เนื้อหาในหมวด ข่าว

เปิดภาพถ่าย \

เปิดภาพถ่าย "สุดหลอน" รพ.เมื่อปี 1950 ยุคมืดกับฝันร้ายที่ไม่อาจลืม โลกเคยเกิดอะไรขึ้น?

ภาพถ่ายสะเทือนใจปี 1950 เครื่องปอดเหล็ก กับบทเรียนจากฝันร้าย "โรคโปลิโอ" ยุคมืดที่ไม่เคยลืม

ภาพถ่ายที่สะเทือนใจจากปี 1950 นี้ เป็นเครื่องเตือนใจถึงยุคมืดของวิกฤตการณ์ทางการแพทย์ที่แม้จะผ่านไปแล้ว แต่ไม่อาจลืมเลือนได้

ในภาพคือเด็กๆ ที่นอนนิ่งอยู่ภายในเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่เรียกว่า เครื่องปอดเหล็ก เครื่องมือเหล่านี้ซึ่งเป็นเหมือนกรงเหล็กยาว ถือเป็นแนวป้องกันขั้นสุดท้ายเพื่อช่วยให้เด็กๆ ที่เป็นโรคโปลิโอซึ่งเป็นโรคร้ายที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงจนไม่สามารถหายใจเองได้ สามารถมีชีวิตรอดต่อไป

โรคโปลิโอ: ฝันร้ายของเด็กยุคก่อน

โรคโปลิโอ หรือที่เรียกว่าโรคไขสันหลังอักเสบเฉียบพลัน เคยเป็นภัยร้ายแรงทั่วโลก โดยเฉพาะในเด็กของประเทศตะวันตกช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 โรคนี้ถูกขนานนามว่า “ฆาตกรฤดูร้อน” เพราะระบาดหนักในช่วงนั้น แตกต่างจากโรคติดต่ออื่นๆ โปลิโอแพร่เชื้อผ่านทางอาหารและน้ำที่ปนเปื้อน แม้ส่วนใหญ่จะมีอาการเล็กน้อยคล้ายไข้หวัดใหญ่ แต่บางส่วนของผู้ป่วยจะถูกไวรัสทำลายเซลล์ประสาท ทำให้เกิดอัมพาตถาวรในแขนขา และบางครั้งยังรวมถึงกล้ามเนื้อที่ช่วยหายใจด้วย

ปี 1952: ปีแห่งวิกฤตโปลิโอในสหรัฐ

ปีที่เลวร้ายที่สุดในสหรัฐอเมริกาคือปี 1952 ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเกือบ 58,000 ราย มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน และผู้พิการอีกจำนวนมาก โรคนี้สร้างความหวาดกลัวไปทั่วสังคมจนสถานที่สาธารณะอย่างสระว่ายน้ำ โรงหนัง และสนามเด็กเล่น ต้องปิดทุกครั้งในฤดูร้อน เมื่อตัวโรคโจมตีกล้ามเนื้อระหว่างซี่โครงและกล้ามเนื้อกะบังลม ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถหายใจเองได้ จำเป็นต้องใช้เครื่องปอดเหล็กเพื่อช่วยหายใจ

เครื่องปอดเหล็ก: เครื่องมือชีวิตและกรงขัง

เครื่องปอดเหล็ก หรือ Pressure Ventilator คือกล่องเหล็กที่ปิดมิดชิด ล้อมรอบร่างกายผู้ป่วยตั้งแต่คอลงไป โดยมีขอบรอบคอที่รองด้วยยางเครื่องนี้ทำงานโดยการเป่าลมออกเพื่อสร้างแรงดันลบภายในกล่อง ทำให้หน้าอกขยายและดึงลมหายใจเข้า จากนั้นจะเป่าลมกลับเข้าไปเพื่อสร้างแรงดันบวก ผลักหน้าอกและลมหายใจออก

แม้เครื่องปอดเหล็กจะช่วยชีวิตได้ แต่มันก็เป็นบททดสอบความทรมานสำหรับผู้ป่วยที่ต้องถูกขังอยู่ในนั้นนิ่งๆ ตลอดเวลา พวกเขามองโลกผ่านกระจกหรือใบหน้าของพยาบาลและคนในครอบครัว ทุกความต้องการพื้นฐานต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากทีมแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารที่ต้องทำผ่านท่อหรือการเอียงเครื่อง รวมถึงกิจกรรมอย่างอ่านหนังสือหรือเล่นเกมที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ นอกจากนี้เสียงเครื่องจักรที่ทำงานต่อเนื่องตลอดเวลา ยังเพิ่มความเครียดทางจิตใจให้กับผู้ป่วยที่ต้องใช้ชีวิตในเครื่องนี้เป็นเวลานานหลายปี

ชัยชนะของวัคซีนโปลิโอ

ท่ามกลางความหวาดกลัว วัคซีนโปลิโอได้ถูกพัฒนาโดย ดร. โจนาส ซาล์ก ในช่วงปี 1950 ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated Polio Vaccine - IPV) ใช้ไวรัสโปลิโอที่ถูกฆ่าด้วยสารเคมี

ในปี 1954 มีการทดลองทางคลินิกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การแพทย์ โดยมีเด็กกว่า 1.8 ล้านคนเข้าร่วม และเมื่อวันที่ 12 เมษายน 1955 ประกาศว่าวัคซีนของซาล์กมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นวันที่มีความหมายพิเศษเพราะตรงกับวันครบรอบ 10 ปีการเสียชีวิตของประธานาธิบดีแฟรงกลิน ดี. รูสเวลต์ ผู้เป็นเหยื่อที่มีชื่อเสียงของโรคนี้

ซาล์กปฏิเสธผลประโยชน์ส่วนตัวโดยกล่าวว่า “ไม่มีสิทธิบัตร ใครจะไปขอจดสิทธิบัตรดวงอาทิตย์ได้?” ต่อมาวัคซีนชนิดรับประทาน (OPV) ของอัลเบิร์ต ซาบิน ในปี 1961 ทำให้การฉีดวัคซีนเป็นเรื่องง่ายและแพร่หลายมากขึ้น

ด้วยโครงการฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวาง จำนวนผู้ป่วยโปลิโอในสหรัฐลดลงจากเกือบ 58,000 รายในปี 1952 เหลือเป็นศูนย์ในปี 1979 องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังเริ่มแคมเปญทั่วโลกเพื่อล้มล้างโรคโปลิโอ และปัจจุบันโรคนี้แทบจะหมดไปจากประเทศส่วนใหญ่เหลือเพียงบางพื้นที่เล็กๆ เท่านั้น

บทเรียนจากอดีตและความหวังในอนาคต

ภาพของเครื่องปอดเหล็กในอดีตกลายเป็นสัญลักษณ์ของฝันร้ายที่ผ่านพ้นไปแล้ว ภาพถ่ายปี 1950 ไม่เพียงเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเตือนใจถึงความโหดร้ายของโรคติดเชื้อ ความเข้มแข็งของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ และที่สำคัญที่สุดคือชัยชนะของวิทยาศาสตร์ วัคซีนโปลิโอเป็นหนึ่งในความสำเร็จทางการแพทย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีและความรู้สามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมมนุษย์และช่วยชีวิตผู้คนนับล้านจากโรคร้าย