เนื้อหาในหมวด ข่าว

ใครเกิดทันบ้าง? โฆษณาขอโทษในตำนาน แบรนด์ไอศกรีมดัง \

ใครเกิดทันบ้าง? โฆษณาขอโทษในตำนาน แบรนด์ไอศกรีมดัง "ขึ้นราคา" ครั้งแรกในรอบ 25 ปี

บทเรียนจากแบรนด์ไอศกรีมญี่ปุ่น “ขอโทษออกทีวี” หลังขึ้นราคา 10 เยนเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี

บริษัทไอศกรีมญี่ปุ่น Akagi Nyugyo สร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศ หลังออกโฆษณาทางโทรทัศน์เพื่อกล่าวคำขอโทษที่ต้องขึ้นราคาไอศกรีมแท่งชื่อดัง Garigari‑kun จาก 60 เยนเป็น 70 เยน ถือเป็นการปรับราคาครั้งแรกในรอบกว่า 25 ปี

โฆษณาขอโทษออกอากาศวันที่ 1 เมษายน 2559

โฆษณาดังกล่าวเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2559 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ราคาขายใหม่มีผลบังคับใช้ โดยเป็นวิดีโอความยาว 60 วินาที แสดงให้เห็นภาพของผู้บริหารและพนักงานบริษัท Akagi Nyugyo ยืนเรียงแถวหน้าสำนักงานใหญ่ พร้อมโค้งศีรษะอย่างลึก ท่ามกลางเสียงดนตรีพื้นบ้านที่ให้บรรยากาศเศร้าสะเทือนใจ

ในคลิปไม่มีการพูด ไม่มีการโฆษณาสินค้า มีเพียงข้อความว่า “เรายืนหยัดมาได้ 25 ปี... แต่ 60 → 70” ซึ่งหมายถึงการปรับราคาจาก 60 เยน เป็น 70 เยน หลังจากคงราคาเดิมมาตั้งแต่ปี 1991

ผลตอบรับล้นหลามจากสังคมญี่ปุ่น

แม้จะเป็นการขึ้นราคาเพียง 10 เยน หรือประมาณ 2,000 ดอง แต่โฆษณานี้กลับกลายเป็นกระแสไวรัลในญี่ปุ่นทันที มีผู้ชมกว่า 1 ล้านครั้งบน YouTube ภายในเวลาไม่กี่วัน และได้รับคำชมจากผู้บริโภคถึงความซื่อสัตย์และจริงใจ

ผู้ชมหลายรายระบุว่า รู้สึกทั้งประทับใจและสะเทือนใจ เพราะในยุคที่การขึ้นราคาสินค้าเป็นเรื่องปกติ บริษัทส่วนใหญ่มักเลือกที่จะไม่อธิบายหรือแม้แต่แจ้งให้ทราบ แต่ Akagi Nyugyo กลับเลือกใช้วิธี “ขอโทษ” อย่างเปิดเผย

เหตุผลเบื้องหลังการปรับราคา

ทางบริษัทชี้แจงว่า ต้นทุนวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นสาเหตุหลักของการปรับราคา โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเผชิญแรงกดดันให้เกิดเงินเฟ้อ หลังเผชิญกับภาวะชะลอตัวมานานหลายปี

แม้จะขึ้นราคาเพียง 10 เยนต่อแท่ง แต่เมื่อคำนึงถึงยอดขายกว่า 4 พันล้านแท่งต่อปี รายได้รวมของบริษัทจะเพิ่มขึ้นหลายหมื่นล้านเยน ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษาคุณภาพสินค้าและความยั่งยืนของธุรกิจ

Garigari‑kun: แบรนด์ไอศกรีมที่อยู่ในใจคนญี่ปุ่น

Garigari‑kun เป็นไอศกรีมแท่งยอดนิยมของญี่ปุ่นที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1981 มีชื่อเสียงในด้านราคาเข้าถึงง่าย รสชาติสดชื่น และไอเดียสร้างสรรค์ของรสชาติที่หลากหลาย เช่น โซดา, แอปเปิ้ล, ไปจนถึงรสแปลกใหม่อย่างสปาเก็ตตี้และซุปข้าวโพด

ความนิยมของแบรนด์ไม่ได้มาจากรสชาติเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความจริงใจขององค์กรที่แสดงออกต่อผู้บริโภค ซึ่งโฆษณาขอโทษครั้งนี้เป็นหนึ่งในตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมองค์กรแบบญี่ปุ่นได้อย่างลึกซึ้ง

บทเรียนทางธุรกิจ ความจริงใจคือสิ่งที่ผู้บริโภคไม่ลืม

กรณีของ Akagi Nyugyo กลายเป็นตัวอย่างที่ได้รับความสนใจในระดับนานาชาติ สื่อต่างประเทศอย่าง Quartz และ The Japan Times รายงานว่า การออกมายอมรับและขอโทษผู้บริโภคโดยไม่หาข้ออ้าง คือสิ่งที่หาได้ยากในโลกธุรกิจยุคโลกาภิวัตน์

แม้เวลาจะผ่านไปเกือบทศวรรษ โฆษณานี้ยังคงถูกพูดถึงว่าเป็น “ตำนานโฆษณา” ที่สะท้อนถึงหัวใจสำคัญของความสำเร็จทางธุรกิจ นั่นคือ *ความเคารพต่อผู้บริโภค* ไม่ว่าจะในช่วงเวลาที่ต้องแจ้งข่าวดีหรือข่าวร้าย

แม้การขึ้นราคาเพียง 10 เยนอาจเป็นเรื่องเล็กน้อยในแง่ธุรกิจ แต่การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาและจริงใจของ Akagi Nyugyo กลับสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยิ่งใหญ่ ทั้งต่อแบรนด์และต่อจิตใจของผู้บริโภค

กรณีนี้คือบทเรียนสำหรับธุรกิจทุกแห่งว่า การยอมรับอย่างเปิดเผยและการให้ความเคารพลูกค้า อาจมีคุณค่ามากกว่าการหากลยุทธ์ซับซ้อนในการสื่อสารทางการตลาด

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง

  • GIGAZINE
  • GMA News
  • SoraNews24
  • Business Standard
  • The Japan Times