"ราชาเครื่องเทศ" คนไทยได้ยินแล้วร้องอ๋อ! เคยใช้แทนเงินตรา สรรพคุณเทียบเท่าโสม
“พริกไทย” เครื่องเทศล้ำค่าที่เคยใช้แทนเงินตรา สมบัติล้ำค่าจากเกาะมหาสมุทร บำรุงร่างกายเทียบเท่าโสม
เว็บไซต์ Tasting Table เคยกล่าวถึงเครื่องเทศชนิดหนึ่งว่า “นี่คือเครื่องปรุงหลักในครัวทั่วโลก อยู่คู่กับมนุษยชาติมานานจนเมื่อพูดถึงเครื่องเทศ คำแรกที่คนนึกถึงมักจะเป็นมัน” เครื่องเทศนั้นก็คือ พริกไทย
พริกไทย: จาก “เครื่องเทศในครัว” สู่ “ทองคำดำแห่งยุคกลาง”
สำนักข่าว Washington Post อ้างคำกล่าวของนักเขียน John O’Connell ในหนังสือ The Book of Spice ว่า “ในยุคกลาง คนสามารถเช่าบ้านหรือแม้แต่แต่งงานโดยใช้พริกไทยเป็นสินสอดได้” ซึ่งสะท้อนถึงคุณค่ามหาศาลของพริกไทยในเวลานั้น เพราะราคาของมันเทียบเท่าทองคำเลยทีเดียว จึงไม่แปลกที่พริกไทยจะถูกขนานนามว่า “ทองคำดำ”
พริกไทยในศาสตร์การแพทย์แผนตะวันออก
แม้ในปัจจุบันพริกไทยจะถูกใช้เป็นเพียงเครื่องปรุงรส แต่ใน แพทย์แผนจีนโบราณ พริกไทยถือเป็น “ยาชั้นดีในครัว” ที่ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น ขับความเย็น ลดการเกิดเสมหะ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มักมีอาการแน่นท้องหรือท้องอืดหลังรับประทานอาหารเย็นหรือของเย็น
ตามตำราแพทย์แผนจีน พริกไทยมีรสเผ็ดและฤทธิ์อุ่น มีสรรพคุณ “อุ่นกลางขับเย็น” (温中散寒) ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น กระตุ้นการไหลเวียนของพลังงานและของเหลวในร่างกาย เมื่ออุณหภูมิภายในสูงขึ้น การสะสมของเสมหะก็จะลดลงตามไปด้วย

พริกไทย: สมุนไพรในครัวที่ช่วยฟื้นฟูร่างกาย
สำหรับผู้ที่เพิ่งฟื้นไข้ ผู้สูงอายุ หรือคนที่มีอาการ “มือเท้าเย็น กินอาหารไม่ค่อยลง” เมนูง่าย ๆ อย่าง “เป็ดตุ๋นพริกไทย” ถือเป็นอาหารบำรุงที่ดี ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นและกระตุ้นความอยากอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3 เมนูเด็ดจากพริกไทยที่ทำง่ายในบ้าน
- เป็ดตุ๋นพริกไทย: เหมาะสำหรับผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ มือเท้าเย็น ล้างเป็ดให้สะอาด คลุกพริกไทยเม็ดบดกับเกลือและน้ำมัน หมัก 30 นาที จากนั้นนึ่งประมาณ 30 นาที เนื้อจะนุ่ม หอม และช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น
- ไข่ร้อนโรยพริกไทย: เหมาะสำหรับผู้ที่ท้องเสียหรือปวดท้องจากการกินของเย็น เพียงตอกไข่ลงในน้ำร้อน คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยป่น รอ 10 นาที ก็ได้เมนูบำรุงท้องง่าย ๆ
- กระเพาะหมูตุ๋นพริกไทย: เหมาะกับผู้ที่มีอาการไอมีเสมหะขาวใสในฤดูหนาว นำกระเพาะหมูที่ล้างสะอาดมาตุ๋นกับพริกไทยเม็ด ขิง และพุทราจีน รับประทานต่อเนื่อง 2–3 วัน จะช่วยให้เสมหะลดลงและร่างกายอบอุ่นขึ้น
ข้อควรระวังในการบริโภคพริกไทย
- ผู้ที่มักมีอาการร้อนใน ปากแห้ง หรือท้องผูก ควรหลีกเลี่ยงการกินพริกไทยในปริมาณมาก เพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น
- ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะหรือแผลในกระเพาะอาหาร ควรงดพริกไทยระหว่างมีอาการกำเริบ
- เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปีไม่ควรรับประทาน ส่วนเด็กเล็กควรใส่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
พริกไทย: เครื่องเทศราคาย่อมเยาแต่ทรงคุณค่า
พริกไทยเป็นของที่มีอยู่แทบทุกครัว ราคาไม่แพงและหาได้ง่าย หากรู้จักใช้ให้เหมาะกับร่างกายและช่วงเวลา ก็สามารถเป็นทั้งเครื่องปรุงที่เพิ่มรสชาติอาหาร และเป็น “ยาธรรมชาติ” ที่ช่วยปรับสมดุลร่างกายให้แข็งแรงจากภายในได้เช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงอากาศเย็น การเติมพริกไทยเล็กน้อยในอาหาร อาจเป็นเคล็ดลับที่ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นและย่อยอาหารดีขึ้นอย่างน่าประทับใจ