แพทย์เตือน! "ห้ามโกนขนบริเวณนี้" เผยอันตรายทางสุขภาพ ที่หลายคนมองข้าม
หมอเมืองนอกเตือน! อวัยวะส่วนนี้ของร่างกายที่ "ไม่ควรโกนขน" เผยอันตรายทางสุขภาพที่หลายคนมองข้าม
นายแพทย์ ไมค์ วาร์ชาฟสกี หรือที่รู้จักกันในชื่อ Doctor Mike บน YouTube ได้ออกมาเตือนถึงอันตรายด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการโกนขนในบริเวณหนึ่งของร่างกาย แม้ว่าหลายคนจะโกนหนวด ขนรักแร้ หรือขนขาเป็นประจำ แต่มีบริเวณหนึ่งที่แพทย์แนะนำให้ปล่อยไว้ตามธรรมชาติ
Doctor Mike ได้หยิบยกประเด็นทางการแพทย์ที่หลายคนรู้สึกอายเกินกว่าจะถามแพทย์ของตนเองมาพูดคุย โดยเขาได้เผยถึงอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายที่คุณไม่ควรโกน นั่นก็คือ บริเวณอวัยวะเพศ หรือขนหัวหน่าว เนื่องจากมีงานวิจัยบางชิ้นที่แสดงให้เห็นว่า การโกนขนในบริเวณนี้มีความสัมพันธ์กับอัตราการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) ที่เพิ่มสูงขึ้น

เหตุผลทางการแพทย์ที่ควรหยุดโกน
ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์อธิบายว่า การกำจัดขนหัวหน่าวออกไป จะทำให้เกิด "การสัมผัสผิวหนังต่อผิวหนังมากขึ้น จึงมีโอกาสแพร่กระจาย STIs ได้มากขึ้น" นอกจากนี้ ขณะโกนอาจทำให้เกิด รอยฉีกขาดเล็กๆ (micro-tears) บนผิวหนัง ซึ่งเป็นช่องทางให้ของเหลวในร่างกายและเลือดเข้าไปได้ นำไปสู่การติดเชื้ออีกรูปแบบหนึ่ง ดังนั้นการงดโกนขนบริเวณอวัยวะเพศจึงอาจเป็นความคิดที่ดี
ก่อนหน้านี้ Doctor Mike ยังได้อธิบายถึงวัตถุประสงค์ทางชีวภาพของขนหัวหน่าว โดยจัดเป็น "Terminal Hair" ซึ่งเป็นเส้นขนที่มีลักษณะหนาและหยาบกว่าขนอื่นๆ มันจะทำหน้าที่ดักจับ ฟีโรโมน ที่ผลิตจากต่อมอะโพไครน์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการดึงดูดทางเพศและการเลือกคู่ของมนุษย์ในประวัติศาสตร์วิวัฒนาการ
หน้าที่สำคัญของขนหัวหน่าว
คำแนะนำนี้สอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์คนอื่นๆ ดร.เคที เบอร์ริส แพทย์ผิวหนังจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียระบุว่า "ขนหัวหน่าวทำหน้าที่รองรับและป้องกันผิวที่บอบบางรอบๆ อวัยวะเพศ" นอกจากนี้ยังมีบทบาทด้านสุขอนามัยในการดักจับสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย ป้องกันไม่ให้เข้าสู่ช่องคลอด
แพทย์ด้านสูตินรีเวชยังกล่าวเสริมว่า ตามหลักการทั่วไปแล้ว หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นตามธรรมชาติในร่างกายของเรา มักจะมีเหตุผลที่ดีรองรับเสมอ และขนหัวหน่าวก็ดูเหมือนจะไม่มีข้อยกเว้น การคงขนหัวหน่าวไว้จึงอาจช่วยป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์บางชนิดได้ เพราะ "STIs บางชนิดมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะแพร่กระจายหรือได้รับ เมื่อผิวหนังมีการเสียหาย"