.jpg)
คนญี่ปุ่น "กินข้าวขาวทุกมื้อ" แต่ทำไมไม่ค่อยเป็นเบาหวาน? หมอชี้ 2 ปัจจัยสำคัญ
เหตุผลที่ “คนญี่ปุ่นกินข้าวขาวทุกมื้อ” แต่ไม่ค่อยเป็นเบาหวาน หมอชี้ 2 ปัจจัยสำคัญ
โรคเบาหวานถือเป็นโรคเรื้อรังที่พบได้บ่อย โดยในปี 2024 มีผู้ป่วยเบาหวานในประเทศเกินกว่า 2.5 ล้านคน และยังเป็นหนึ่งในสิบสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของประชาชน หลายคนจึงสงสัยว่า ทำไมคนญี่ปุ่นที่กินข้าวขาวแทบทุกมื้อกลับไม่ค่อยเป็นเบาหวาน
นายแพทย์อู๋ ฉีอิ่ง หรือ "หมอชิงหลานเกอ" นายแพทย์และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังของไต้หวัน อธิบายว่า ความจริงแล้วชาวญี่ปุ่นก็มีผู้ป่วยเบาหวานเช่นกัน เพียงแต่มีอัตราน้อยกว่าหลายประเทศทั่วโลก ดังนั้นคำกล่าวที่ว่า “คนญี่ปุ่นไม่เป็นเบาหวาน” จึงเกินจริงไปเล็กน้อย ที่สำคัญต้นเหตุของเบาหวานไม่ได้มาจากการกินข้าวหรือคาร์โบไฮเดรตโดยตรง แต่เกิดจากการบริโภคพลังงานมากเกินไปต่างหาก
ทำไมคนญี่ปุ่นถึงเสี่ยงเบาหวานน้อยกว่า
นายแพทย์อู๋ ฉีอิ่ ระบุว่า ชาวญี่ปุ่นแม้จะกินข้าวทุกมื้อ แต่พวกเขาไม่ได้กินอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ข้าวหน้าหมูตุ๋น ข้าวผัด หรือข้าวคลุกน้ำมันหมูเหมือนในบางประเทศ อีกทั้งยังมีพฤติกรรมเดินทางโดยการเดินเท้าเป็นหลัก ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและระดับน้ำตาลในเลือดคงที่มากกว่า
ต้นเหตุของเบาหวานจริงๆ คือ “พลังงานส่วนเกิน”
เขาเสริมว่า สาเหตุหลักของเบาหวานชนิดที่ 2 ไม่ใช่เพราะกินคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป แต่เกิดจาก “การได้รับพลังงานเกินความจำเป็น” จนเกิดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องและรอบเอว ซึ่งพลังงานส่วนเกินมักมาจากน้ำตาลและไขมัน โดยเฉพาะอาหารที่ผสมทั้งสองอย่าง เช่น ข้าวผัดหรือข้าวหน้าหมูตุ๋น จึงทำให้คาร์โบไฮเดรตถูกมองในแง่ลบโดยเข้าใจผิด
เสียงสะท้อนจากชาวเน็ต
หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นหลากหลาย เช่น “เห็นด้วยเลย คนญี่ปุ่นสูงวัยก็มีรูปร่างอวบ แต่ไม่ถึงขั้นอ้วนแบบในไต้หวัน” หรือ “ในไต้หวันแค่จะไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อก็ต้องขี่มอเตอร์ไซค์ เพราะไม่มีทางเท้า ทำให้เดินน้อยลง”
และอีกความเห็นหนึ่งระบุว่า “สาเหตุหลักคือเครื่องดื่มชานมไข่มุก ไม่มีประเทศไหนมีร้านเยอะเท่านี้แล้ว” บางคนยังเสริมว่า “เพื่อนฉันกินข้าวขาวทุกมื้อ ไม่กินของหวานหรืออาหารเย็นนอกบ้าน กลับน้ำหนักลดลงมาก”
สรุป
แพทย์ชี้ว่า การกินข้าวไม่ใช่ตัวการของโรคเบาหวาน แต่ “การใช้ชีวิตและปริมาณพลังงานที่รับเข้า” ต่างหากที่เป็นปัจจัยสำคัญ คนญี่ปุ่นรักษาสมดุลได้ดีเพราะกินอาหารที่ไม่มันเกินไปและออกกำลังกายจากการเดินทางในชีวิตประจำวัน จึงช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้