รู้จัก 1 ในปลาที่แพงที่สุดในโลก ซ่อน "ขุมทรัพย์ล้ำค่ากว่าทองคำ" ในท้อง
เจาะลึก 1 ในปลาที่แพงที่สุดในโลก "ปลาจวดสีทอง" ซ่อน "ขุมทรัพย์ล้ำค่ากว่าทองคำ" ในท้อง
ในบรรดาสัตว์ทะเลมากมายในน่านน้ำเวียดนาม มีชื่อหนึ่งที่ชาวประมงพูดถึงกันคือ ปลาจวดสีทอง (Golden Croaker) ปลาหายากชนิดนี้ไม่เพียงแต่มีชื่อเสียงจากเนื้อที่อร่อยที่สุดเท่านั้น แต่ยังมี "ขุมทรัพย์" ที่แท้จริงซ่อนอยู่ลึกเข้าไปในตัว นั่นก็คือ "กระเพาะปลา" ซึ่งมีมูลค่าเปรียบได้กับทองคำบริสุทธิ์
ปลาหายากที่มีลำตัวสีเหลืองทองระยิบระยับ
ตามรายงานของสื่อเวียดนาม ปลาจวดสีทอง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Otolithoides biauritus) มีการกระจายพันธุ์กว้างขวางตั้งแต่บริเวณมหาสมุทรอินเดียไปจนถึงแปซิฟิกตะวันตก รวมถึงทะเลเวียดนามด้วย ปลาชนิดนี้มีนิสัยชอบอาศัยอยู่ในบริเวณก้นทะเลของเขตอบอุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณปากแม่น้ำและน้ำกร่อย
ปลาจวดสีทองมีขนาดใหญ่โตน่าประทับใจ โดยตัวเต็มวัยสามารถยาวได้มากกว่า 1 เมตร และหนักหลายสิบกิโลกรัม จุดเด่นที่ระบุตัวตนได้ง่ายที่สุดคือ ลำตัวของปลาเรืองแสงเป็นสีทองอร่ามระยิบระยับใต้น้ำ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ "ปลาจวดสีทอง" อันทรงคุณค่า

กระเพาะปลา: "อัญมณีล้ำค่า" แห่งท้องทะเล
ในด้านอาหาร เนื้อปลาจวดสีทองจัดอยู่ในระดับพรีเมียม มีเนื้อแน่น รสชาติหวานนุ่ม และมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก มักปรากฏอยู่ในเมนูของร้านอาหารหรูหราที่สุดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ปลานี้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล และกลายเป็นตำนาน ไม่ได้อยู่ที่เนื้อ แต่เป็นอวัยวะที่อยู่ลึกเข้าไปในช่องท้อง
ภายในท้องของปลาจวดสีทองมีกระเพาะปลาที่มีโครงสร้างพิเศษอย่างยิ่ง ซึ่งถือเป็น "อัญมณีล้ำค่า" แห่งท้องทะเล กระเพาะปลานี้มีผนังหนา มีโครงสร้างเป็นเส้นใยสานกัน และมีปริมาณคอลลาเจนสูงมาก เมื่อนำมาแยกและตากแห้ง จะกลายเป็นยาที่มีค่าในแพทย์แผนโบราณ เชื่อกันว่ามีความสามารถในการบำรุงเลือดและพลังงาน เสริมกำลังวังชา จนถึงขั้นถูกเปรียบเทียบกับโสมในด้านสรรพคุณการฟื้นฟูสุขภาพ
ราคาพุ่งสูงเพื่อใช้ในศัลยกรรมและการแพทย์
มูลค่าของกระเพาะปลาจวดสีทองไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น แต่ยังขยายไปสู่สาขาการแพทย์แผนปัจจุบันและภาคอุตสาหกรรม ด้วยโครงสร้างทางชีวภาพที่เป็นเอกลักษณ์ กระเพาะปลานี้ถูกใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต ไหมละลาย เกรดพรีเมียมที่สุดในการผ่าตัดจุลศัลยกรรมที่ซับซ้อน
เนื่องจากประโยชน์ที่หลากหลายและมีค่าเหล่านี้เอง ทำให้กลุ่มมหาเศรษฐีในหลายประเทศแถบเอเชีย โดยเฉพาะจีนและฮ่องกง พร้อมที่จะทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อตามล่า "ขุมทรัพย์" ชิ้นนี้

ตามรายงานของสื่อในเวียดนาม ราคาของกระเพาะปลาจวดสีทองสด 1 กิโลกรัม อยู่ระหว่าง 45,000 – 55,000 ดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่าประมาณ 1.4–1.7 ล้านบาท) หากปลาจวดสีทองมีน้ำหนัก 40-50 กิโลกรัม กระเพาะปลาสดจะมีน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม
นอกจากการแพทย์แผนโบราณแล้ว ในการแพทย์สมัยใหม่ กระเพาะปลาจวดสีทองยังถูกใช้ในการผลิตไหมละลายที่ใช้ในการผ่าตัด ซึ่งไหมชนิดนี้ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อและลดความเสี่ยงของการอักเสบได้อีกด้วย
ความกังวลด้านการอนุรักษ์
แม้ว่าปลาจวดสีทองจะนำมาซึ่งมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง แต่ก็กำลังเผชิญกับการลดลงของจำนวนประชากรอย่างต่อเนื่อง และจำเป็นต้องได้รับการอนุรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญบางรายให้ความเห็นว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาของปลาชนิดนี้พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก คือ "ทัศนคติ" ของคนบางกลุ่มที่ต้องการยืนยันสถานะของตนเอง ด้วยการครอบครองหรือบริโภคสินค้าหายาก