เนื้อหาในหมวด ข่าว

สาวใช้อินโดฯ จู่ๆ ขอลาออกกลับบ้านไปแต่งงาน นายจ้างอึ้ง เพิ่งรู้ฐานะทางบ้าน

สาวใช้อินโดฯ จู่ๆ ขอลาออกกลับบ้านไปแต่งงาน นายจ้างอึ้ง เพิ่งรู้ฐานะทางบ้าน

สาวใช้อินโดนีเซียจู่ ๆ ขอลาออกกลับบ้านแต่งงาน นายจ้างตกใจเมื่อรู้ความจริง ที่แท้ “เธอคือคุณหนูเจ้าของไร่”

เรื่องราวที่ทำให้ชาวเน็ตฮ่องกงพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง เมื่อมีนายจ้างหญิงรายหนึ่งออกมาเผยผ่านโซเชียลว่า แม่บ้านชาวอินโดนีเซียของตนซึ่งทำงานด้วยกันมาหลายปี ได้ขอลาออกกระทันหันเพื่อกลับบ้านไปแต่งงาน แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจก็คือ แม่บ้านคนนี้แท้จริงแล้วเป็น ลูกสาวเศรษฐี มีทั้งบ้าน ที่ดิน ไร่กาแฟ และโกโก้ ที่อินโดนีเซีย!

จากแม่บ้านธรรมดา สู่คุณหนูผู้มาทำงานเพื่อ “เรียนรู้ชีวิต”

นายจ้าง เล่าว่า แม่บ้านสาววัย 20 ต้น ๆ ทำงานอยู่ในบ้านมาหลายปี อยู่มาวันหนึ่งกลับมาขอ “จบสัญญาก่อนกำหนด” เพื่อกลับบ้านแต่งงาน ตอนแรกเธอและครอบครัวต่างพากันตกใจ คิดว่าแม่บ้านอาจกำลังถูกหลอกทางออนไลน์ เพราะก่อนหน้านี้เคยเห็นรูปชายหนุ่มที่อีกฝ่ายคบหาด้วย “หน้าตาดี ใส่เครื่องแบบนักบิน ดูเหมือนในหนัง”

แต่หลังจากได้ฟังรายละเอียดจากปากแม่บ้าน ทุกคนถึงกับเปลี่ยนความคิดทันที เพราะฝ่ายชายดูแลอย่างดี ตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษา เขาส่งเงินให้เดือนละราว 3,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 12,000 บาท)

และยังบอกว่า หากแม่บ้านกลับไปอินโดนีเซียเพื่อมีลูก จะเพิ่มเป็น 6,000 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อเดือน  (ประมาณ 25,000 บาท) ทำให้นายจ้างถึงกับพูดว่า “แต่งเลยเถอะ ผู้ชายแบบนี้ดีมาก” ก่อนจะรู้ความจริงว่า “เธอแค่เข้ามาทำงานที่ฮ่องกงเพื่อประสบการณ์ชีวิต” ไม่ใช่เพราะต้องการเงินเลย

ชาวเน็ตทึ่ง “เธอรวยกว่าเจ้านายอีก!”

เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นไวรัลทันทีใน Threads และ Facebook ของฮ่องกง หลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า “เธอรวยกว่าเจ้านายแต่ยังมาทำงานบ้าน บ้าไปแล้ว!” บ้างก็เขียนว่า “แท้จริงเธอมาฮ่องกงแบบ working holiday” และ “มีแต่สาวรวยเท่านั้นที่มาทำงานแบบนี้เพื่อหาประสบการณ์ชีวิต”

บางคนยังเสริมว่า แม่บ้านต่างชาติในฮ่องกงจำนวนไม่น้อยมีฐานะดีอยู่แล้ว “หลายคนมีบ้าน มีที่ดิน เพียงแต่รายได้ในบ้านเกิดต่ำ ทำงานเป็นครูหรืออาชีพอื่นได้เงินเดือนเพียงประมาณ 3,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 12,000 บาท) จึงเลือกมาทำงานที่ฮ่องกงเพื่อเก็บเงินหรือเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ”

ไม่ใช่แค่คนเดียว หลายครอบครัวก็มีแม่บ้านรวย

ชาวเน็ตอีกหลายคนเข้ามาแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง เช่น “แม่บ้านคนเก่าของฉันก็มีบ้าน มีรถครบทุกอย่าง แต่บอกว่าการมาทำงานที่ฮ่องกงคือภารกิจจากพระเจ้า ให้เธอมาช่วยเหลือคนที่ต้องการ” หรือ “แม่บ้านคนหนึ่งเป็นลูกสาวนายทหาร ถูกส่งมาทำงานเพราะครอบครัวอยากให้มาเรียนรู้ชีวิตหลังมีปัญหากับพ่อ”

บางคนบอกว่า “แม่บ้านที่บ้านฉันก็เป็นคุณหนูรวย เวลาไปตลาดยังไม่เคยเก็บใบเสร็จเบิกเงินเลย บางครั้งยังเลี้ยงแมคโดนัลด์ฉันอีก” และอีกคนเสริมว่า “เธอมีบ้านอยู่แล้ว ครอบครัวส่งเงินมาให้ทุกเดือน แถมทำงานดีไม่มีบ่น เหมือนมาพักที่ Airbnb แล้วช่วยทำอาหารให้ฟรี ๆ”

แม่บ้านหัวก้าวหน้า ใช้ฮ่องกงเป็น “บันไดสู่โลกกว้าง”

อีกหนึ่งคอมเมนต์ที่ได้รับการกดไลก์จำนวนมากคือ “อย่ามองข้ามแม่บ้านเลย หลายคนเรียนจบมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะจากฟิลิปปินส์ พวกเธอมีเป้าหมายชัดเจนมาก บางคนเก็บเงินส่งบ้าน บางคนต่อยอดเรียนต่อ หรือใช้ฮ่องกงเป็นจุดเริ่มต้นไปแคนาดา ออสเตรเลีย หรือยุโรป”

หนึ่งในชาวเน็ตยังเล่าว่า เคยมีแม่บ้านถือ iPad mini มาทำงานตั้งแต่วันแรก ภาษาอังกฤษดีระดับสอบ IELTS ได้ 7 คะแนน หลังจากทำงานดูแลครอบครัวนาน 4 ปี เธอก็ย้ายไปทำงานที่แคนาดา จนปัจจุบันกลายเป็นผู้จัดการร้านอาหารและมีบ้านเป็นของตัวเอง

บทสรุป: ความมั่งคั่งที่ซ่อนอยู่หลังผ้ากันเปื้อน

เรื่องราวนี้สะท้อนว่า “อย่าตัดสินคนจากอาชีพ” เพราะแม้แต่แม่บ้านต่างชาติที่เรามองว่าเรียบง่าย บางคนกลับมีชีวิตที่มั่งคั่งและจิตใจงดงามไม่แพ้ใคร พวกเธออาจไม่มาทำงานเพราะต้องการเงิน แต่เพื่อตามหาความหมายของชีวิตและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่เงินซื้อไม่ได้