
"สธค." ขานรับนโยบาย "พม. ใกล้คุณ" เดินหน้า 6 โครงการ Quick Win
นายประสงค์ พันธ์ลิมา ผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ เปิดเผยว่า สำนักงานธนานุเคราะห์ (สธค.) ในฐานะหน่วยงานภายใต้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ขานรับนโยบาย “พม. ใกล้คุณ” ของ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมุ่งเน้นให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเท่าเทียม ภายใต้แนวคิด “ลดรายจ่าย สร้างรายได้ รีสตาร์ทชีวิตใหม่”
ทั้งนี้ สำนักงานธนานุเคราะห์ได้ดำเนินการจัดทำ โครงการ Quick Win จำนวน 6 โครงการ เพื่อสนับสนุนนโยบายดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ดังนี้
1.โครงการลดดอกเบี้ย วงเงินไม่เกิน 5,000 บาท ฟรีดอกเบี้ย 1 เดือน (ตุลาคม–พฤศจิกายน 2568)
มุ่งลดภาระรายจ่ายด้านดอกเบี้ยและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนกลุ่มเปราะบางและผู้มีรายได้น้อยในช่วงภาวะเศรษฐกิจที่มีค่าครองชีพสูง โดยตั้งเป้าหมายให้ความช่วยเหลือประชาชนจำนวน 11,500 คน
2.โครงการมอบชุดนักเรียนและรองเท้านักเรียน
เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองในช่วงเปิดภาคเรียน โดยมอบชุดนักเรียนและรองเท้านักเรียนจำนวน 1,000 ชุด
3.โครงการมอบทุนการศึกษา
เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน 158 ทุน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 775,500 บาท
4.โครงการจัดทำถุงยังชีพสนับสนุนกระทรวง พม.
จัดทำถุงยังชีพจำนวน 1,000 ชุด มอบให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ
5.โครงการเร่งกู้เงิน 1,000 ล้านบาท เสริมสภาพคล่องเพื่อรองรับการให้บริการ
เร่งดำเนินการกู้เงินจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในการให้บริการรับจำนำแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องและทั่วถึงในอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยเฉพาะในช่วงที่ประชาชนมีความต้องการใช้เงินสดหมุนเวียนสูง เช่น ช่วงเปิดภาคเรียน เทศกาล หรือภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เพื่อให้ประชาชนสามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้อย่างทันท่วงที
6.โครงการช่วยเหลือเด็กนักเรียนและชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ จังหวัดพะเยา
เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของเด็กนักเรียนและครอบครัวกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ห่างไกล ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและสังคมอย่างเท่าเทียม
นายประสงค์ พันธ์ลิมา กล่าวเพิ่มเติมว่า “นโยบาย พม. ใกล้คุณ ไม่เพียงทำให้บริการภาครัฐเข้าถึงประชาชนได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้สำนักงานธนานุเคราะห์ดำเนินการเชิงรุก พัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้คนไทยทุกกลุ่มมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน”