
ดื่มชา vs ไม่ดื่มชา ใครอายุยืนกว่ากัน? ในที่สุดก็มีคำตอบแล้ว ฮาร์วาร์ดร่วมวิจัย!
ดื่มชาทุกวัน ช่วยให้ “แก่ช้า” สุขภาพดี อายุยืนกว่าคนที่ไม่ดื่ม จริงหรือไม่?
ผลวิจัยล่าสุดพบว่า การดื่มชาดำเป็นประจำ อาจช่วยชะลอกระบวนการเสื่อมของร่างกาย ส่งผลให้มีสุขภาพโดยรวมที่ดีกว่าเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะหากรับประทานควบคู่กับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่และผลไม้รสเปรี้ยวอย่างส้มและแอปเปิ้ล
ชาดำ ดื่มประจำส่งผลดีต่ออายุขัย
จากการศึกษาของมหาวิทยาลัย Edith Cowan ร่วมกับ Queen’s University Belfast และ Harvard T.H. Chan School of Public Health พบว่า ผู้ที่บริโภคอาหารที่มีสารฟลาโวนอยด์สูงอย่างชาดำ เบอร์รี่ ส้ม และแอปเปิ้ล เป็นประจำ มีแนวโน้มที่จะแก่ช้ากว่าและมีสุขภาพดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่บริโภคน้อย
ชาดำมีรสชาติเข้มข้น มีกลิ่นหอมแบบมอลต์ ผ่านกระบวนการออกซิเดชันจนใบชามีสีน้ำตาลเข้ม ผลิตจากต้นชา Camellia sinensis เช่นเดียวกับชาเขียว ชาขาว และชาอู่หลง
อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เสริมสุขภาพในหลายด้าน
ชาดำมีสารฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอลอย่างทีอะฟลาวิน และแอล-ธีอะนีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเครียด เสริมสมาธิ และมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง รวมถึงโรคหลอดเลือดสมอง
สารต้านอนุมูลอิสระยังมีบทบาทสำคัญในการปกป้องเซลล์ของร่างกายจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากการอักเสบ หรือปัจจัยภายนอก เช่น ควันบุหรี่ มลพิษ หรือรังสี ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังและความเสื่อมตามวัย
ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และชะลออายุทางชีวภาพ
งานวิจัยยังชี้ว่า ผู้ที่ดื่มชาดำอย่างสม่ำเสมอมีแนวโน้มลดความเสี่ยงโรคหัวใจ รวมถึงภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องแข็งตัว (Abdominal Aortic Calcification) นอกจากนี้ ข้อมูลจาก National Institutes of Health (NIH) ยังชี้ว่าการบริโภคชาดำอาจสัมพันธ์กับกระบวนการชราที่ช้าลงทางชีวภาพ
- กูรูสหรัฐฯ ยกย่อง "น้ำที่ดีที่สุด" ดื่มยืดอายุขัย ประโยชน์เทียบชาเขียว แก้ง่วงแทนกาแฟได้!
- ฟังให้ดี! วัยรุ่นโรคไตพุ่ง หมอเตือน 5 เครื่องดื่มชื่อคุ้นหู คุกคามอวัยวะภายในไม่รู้ตัว
ฟลาโวนอยด์ช่วยป้องกันความเสื่อมในร่างกาย
ดร.นิโคลา บอนดอนโน หนึ่งในผู้วิจัยระบุว่า "เป้าหมายของการแพทย์สมัยใหม่ไม่ใช่แค่การมีชีวิตยืนยาว แต่ต้องการให้ผู้คนมีสุขภาพดีในระยะยาวด้วย เราพบว่าผู้ที่บริโภคฟลาโวนอยด์มาก มีแนวโน้มอายุยืน และเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังอย่างสมองเสื่อม เบาหวาน และโรคหัวใจน้อยลง"
จากกลุ่มตัวอย่างผู้หญิง 62,743 คน และผู้ชาย 23,687 คน พบว่าผู้หญิงที่บริโภคฟลาโวนอยด์มากมีโอกาสเสี่ยงต่อความเปราะบางของร่างกายลดลง 15% ลดปัญหาด้านการเคลื่อนไหว 12% และลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพจิต 12%
แม้ในกลุ่มผู้ชายจะไม่ได้เห็นผลในทุกด้านเท่าผู้หญิง แต่ก็ยังพบว่า ฟลาโวนอยด์มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพจิตได้เช่นกัน
บริโภคเป็นประจำ ช่วยให้แก่ช้าลงอย่างมีคุณภาพ
ศาสตราจารย์เอเดน แคสซิดี้ หนึ่งในทีมวิจัยกล่าวว่า "ฟลาโวนอยด์มีบทบาทในการลดการอักเสบ ลดความเครียดจากออกซิเดชัน และช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง รวมถึงรักษามวลกล้ามเนื้อ ซึ่งล้วนสำคัญต่อการชะลอความเสื่อมของร่างกาย"
การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยฟลาโวนอยด์ เช่น เบอร์รี่ แอปเปิ้ล ส้ม ไวน์แดง และชาดำ เป็นประจำ จึงอาจเป็นกุญแจสำคัญของการมีสุขภาพดีในวัยชรา ลดความเสี่ยงการเคลื่อนไหวเสื่อม สุขภาพจิตถดถอย และภาวะร่างกายเปราะบาง