วิจัยเฉลยแล้ว "คนจูบกัน" ทำไมถึงเอียงหัวไปทางขวา? อึ้ง เหตุผลเริ่มตั้งแต่อยู่ในครรภ์แม่!
เรื่องนี้เราจริงจัง! "ทำไมเวลาจูบคนถึงเอียงศีรษะไปทางขวา?" วิจัยเฉลยแล้ว มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์รองรับ
งานวิจัยใหม่จากมหาวิทยาลัยบาธ (University of Bath) ประเทศอังกฤษ ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports เผยว่าเกือบสามในสี่ของประชากรทั่วโลกมีแนวโน้มจะเอียงหัวไปทางขวาเมื่อจูบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด
การศึกษาพฤติกรรมธรรมชาติของมนุษย์ขณะจูบ
เพื่อทำความเข้าใจปฏิกิริยาโดยสัญชาตญาณของมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการสำรวจคู่สมรสชายหญิง 48 คู่ในประเทศบังกลาเทศ ซึ่งเป็นประเทศที่การแสดงฉากจูบบนโทรทัศน์และภาพยนตร์ถือว่าผิดกฎหมาย การเลือกกลุ่มตัวอย่างเช่นนี้ช่วยตัดปัจจัย “การเลียนแบบจากสื่อ” ออกไป ทำให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับพฤติกรรมตามธรรมชาติของมนุษย์มากที่สุด
คู่รักที่เข้าร่วมการทดลองถูกขอให้จูบกันในพื้นที่ส่วนตัวภายในบ้าน ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต้องสนใจ เพราะพบว่าประมาณ 70% ของผู้เข้าร่วมมีแนวโน้มเอียงหัวไปทางขวาขณะจูบ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเริ่มหรือฝ่ายตอบสนอง ซึ่งสัดส่วนนี้ใกล้เคียงกับข้อมูลที่เคยบันทึกไว้ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา
ผู้ชายมักเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
อีกหนึ่งผลการค้นพบที่น่าสนใจคือ ผู้ชายเป็นฝ่ายเริ่มจูบมากกว่าผู้หญิงถึง 15 เท่า โดยในราว 79% ของกรณี ฝ่ายชายเป็นผู้เริ่มก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกับบทบาท “ผู้นำ” ในการแสดงความใกล้ชิดในรูปแบบอื่น ๆ
นอกจากนี้ ท่าทางของฝ่ายเริ่มมักส่งผลโดยตรงต่อการตอบสนองของอีกฝ่าย กล่าวคือ หากผู้ชายเอียงหัวไปทางขวา ผู้หญิงก็มักจะเอียงไปทางเดียวกัน เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกเก้อเขินหรือการชนกันของใบหน้า สถิติยังระบุว่าความน่าจะเป็นที่อีกฝ่ายจะเอียงหัวไปในทิศทางเดียวกันจะเพิ่มขึ้นกว่า 11 เท่า เมื่อผู้เริ่มจูบเลือกเอียงไปทางขวา
ทำไมถึงต้องเป็น “ด้านขวา”?
นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า แนวโน้มการเอียงหัวไปทางขวาอาจมีต้นกำเนิดจากกระบวนการทางชีวภาพที่เกิดขึ้นตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ งานวิจัยเกี่ยวกับทารกในครรภ์ยังพบว่า ทารกมีแนวโน้มจะหันหัวไปทางขวามากกว่าซ้าย ซึ่งอาจเป็นรูปแบบของ “ความเอนเอียงโดยกำเนิด”
นอกจากนี้ ความเคยชินของคนที่ถนัดขวาก็มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้ที่ถนัดขวามักจะเอียงหัวไปทางขวาโดยธรรมชาติเมื่อเริ่มต้นการกระทำที่ต้องใช้ความใกล้ชิด เช่น การจูบหรือการโอบกอด
ในเชิงสรีรวิทยา ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (testosterone) ซึ่งมีระดับสูงกว่าในเพศชาย อาจมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมเชิงรุก ในขณะที่โดพามีน (dopamine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และแรงจูงใจ อาจมีบทบาทในการควบคุมทิศทางการเอียงของศีรษะผ่านความไม่สมดุลระหว่างสมองซีกซ้ายและขวา
การเอียงหัวช่วยสร้างความรู้สึกกลมกลืน
แม้การเอียงหัวจะเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่การเอียงไปในทิศทางเดียวกันช่วยให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติมากขึ้นในช่วงเวลาของความใกล้ชิด ตรงกันข้าม หากหันคนละทาง นอกจากจะรู้สึกเก้อเขินแล้ว ยังอาจทำให้นาทีแห่งความโรแมนติกกลายเป็นความอึดอัด
กล่าวโดยสรุป วิธีเอียงหัวขณะจูบสะท้อนให้เห็นถึงความสอดประสานระหว่างสัญชาตญาณ ความเคยชิน และอารมณ์ ซึ่งไม่ใช่แค่ท่าทางโรแมนติกเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณของการเชื่อมโยงทางใจระหว่างสองคนอย่างลึกซึ้ง
- เปิดต้นกำเนิด "การจูบ" ของมนุษย์ ไม่ใช่แสดงความรัก รู้จุดประสงค์ร้องห้าาา อวสานโรแมนติก !!!
- ทำไมควรมอง "ตาซ้าย" ของคู่สนทนา นักประสาทวิทยาเฉลย เทคนิคดีๆ ที่คนไม่ค่อยรู้!
ครั้งหน้าที่คุณจูบคนรัก ลองสังเกตดูว่าคุณเอียงหัวไปทางไหน เพราะมีโอกาสสูงถึง 70% ที่คุณจะเอียงหัวไปทางขวา เหมือนกับคนส่วนใหญ่ทั่วโลก ซึ่งอาจเป็นด้านขวาแห่ง “ความรัก” ของคุณเอง

ขอบคุณข้อมูล