รู้จัก "แมงกะพรุนอมตะ" สัตว์โกงความตาย ย้อนวัยเป็นเด็กได้ใหม่ วงจรชีวิตไม่สิ้นสุด
รู้จัก "แมงกะพรุนอมตะ" สัตว์โกงความตาย วงจรชีวิตไม่สิ้นสุด ย้อนกลับไปเป็นเด็กได้ใหม่เสมอ
วงจรชีวิตของแมงกะพรุนส่วนใหญ่จะคล้ายกัน พวกมันมีไข่และสเปิร์มที่ถูกปล่อยออกมาปฏิสนธิกัน จากนั้นจะกลายเป็นตัวอ่อน (Larva) ที่ว่ายน้ำได้อย่างอิสระ
ตัวอ่อนจะล่องลอยไปตามกระแสน้ำจนกว่าจะเจอพื้นผิวแข็งเพื่อยึดเกาะ จากนั้นจะเริ่มเติบโตเป็น "โพลิป" (Polyp) ซึ่งจะแตกหน่อและเจริญไปเป็นแมงกะพรุนวัยอ่อน หรือที่เรียกว่า "เมดูซา" (Medusa) ซึ่งเป็นระยะที่เราคุ้นเคยกันดี

ปกติแล้วแมงกะพรุนทั่วไปจะมีวงจรชีวิตดังนี้ :
- ไข่ → ตัวอ่อน (Planula) → โพลิป (Polyp) → แมงกะพรุนตัวเต็มวัย (Medusa)
Turritopsis dohrnii : แมงกะพรุนอมตะ
แต่สำหรับไฮโดรซัวสายพันธุ์ Turritopsis dohrnii ซึ่งมีขนาดเล็กเพียง 4.5 มิลลิเมตร (เล็กกว่าเล็บนิ้วก้อยของคุณ) สามารถย้อนกลับวงจรชีวิตของมันได้ จนได้รับฉายาว่า แมงกะพรุนอมตะ
เมื่อเมดูซา (ตัวเต็มวัย) ของสายพันธุ์นี้ได้รับบาดเจ็บทางกายภาพ หรือเผชิญกับความเครียด ความหิว อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง หรือการบาดเจ็บ แทนที่จะตาย มันจะย้อนวัยตัวเองกลับไปเป็นโพลิปแล้วเริ่มวงจรชีวิตใหม่อีกครั้ง
วงจรชีวิตที่ไม่สิ้นสุด
กระบวนการย้อนวัยคือ มันจะหดตัวลง ดูดซับหนวดของมันกลับเข้าไป และสูญเสียความสามารถในการว่ายน้ำ จากนั้นจะเกาะลงบนพื้นทะเลในลักษณะคล้ายซีสต์ ภายใน 24-36 ชั่วโมง ก้อนซีสต์นี้จะพัฒนาเป็นโพลิปใหม่ ซึ่งเป็นระยะก่อนหน้าในวงจรชีวิตของมัน และหลังจากเจริญเต็มที่ ก็จะแตกหน่อเป็นเมดูซาอีกครั้ง
กระบวนการนี้เรียกว่า Transdifferentiation (การเปลี่ยนสภาพของเซลล์) ซึ่งหาได้ยากมาก มันคือการตั้งโปรแกรมเซลล์เมดูซาที่โตเต็มที่แล้ว ให้กลายเป็นเซลล์โพลิปที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางอีกแบบหนึ่ง ช่วยให้แมงกะพรุนสามารถเติบโตใหม่ในร่างกายที่แตกต่างไปจากเดิมได้
ปรากฏการณ์นี้ถูกเปรียบเปรยเหมือนกับผีเสื้อ ที่แทนที่จะตาย กลับสามารถเปลี่ยนร่างกลับไปเป็นหนอนผีเสื้อ แล้วค่อยๆ พัฒนากลับเป็นผีเสื้อเต็มวัยได้อีกครั้ง

การค้นพบโดยบังเอิญ
สายพันธุ์นี้ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1883 แต่ความสามารถในการเป็นอมตะเพิ่งถูกค้นพบโดยบังเอิญในทศวรรษ 1980 โดยนักศึกษาที่สังเกตเห็นว่า เมื่อพวกมันเครียด เมดูซาจะตกลงสู่ก้นขวดและแปลงร่างกลับเป็นโพลิปโดยไม่ต้องผ่านการปฏิสนธิหรือระยะตัวอ่อนตามปกติ
แล้วแมงกะพรุนอมตะตายได้หรือไม่
แม้ว่า T. dohrnii จะสามารถย้อนวัยได้ แต่มันก็ไม่สามารถโกงความตายได้เสมอไป พวกมันยังคงตกเป็นเหยื่อของสัตว์อื่น เช่น ปลาและเต่าทะเล
ในระยะโพลิป พวกมันก็แทบไม่มีทางป้องกันตัวจากนักล่า เช่น ทากทะเลและสัตว์น้ำมีเปลือกแข็ง นอกจากนี้ การศึกษาพวกมันในห้องแล็บก็ทำได้ยาก เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่บอบบางมาก
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีศัตรูหรือภัยคุกคามใด ๆ มันสามารถรีเซ็ตชีวิตตัวเองได้เรื่อย ๆ
การแพร่กระจายไปทั่วโลก
คาดว่า แมงกะพรุนอมตะมีถิ่นกำเนิดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่ปัจจุบันพบได้ในมหาสมุทรทั่วโลก ทฤษฎีหลักเชื่อว่ามนุษย์เป็นสาเหตุหลักในการแพร่กระจายพวกมันผ่านทางเรือ
พวกมันสามารถถูกสูบเข้าไปในน้ำอับเฉา (Ballast water) ของเรือขนส่งสินค้า และด้วยความสามารถในการย้อนวัยเมื่อเผชิญความเครียด (เช่น ขาดอาหาร) ทำให้พวกมันรอดชีวิตจากการเดินทางข้ามมหาสมุทรได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าการแพร่กระจายของแมงกะพรุนอมตะจะยังไม่สร้างผลกระทบที่เลวร้ายอย่างชัดเจน แต่การแพร่พันธุ์อย่างเงียบๆ นี้ก็เป็นเครื่องเตือนใจถึงอิทธิพลของมนุษย์ที่มีต่อโลกธรรมชาติ แม้ในสิ่งที่เราอาจไม่ทันได้สังเกตเห็น