เนื้อหาในหมวด ข่าว

ไม่อยากเจอดีอย่าทำ! 14 ข้อห้ามเมื่ออยู่ \'แปลกที่\' ใครท้าทายระวัง \'แขกไม่รับเชิญ\'

ไม่อยากเจอดีอย่าทำ! 14 ข้อห้ามเมื่ออยู่ 'แปลกที่' ใครท้าทายระวัง 'แขกไม่รับเชิญ'

เปิดลิสต์ 14 ข้อห้าม! ความเชื่อเมื่อไป 'แปลกที่หลอน' ไม่อยากเจอดี...อย่าหาทำ

เวลาที่ต้องเดินทางไปพักค้างแรมในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เช่น โรงแรมเก่า บ้านพักต่างถิ่น หรือแม้แต่บ้านร้างที่หลายคนร่ำลือ มักจะมีความเชื่อและ "ข้อห้าม" ที่คนโบราณถือปฏิบัติสืบต่อกันมา เพื่อป้องกันไม่ให้พบเจอกับสิ่งลี้ลับ หรือพลังงานที่ไม่ดี

บทความนี้ Sanook.cpm ได้รวบรวม 14 ข้อห้ามสำคัญ ที่เชื่อกันว่าอาจเป็นการ "เปิดทาง" ให้เราได้เจอกับสิ่งที่มองไม่เห็น แม้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน แต่การปฏิบัติตามไว้ก็ไม่เสียหาย เพื่อความสบายใจตลอดการเดินทาง (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

14 ข้อห้าม เมื่ออยู่ในสถานที่หลอน

  • ห้ามพูดท้าทายหรือเรียกผี คำพูดมีพลัง การพูดท้าทาย เช่น “มีจริงไหม ออกมาสิ” ถือเป็นการเชื้อเชิญให้สิ่งลี้ลับปรากฏตัว เพราะเป็นการเปิดช่องให้พลังเหล่านั้นเข้ามา
  • ห้ามผิวปากในยามค่ำคืน
    เชื่อกันว่าเสียงผิวปากในเวลากลางคืน หรือในที่เปลี่ยว คล้ายกับเสียงเรียกของดวงวิญญาณ และอาจเป็นการเรียกให้สิ่งที่มองไม่เห็นเข้ามาหา
  • ห้ามชี้นิ้วไปในที่มืดหรือสิ่งที่น่ากลัว
    การชี้นิ้วไปยังบางสิ่งในที่มืด หรือจุดที่น่าสงสัย อาจเป็นการยั่ว หรือเรียกพลังงานนั้นให้ตอบสนองกลับมา และอาจทำให้เจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ห้ามนอนปลายเตียงตรงกับกระจก
    กระจกถือเป็นประตูเชื่อมระหว่างโลก การนอนโดยให้ปลายเท้าหันตรงเข้ากระจก อาจทำให้เห็นภาพสะท้อนของสิ่งที่ไม่ควรเห็น หรือวิญญาณอาจผ่านเข้ามาในยามหลับ
  • ห้ามนอนปลายเตียงตรงกับประตูห้อง
    ทั้งตามหลักฮวงจุ้ยและความเชื่อไทย ถือว่าตำแหน่งนี้เป็น "ประตูผี" หรือประตูสำหรับเคลื่อนย้ายศพ การจัดเตียงแบบนี้จึงถือเป็นลางไม่ดี
  • ห้ามนอนหัวเตียงตรงกับประตูห้อง
    เป็นจุดที่รับพลังไหลเข้าโดยตรง ทำให้นอนหลับไม่สนิท และเชื่อว่าอาจถูกสิ่งที่มองไม่เห็นรบกวนได้ง่ายกว่าปกติ
  • ห้ามพักห้องที่อยู่ตรงกับหน้าบันไดหรือหน้าลิฟต์
    ห้องที่เปิดประตูแล้วเจอบันไดหรือลิฟต์ตรงๆ จะรับพลังไม่ดีที่พุ่งเข้าห้องโดยตรง และยังเชื่อว่าเป็นทางผ่านของวิญญาณ
  • ห้ามเว้นพื้นที่ข้างเตียงโล่งเกินไป
    การเว้นที่ว่างข้างเตียงมากเกินไป โดยเฉพาะเมื่อนอนคนเดียว เชื่อว่าเหมือนเป็นการเว้นที่ให้ "ใคร" มานอนด้วย ควรวางของเช่น กระเป๋า ไว้ข้างๆ
  • ห้ามนำของเก่าหรือของที่ไม่รู้ที่มาเข้าห้อง
    ของบางชิ้น เช่น ตุ๊กตา ภาพวาด หรือเครื่องรางเก่า อาจมีพลังงานหรือเจ้าของเดิมติดตามมา การนำเข้ามาในที่พักอาจนำพลังลึกลับมาด้วย
  • ห้ามเก็บของแปลกๆ ที่เจอในที่ร้างกลับบ้าน
    คนโบราณเชื่อว่าของบางอย่างถูกทิ้งไว้เพื่อกักเก็บสิ่งไม่ดี หรือเป็นของใช้ผู้ล่วงลับ การเก็บกลับไปเท่ากับนำเจ้าของติดตามกลับมาด้วย
  • ห้ามเคาะประตูเช็กคนก่อนเข้าพัก
    การเคาะประตูเล่น หรือเคาะเพื่อลองเชิงว่ามีคนอยู่หรือไม่ (ต่างจากการเคาะเพื่อขออนุญาต) ถือเป็นการทักทาย หรือ "เชื้อเชิญ" ให้สิ่งที่มองไม่เห็นที่อาจอยู่ในห้องนั้น ออกมาพบเจอ
  • อย่าเรียกชื่อกันเสียงดัง
    ในสถานที่แปลกถิ่น โดยเฉพาะยามค่ำคืน เชื่อว่าการเรียกชื่อกันเสียงดัง อาจทำให้วิญญาณหรือเจ้าที่เจ้าทางที่สิงสถิตอยู่ ณ ที่นั้น "จำชื่อ" ของเราได้ และอาจติดตามกลับบ้าน
  • อย่าแขวนเสื้อผ้าหรือของใช้ไว้ปลายเตียง
    เพราะในยามค่ำคืน เมื่อเราตื่นมาแบบสะลึมสะลือ แสงไฟสลัวๆ อาจทำให้เงาหรือรูปทรงของเสื้อผ้าที่แขวนไว้ ดูคล้าย "คนยืน" จ้องมองเราอยู่ที่ปลายเตียง ทำให้ตกใจและขวัญเสียได้
  • อย่าถ่ายรูปเตียงหรือมุมต่างๆ เล่นในห้อง
    โดยเฉพาะการถ่ายรูปเตียงที่ยังไม่ได้ใช้งาน หรือมุมห้องที่ดูอับทึบ เชื่อกันว่าอาจมี "บางสิ่ง" ที่ไม่ได้รับเชิญ ติดเข้ามาในรูปถ่ายโดยที่เราไม่รู้ตัว
  • สรุป

    แม้ข้อห้ามเหล่านี้จะเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลที่สืบทอดกันมา แต่ล้วนมีรากฐานมาจากความระมัดระวังและการเคารพต่อสถานที่และสิ่งที่มองไม่เห็น การไม่พูดจาท้าทาย หรือไม่ทำสิ่งไม่เหมาะสมใน "สถานที่หลอน" หรือที่ไม่คุ้นเคย ก็เป็นทั้งการให้เกียรติและป้องกันความรู้สึกไม่สบายใจของเราเองได้ดีที่สุด