอปแต่ละตัว เช่น Facebook แล้วปิดตัวเลือก Learn From This App, Suggest App และ Suggestion Notifications การตั้งค่าพวกนี้ช่วยให้ Siri เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของคุณ แต่ก็เป็นต้นตอการใช้แบตเตอรี่มากเกินจำเป็น

2. ปิดการแสดงคำแนะนำใน Search / Widgets

เมื่อคุณใช้ฟีเจอร์แนะนำจากแอปในหน้าค้นหา (Search) หรือวิดเจ็ต (Widgets) จะมีการสแกนพฤติกรรมการใช้งานตลอดเวลา ซึ่งเป็นการใช้พลังงานแบตเตอรี่อย่างไม่จำเป็น การปิดฟีเจอร์แนะนำเหล่านี้ช่วยลดการใช้พลังงานโดยไม่สูญเสียฟีเจอร์สำคัญอื่น

3. ปิดการเชื่อมโยง Siri กับแอปที่ไม่จำเป็น

หากมีแอปที่คุณไม่ต้องการให้ Siri มีบทบาทในการเรียนรู้หรือแนะนำ พยายามปิดการเข้าถึง Siri หรือปิด “Suggest in App” สำหรับแอปนั้นๆ ซึ่งจะช่วยลดภาระในการประมวลผลพื้นหลัง และช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานขึ้น

คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อช่วยยืดอายุแบตเตอรี่

  • ปิดบริการตำแหน่ง (Location Services) สำหรับแอปที่ไม่ใช้งานบ่อย
  • ลดความสว่างหน้าจอหรือเปิด “Auto-Brightness”
  • ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลัง (Background App Refresh)
  • ใช้โหมดประหยัดพลังงาน (Low Power Mode) เมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย

สรุป

แม้ iPhone จะมีจุดเด่นในด้านประสิทธิภาพ แต่การตั้งค่าบางอย่างที่แฝงอยู่ก็อาจส่งผลลบต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ การปิด "Learn From This App", การแนะนำแอปใน Search/Widgets และการเข้าถึง Siri ไม่จำเป็น จะช่วยให้แบตเตอรี่ของคุณอยู่ได้นานขึ้นและเครื่องทำงานได้ราบรื่นขึ้น

  • LADbible