หากติดเกาะ ไม่มีน้ำสะอาด ระหว่าง "ฉี่" กับ "น้ำทะเล" ดื่มอะไรถึงจะมีชีวิตรอดได้นานกว่ากัน
ติดเกาะ ขาดน้ำจืด ระหว่าง "ฉี่" กับ "น้ำทะเล" ดื่มอะไร รอดนานกว่า?
ในสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อต้องติดเกาะและขาดน้ำจืด หลายคนอาจนึกถึงคำถามสุดขั้วว่า ระหว่าง ดื่มฉี่ กับ ดื่มน้ำทะเล อะไรคือทางเลือกที่ดีกว่าเพื่อการเอาชีวิตรอด แม้ว่าทั้งสองทางเลือกจะไม่ใช่ทางออกที่ดี แต่ในภาวะคับขัน การตัดสินใจนี้อาจส่งผลต่อระยะเวลาการรอดชีวิตที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ทำไมการดื่มน้ำทะเลจึงอันตรายถึงชีวิต
ความเชื่อที่ว่าการดื่มน้ำทะเลช่วยประทังชีวิตนั้นเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างร้ายแรง น้ำทะเลมีความเข้มข้นของเกลือ (Salinity) สูงกว่าในร่างกายมนุษย์มาก (ประมาณ 3.5%) เมื่อดื่มเข้าไป ร่างกายจะต้องใช้ "น้ำ" ที่มีอยู่เดิมในเซลล์เพื่อพยายามขับเกลือส่วนเกินนี้ออกทางไต
ผลลัพธ์คือ แทนที่จะได้น้ำเพิ่ม ร่างกายกลับต้องสูญเสียน้ำจืดในปริมาณที่มากกว่าน้ำทะเลที่ดื่มเข้าไป ทำให้ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) รุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว นำไปสู่ภาวะไตวายเฉียบพลันและเสียชีวิตได้เร็วกว่าการไม่ดื่มอะไรเลยเสียอีก
ดื่มฉี่ ดีกว่าจริงหรือ?
ฉี่ หรือปัสสาวะ ประกอบด้วยน้ำประมาณ 95% ส่วนที่เหลือคือของเสียที่ร่างกายขับออกมา เช่น ยูเรีย เกลือแร่ และสารพิษอื่นๆ ที่ไตกรองทิ้ง การดื่มฉี่จึงเปรียบเสมือนการนำของเสียกลับเข้าร่างกายอีกครั้ง
ในระยะสั้นมากๆ (อาจจะแค่ครั้งหรือสองครั้งแรกที่ร่างกายยังไม่ขาดน้ำรุนแรง) ร่างกายอาจได้รับ "น้ำ" กลับคืนมาบ้าง ซึ่งอาจช่วยยืดเวลาการรอดชีวิตได้เล็กน้อย แต่เมื่อดื่มซ้ำๆ ความเข้มข้นของของเสียและสารพิษในฉี่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นอันตรายต่อไตและระบบต่างๆ ไม่ต่างจากการดื่มยาพิษเจือจาง
สรุป: ทางเลือกที่ "เลวร้ายน้อยกว่า"
หากถูกบังคับให้เลือกในสถานการณ์ที่ไม่มีทางอื่นจริงๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเอาชีวิตรอดหลายแหล่งชี้ว่า การดื่มฉี่ (ในระยะสั้น) เป็นทางเลือกที่ เลวร้ายน้อยกว่า การดื่มน้ำทะเล
เหตุผลสำคัญคือ การดื่มน้ำทะเลจะเร่งให้คุณเสียชีวิตเร็วขึ้น อย่างแน่นอน เพราะมันดึงน้ำออกจากร่างกาย (Net water loss) แต่การดื่มฉี่ (ในครั้งแรกๆ) อย่างน้อยก็ไม่ได้เร่งกระบวนการขาดน้ำให้เร็วขึ้น แม้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะนำไปสู่ภาวะเป็นพิษและไตวายเช่นกัน
ทางรอดที่แท้จริงคืออะไร
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญทุกคนแนะนำเป็นเสียงเดียวกันว่า ห้ามดื่มทั้งสองอย่าง หากเป็นไปได้ ทางเลือกที่ดีที่สุดในการเอาชีวิตรอดเมื่อขาดน้ำ คือการพยายามหาแหล่งน้ำจืดอื่นๆ เช่น:
- การรองน้ำค้างในตอนเช้าตรู่
- การหาพืชที่กักเก็บน้ำ (ต้องมีความรู้เพื่อป้องกันพืชพิษ)
- การสร้างเครื่องกลั่นน้ำอย่างง่าย (Solar still) โดยใช้ความร้อนจากแสงแดดเพื่อระเหยน้ำ (อาจรวมถึงน้ำทะเลหรือฉี่) แล้วกักเก็บไอน้ำบริสุทธิ์ที่ควบแน่น