ทำงาน 43 ปี มีเงินเก็บ 19 ล้าน! ชีวิตพังหลังเกษียณ เจอเมียยื่น "ของขวัญ" เซอร์ไพรส์

17/10/2025 (12:55 น.)

ทำงานหนักมา 43 ปี เก็บเงินได้ 19 ล้าน! ในวันเกษียณ ภรรยามอบ "ของขวัญ" เซอร์ไพรส์ ทำชีวิตพังทลายทันที

ชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งทุ่มเททำงานมานานถึง 43 ปี จนกระทั่งเกษียณอายุในวัย 65 ปี เขามีเงินบำนาญก้อนแรก 30 ล้านเยน (ประมาณ 6.4 ล้านบาท), เงินบำนาญรายเดือน 270,000 เยน (ประมาณ 58,000 บาท), และเงินออมส่วนตัวอีก 60 ล้านเยน (ประมาณ 12.9 ล้านบาท) เขาวาดฝันว่าจะได้ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสุขสบาย แต่ในวันเกษียณนั้นเอง เขากลับได้รับ "ของขวัญ" จากภรรยาที่ทำให้แผนชีวิตทั้งหมดพังทลายลงทันที

จากรายงานของ THE GOLD ONLINE ชายผู้นี้ชื่อนาย A ได้เข้าทำงานในธนาคารขนาดใหญ่หลังเรียนจบมหาวิทยาลัย ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่เศรษฐกิจฟองสบู่ของญี่ปุ่น นาย A ทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งการทำงานล่วงเวลาจนดึกดื่นในวันธรรมดา และการออกรอบตีกอล์ฟกับเจ้านายและลูกค้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้แทบไม่มีเวลาให้กับครอบครัวและชีวิตส่วนตัว

แต่งงานช้า แต่ชีวิตคู่ยังคงห่างเหิน

นาย A แต่งงานเมื่ออายุ 39 ปี แต่หลังแต่งงาน เขาก็ยังคงยุ่งอยู่กับการทำงานเป็นส่วนใหญ่ และพลาดช่วงเวลาสำคัญของครอบครัวไปเกือบทั้งหมด แม้ว่าภรรยาของเขาจะเป็นคนมีนิสัยอ่อนโยนและไม่เคยบ่นเกี่ยวกับการทำงานหนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอก็เริ่มรู้สึกถูกละเลยและมองข้าม

วันเกิดและวันครบรอบแต่งงานมักถูกลืมเลือนไป ทั้งสองแทบไม่มีความทรงจำในการใช้เวลาร่วมกันในวันหยุดสุดสัปดาห์เลย ความสัมพันธ์ที่ห่างเหินนี้มาถึงจุดแตกหักในวันเกษียณอายุของเขา เมื่อนาย A กลับถึงบ้าน ภรรยาของเขาก็ถือช่อดอกไม้มาต้อนรับพร้อมกล่าวว่า “คุณทำงานหนักมามากพอแล้ว ต่อจากนี้ไป ฉันหวังให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ส่วนฉันเองก็ต้องการใช้ชีวิตเพื่อตัวเองบ้าง”

ชีวิตบั้นปลายที่ต้องแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่ง

สิ่งที่ซ่อนอยู่ในช่อดอกไม้ คือ เอกสารการหย่า ภรรยาของเขายอมรับว่าเธอรู้สึกโดดเดี่ยวมาหลายปีในชีวิตแต่งงานนี้ และตัดสินใจที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ทันทีที่เขาเกษียณอายุ ตามกฎหมายของญี่ปุ่น คู่สมรสมีสิทธิ์ยื่นขอ "การแบ่งเงินบำนาญ" เมื่อหย่า

นาย A จึงต้องแบ่งเงินบำนาญรายเดือน 270,000 เยน (ประมาณ 58,000 บาท) ออกไปครึ่งหนึ่ง รวมถึงเงินบำนาญก้อนแรก 30 ล้านเยน (ประมาณ 6.4 ล้านบาท) และเงินออมส่วนตัว 60 ล้านเยน (ประมาณ 12.9 ล้านบาท)  ก็ต้องถูกแบ่งคนละครึ่งด้วย

แม้ว่านาย A จะไม่ต้องการหย่า แต่ภรรยาของเขายืนกรานอย่างหนักแน่น และถึงกับขู่ว่าจะยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อไกล่เกลี่ย หากเขาไม่ยินยอม ท้ายที่สุด นาย A จึงจำต้องยอมรับข้อตกลงและเผชิญหน้ากับชีวิตวัยเกษียณอย่างโดดเดี่ยว ส่วนภรรยาของเขาได้กลับเข้าสู่ตลาดแรงงานและเริ่มต้นชีวิตใหม่

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ปรากฏการณ์ "การหย่าร้างในวัยผู้ใหญ่" (Mature Divorce) กำลังเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในญี่ปุ่น คู่สมรสหลายคู่เมื่อลูกโตขึ้นหรือเกษียณอายุแล้ว จึงได้ค้นพบว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่สมดุลอย่างรุนแรง แม้จะมีฐานะทางเศรษฐกิจที่มั่นคง แต่หากละเลยการสื่อสารทางอารมณ์และการใช้เวลาร่วมกัน ก็ยังคงต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในบั้นปลายชีวิตได้