เนื้อหาในหมวด ข่าว

ย้อนรอย \

ย้อนรอย "คดีโมนาลิซา" ขโมยเขย่าโลก! โจรตะโกน "ยอมติดคุกเพื่อชาติ" เบื้องหลังสะเทือนใจ

ย้อนคดีโจรกรรมในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ “โมนาลิซ่า” ถูกขโมยสะเทือนโลก โจรประกาศ “ขโมยเพื่อชาติ”

เกิดเหตุโจรกรรมในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ กรุงปารีส เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 ตุลาคม 2025 ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีคนร้าย 4 ราย สวมหน้ากากและปลอมตัวเป็นช่างซ่อมบำรุง ใช้เลื่อยไฟฟ้าขนาดเล็กบุกเข้าไปในห้องจัดแสดงภาพวาดอพอลโล และใช้เวลาเพียง 7 นาที ขโมยเครื่องประดับล้ำค่าจากยุคนโปเลียน 8 ชิ้น ซึ่งรวมถึงสร้อยคอประดับมรกตของจักรพรรดินีมารี หลุยส์ และมงกุฎของพระราชินียูจีนี ตำรวจฝรั่งเศสกำลังเร่งไล่ล่าคนร้ายอย่างเข้มข้น

เหตุการณ์นี้สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก และยังทำให้หลายคนหวนรำลึกถึงคดีโจรกรรมในอดีตของลูฟวร์ โดยเฉพาะคดีขโมยภาพวาด “โมนาลิซ่า” ในปี 1911 ที่กลายเป็นคดีสะเทือนวงการศิลปะระดับโลก

คดีขโมย “โมนาลิซ่า” ปี 1911 ที่เขย่าโลก

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 1911 วันจันทร์ที่ดูเหมือนจะปกติ กลับกลายเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ ภายในห้องจัดแสดงคาร์เร่ของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ชายชาวอิตาเลียนชื่อ วินเชนโซ เปรูจา (Vincenzo Peruggia) สวมชุดช่างทาสีสีขาว แฝงตัวเข้ามาพร้อมเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ

เขาเคยมีส่วนร่วมในการติดตั้งกรอบภาพภายในพิพิธภัณฑ์ ทำให้รู้เส้นทางการเข้า-ออกเป็นอย่างดี เขาสามารถถอดภาพวาด “โมนาลิซ่า” ออกจากกรอบได้อย่างง่ายดาย แล้วซ่อนไว้ใต้เสื้อคลุม เดินลงบันไดทางข้างและหลบหนีออกจากพิพิธภัณฑ์

ภาพวาด “โมนาลิซ่า” ผลงานชิ้นเอกของ ลีโอนาร์โด ดา วินชี ถูกวาดขึ้นระหว่างปี 1503–1506 ขนาดเพียง 77x53 เซนติเมตร และมีน้ำหนักเบา การโจรกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างเงียบเชียบ ไม่มีใครสังเกตเห็น

สื่อกระพือข่าว “ภาพหาย - ความอับอายของชาติ”

เช้าวันต่อมา จิตรกรชาวฝรั่งเศส หลุยส์ เบรูด์ สังเกตเห็นว่าภาพหายไป เหลือเพียงกรอบเปล่าติดผนัง พิพิธภัณฑ์จึงต้องประกาศปิดทันที พร้อมส่งสัญญาณเตือนทั่วประเทศ สื่อมวลชนทั่วโลกรายงานข่าวนี้อย่างครึกโครม

หนังสือพิมพ์ New York Times พาดหัวข่าว “นักสืบ 60 คนตามหาโมนาลิซ่าที่ถูกขโมย จุดชนวนความโกรธแค้นของชาวฝรั่งเศส” ขณะที่ Le Figaro สื่อฝรั่งเศส วิจารณ์อย่างเจ็บแสบว่า “กำแพงที่ว่างเปล่าช่างบีบหัวใจ” พร้อมลงการ์ตูนเสียดสีตำรวจ

