เนื้อหาในหมวด ข่าว

เปิดภาพหายากของ \

เปิดภาพหายากของ "ขันที" ผู้เป็นที่โปรดปรานที่สุดของพระนางซูสีไทเฮา

ภาพหายากของ “หลี่เหลียนอิง” ขันทีผู้เป็นที่โปรดปรานที่สุดของพระนางซูสีไทเฮา

หลี่เหลียนอิง ขันทีผู้มีบทบาทโดดเด่นในปลายราชวงศ์ชิง เป็นบุคคลที่แม้มีชาติกำเนิดยากจนและรูปลักษณ์ไม่โดดเด่น แต่กลับได้รับความไว้วางใจจาก ซูสีไทเฮา อย่างลึกซึ้ง ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองไม่เพียงสะท้อนอำนาจในราชสำนัก แต่ยังเผยให้เห็นถึงสติปัญญาและความเฉลียวฉลาดของขันทีผู้หนึ่งที่สามารถยืนอยู่ในจุดสูงสุดแห่งวังหลัง

จากเด็กยากจนสู่ขันทีคนสนิทของซูสีไทเฮา

หลี่เหลียนอิงเกิดเมื่อปี ค.ศ.1848 ที่เมืองต้าซิง มณฑลซื่อหลิน เติบโตในครอบครัวยากจน พ่อมีนิสัยเกเรและไม่สามารถดูแลครอบครัวได้ ทำให้เขาต้องเข้าสู่เส้นทาง “ตัดตอนเป็นขันที” ตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ แม้ไม่มีโอกาสได้รับการศึกษาเต็มที่ แต่ด้วยความเฉลียวฉลาดและความสังเกตไว เขาเริ่มได้รับความสนใจจากผู้คนในวังหลวง

เมื่ออายุ 16 ปี หลี่เหลียนอิงเริ่มถวายงานใกล้ชิดซูสีไทเฮา ด้วยความสามารถและความรอบคอบ เขาค่อย ๆ ได้รับความไว้วางใจจากพระนาง จนกลายเป็นผู้ที่พระนางไม่สามารถขาดได้ในกิจวัตรประจำวันของราชสำนัก

ความเฉลียวฉลาดและ EQ สูงคือกุญแจสู่ความโปรดปราน

สิ่งที่ทำให้หลี่เหลียนอิงแตกต่างจากขันทีทั่วไปคือความสามารถทางอารมณ์หรือ EQ ที่โดดเด่น เขารู้จักจังหวะและถ้อยคำที่เหมาะสมในการรับใช้เจ้านาย อีกทั้งยังมีความสามารถพิเศษในการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าอย่างแนบเนียน หนึ่งในเหตุการณ์ที่ถูกเล่าขานคือเมื่อซูสีไทเฮาเขียนอักษรผิดในเอกสารสำคัญ หลี่เหลียนอิงได้ช่วยอธิบายอย่างมีชั้นเชิงจนไม่มีใครกล้าท้วง นับเป็นการ “กู้หน้า” ให้พระนางอย่างงดงาม

แม้จะมีข่าวลือว่าเขาได้รับความโปรดเพราะความชำนาญในการหวีผม แต่ในความเป็นจริง หลี่เหลียนอิงคือผู้มีไหวพริบและความสามารถรอบด้าน ทั้งยังมีลายมือสวยและเชี่ยวชาญด้านอักษรศาสตร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ซูสีไทเฮามีความชื่นชมในตัวเขาเป็นพิเศษ

รูปลักษณ์ธรรมดาแต่เปี่ยมด้วยอำนาจ

จากภาพถ่ายหายากที่หลงเหลืออยู่ หลี่เหลียนอิงมีใบหน้าขนาดเล็ก ผิวคล้ำและดวงตาคมเฉียบ แฝงความฉลาดและระมัดระวัง รูปลักษณ์ของเขาอาจไม่เป็นที่น่ามอง แต่กลับสะท้อนสภาพแวดล้อมแห่งวังหลังที่เต็มไปด้วยกลอุบายและการแข่งขันเพื่ออยู่รอด ผู้ที่ไม่มีทั้งไหวพริบและความเข้าใจในจิตใจผู้คน ยากจะยืนหยัดได้ในโลกแห่งอำนาจเช่นนั้น

เส้นทางอำนาจที่ไม่ธรรมดา

เมื่ออายุ 26 ปี หลี่เหลียนอิงได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าขันที จากนั้นในวัย 31 ปี ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น “หัวหน้าฮวาหลินระดับ 4” และเมื่ออายุ 46 ปี ได้รับเกียรติเป็น “ฮวาหลินระดับ 2” ซึ่งไม่เคยมีขันทีคนใดได้ตำแหน่งนี้มาก่อน เส้นทางการเลื่อนขั้นที่รวดเร็วและโดดเด่นนี้เป็นหลักฐานยืนยันถึงความสามารถอันเหนือชั้นของเขา

คนสนิทที่พระนางซูสีไทเฮาไว้วางใจที่สุด

หลี่เหลียนอิงไม่เพียงเป็นผู้รับใช้ แต่ยังเป็น “สหายสนิท” ของซูสีไทเฮา พระนางมักเรียกเขามาสนทนาในยามเช้า หรือระบายความในใจในยามเงียบสงัดของค่ำคืน ทุกครั้งที่พระนางเผชิญความกังวลหรือปัญหา เขาจะเป็นผู้ปลอบโยนและให้คำปรึกษาอย่างสงบเยือกเย็น ความผูกพันระหว่างทั้งสองจึงลึกซึ้งเกินกว่าความสัมพันธ์ระหว่างนายกับบ่าวทั่วไป

จุดจบในเงามืดและความลึกลับของขันทีผู้ยิ่งใหญ่

แม้หลี่เหลียนอิงจะมีอำนาจและชื่อเสียง แต่ชะตาชีวิตของเขากลับไม่ต่างจากราชวงศ์ชิงที่เสื่อมถอย หลังการล่มสลายของราชวงศ์ในปี ค.ศ.1911 เขาเสียชีวิตในปีเดียวกัน ภายใต้เงื่อนไขที่ยังคงเป็นปริศนาจนถึงปัจจุบัน

สรุปชีวิตของหลี่เหลียนอิง

ชีวิตของหลี่เหลียนอิงคือเรื่องราวของความพยายาม ความฉลาด และความภักดีที่มั่นคง แม้ไม่มีรูปลักษณ์หรือชาติกำเนิดที่ดี แต่ด้วยสติปัญญาและความสามารถ เขาได้พิสูจน์ว่าคนธรรมดาก็สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตของตนเองได้ และกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์จีนยุคปลายราชวงศ์ชิง

  • Sohu