หมอชี้ 5 สัญญาณเตือนบนร่างกาย หากทำไม่ได้อาจแปลว่า "คุณกำลังแก่ก่อนวัย"
หมอเผย “5 สัญญาณเตือน” ที่ไม่ควรมองข้าม หากทำไม่ได้อาจแปลว่า "คุณกำลังแก่ก่อนวัยอันควร"
ทุกคนต่างพยายามชะลอวัยด้วยวิธีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ครีมบำรุง หรือการเข้ารับทรีตเมนต์เสริมความงาม แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยได้เปิดเผย 5 สัญญาณสำคัญ ที่บ่งบอกถึงภาวะ "แก่ก่อนวัย" ที่คุณไม่ควรมองข้าม โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางร่างกาย
ดร. มิทช์ เกน (Dr. Mitch Ghen) ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แบบองค์รวมและการชะลอวัย กล่าวว่า แม้ว่าการมีสุขภาพที่ดีจะมาจากอาหารที่สมดุล การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป แต่สัญญาณต่อไปนี้คือตัวบ่งชี้ความเสื่อมของร่างกายที่ชัดเจน
1. ระยะเวลาพักฟื้นจากอาการป่วย
หากระบบภูมิคุ้มกันของคุณเริ่มอ่อนแอลง คุณอาจป่วยนานขึ้นและมีการติดเชื้อซ้ำบ่อยครั้ง ดร. เกนกล่าวว่า ตัวบ่งชี้สุขภาพที่สำคัญคือความสามารถในการฟื้นตัวจากไวรัส ซึ่งควรจะหายได้ภายใน 10 วัน นอกจากอาการเหนื่อยล้าเป็นประจำแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่สามารถตรวจสอบภาวะอักเสบเรื้อรังได้ คือการตรวจสุขภาพช่องปากของคุณ
ดร. เกนระบุว่า "ลองตรวจสอบเหงือกของคุณ เหงือกไม่ควรมีเลือดออกหรืออักเสบเมื่อคุณแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ" และแนะนำให้ลดการอักเสบผ่านสารประกอบธรรมชาติ เช่น เคอร์คูมิน และ EGCG ซึ่งพบในขมิ้นและชาเขียว
2. กำลังการกำมือ
ดร. เกนกล่าวว่า "การมีกำลังการกำมือที่แข็งแรงสัมพันธ์กับมวลกล้ามเนื้อที่ดีขึ้น สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดที่ดีขึ้น รวมถึงการมีอายุยืนยาว" แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น เรามักจะอ่อนแอลงและสูญเสียความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
คุณสามารถวัดกำลังการกำมือได้ที่คลินิกแพทย์ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่าไดนาโมมิเตอร์ (Dynamometer) ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที หรือทดสอบความแข็งแรงง่าย ๆ ที่บ้านโดยการกำลูกเทนนิสให้แน่นที่สุด หรือบิดผ้าเปียกให้แห้ง หากคุณมีอาการปวดข้อ ข้อติดขัด หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง ควรเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบกล้ามเนื้อของคุณกำลังเสื่อมสภาพ
3. ฮอร์โมนและความต้องการทางเพศ
เมื่อเรามีอายุมากขึ้น ระดับฮอร์โมนจะลดลงตามธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น อารมณ์แปรปรวน อาการร้อนวูบวาบ ความคิดไม่ปลอดโปร่ง หรือแม้แต่ผมร่วงและปัญหาการนอนหลับ ความต้องการทางเพศที่ลดลงก็เป็นสัญญาณบ่งชี้ที่แฝงอยู่ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่กำลังเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
การบำบัดด้วยฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอาจเป็นประโยชน์ทั้งสำหรับผู้ชายและผู้หญิง เช่นเดียวกับการเสริมด้วยฮอร์โมน Pregnenolone และ DHEA ซึ่ง ดร. เกนกล่าวว่าจะช่วย "รักษาระดับฮอร์โมนให้อยู่ในระดับที่เหมือนวัยหนุ่มสาว"
4. อาการขี้หลงขี้ลืม
การรู้สึกสับสนหรือขี้หลงขี้ลืมมากกว่าปกติ หรือการมีปัญหาในการจดจ่อ ก็เป็นอีกสัญญาณหนึ่งของความชรา ในกรณีที่ร้ายแรงกว่านั้น อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้บ่งชี้ว่าการทำงานของระบบความรู้ความเข้าใจ (Cognitive Function) กำลังลดลง
ข่าวดีคือสมองสามารถฝึกฝนและเสริมสร้างได้เหมือนกับกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ ดร. เกนแนะนำให้ท้าทายสมองของคุณด้วยเกมหรือภารกิจที่ต้องใช้ความคิด และให้ความสำคัญกับการนอนหลับ โดยควรรักษาสภาพห้องนอนให้มืด หลีกเลี่ยงการนำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องนอน ปิด Wi-Fi และหลีกเลี่ยงยานอนหลับ
5. ความสามารถในการออกกำลังกาย
การรักษาร่างกายให้แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดต่อสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ และเน้นการเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์
หากคุณรู้สึกวิงเวียนศีรษะบ่อยครั้ง หรือหายใจติดขัดหลังทำกิจกรรมเพียงเล็กน้อย อาจเป็นสัญญาณว่าหัวใจของคุณกำลังทำงานหนัก และสูบฉีดเลือดได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