ผู้ต้องสงสัยผิดตัว–ภาพถูกซ่อนไว้ 2 ปี

ในช่วงแรกของการสอบสวน มีความสับสนอย่างหนัก จนถึงขั้นจับกุม กิโยม อาโปลิแนร์ กวีชื่อดัง และศิลปินระดับโลกอย่าง ปาโบล ปิกัสโซ ในฐานะผู้ต้องสงสัย เพราะทั้งคู่เคยพัวพันคดีขโมยประตูลูฟวร์ในปี 1907

แม้จะมีการตั้งค่าหัวสูงถึง 25,000 ฟรังก์ (เทียบเท่ากับราว 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน) และตรวจเข้มทั่วพรมแดน, ขบวนรถไฟ และเรือ แต่ก็ยังไม่พบเบาะแส จนกระทั่ง 2 ปีต่อมาในปี 1913 เปรูจาตัดสินใจติดต่อพ่อค้าศิลปะในเมืองฟลอเรนซ์เพื่อขายภาพวาด

เมื่อศิลปะพาณิชย์ตรวจสอบความจริง ร่วมกับผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์อุฟฟิซี ได้ยืนยันว่าเป็นของจริง จึงแจ้งตำรวจ และเปรูจาก็ถูกจับในวันที่ 10 ธันวาคม 1913 ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โดยภาพวาดยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์

เหตุผล “ขโมยเพื่อชาติ” ที่สะเทือนใจ

ในการไต่สวนที่เมืองฟลอเรนซ์ เปรูจากล่าวอย่างภาคภูมิว่าเขาทำไปด้วยเหตุผลทางชาติ “ผมไม่ได้ต้องการเงิน ผมแค่อยากนำ ‘โมนาลิซ่า’ กลับคืนสู่อิตาลี เพื่อศักดิ์ศรีของประเทศของผม ผมเชื่อว่าภาพนี้ถูกปล้นในยุคนโปเลียน”

เขายืนยันว่าไม่มีผู้ร่วมขบวนการ และกระทำทั้งหมดด้วยตนเอง พร้อมกล่าวว่า “ผมยอมติดคุกเพื่ออิตาลี ดีกว่าเห็นภาพนี้เน่าเปื่อยอยู่ในฝรั่งเศส” คำพูดของเขาทำให้ชาวอิตาเลียนจำนวนมากเห็นใจและชื่นชม เขาถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 15 วัน และได้รับการปล่อยตัวหลังรับโทษเพียง 7 เดือน

โมนาลิซ่าจากภาพวาด...สู่ไอคอนโลก

คดีนี้ไม่เพียงทำให้ “โมนาลิซ่า” กลับมาอย่างสมบูรณ์ แต่ยังทำให้เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ของศิลปะและวัฒนธรรมป๊อประดับโลก สื่อช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ “รอยยิ้มลึกลับ” ให้มีมนต์ขลังมากยิ่งขึ้น

คดีโจรกรรมอื่นๆ ในลูฟวร์

  • ปี 1907: รูปสลักโบราณ 2 ชิ้นถูกขโมย คดีที่พัวพันกับปิกัสโซ
  • ปี 1976: ดาบฝังเพชรของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 10 ถูกขโมยด้วยวิธีทุบกระจก
  • ปี 1990: ภาพ “หญิงสาวนั่ง” ของเรอนัวร์ ถูกตัดจากกรอบและหายสาบสูญ
  • ปี 1998: ภาพวาด “เส้นทางแห่งแซฟวร์” ของฌอง บาติสต์ โคโร ถูกขโมยจากผนัง

เหตุการณ์ล่าสุดในปี 2025 แสดงให้เห็นว่าถึงแม้จะมีการอัปเกรดระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด แต่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ก็ยังคงตกเป็นเป้าของอาชญากรรมศิลปะอย่างต่อเนื่อง

คดีโจรกรรม “โมนาลิซ่า” ในปี 1911 ไม่ได้เป็นเพียงการขโมยงานศิลป์เท่านั้น แต่ยังกลายเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนภาพวาดชิ้นหนึ่งให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของโลก ความรักชาติของผู้ก่อเหตุ การรายงานของสื่อ และตำนาน “รอยยิ้มลึกลับ” ได้หล่อหลอมให้ “โมนาลิซ่า” เป็นมากกว่างานศิลปะ แต่คือความทรงจำร่วมของมนุษยชาติ