เนื้อหาในหมวด ข่าว

งานวิจัยพบ วิธีทำอาหารที่อาจทำให้ \

งานวิจัยพบ วิธีทำอาหารที่อาจทำให้ "ปอดอักเสบ" ใน 3 วัน เสี่ยง "มะเร็ง" ในระยะยาว

วิธีทำอาหารที่อันตรายต่อปอดภายใน 3 วัน และอาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหากทำต่อเนื่อง ควรหยุดทันที!

งานวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่า การปรุงอาหารด้วยวิธีที่ทำให้เกิด “ควันจากการทำอาหาร” โดยเฉพาะในห้องครัวที่อากาศไม่ถ่ายเท สามารถส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพได้ภายในเวลาอันสั้น

ควันจากการทำอาหาร: ต้นตอของการอักเสบในร่างกาย

เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟู่ตัน (Fudan University) พบว่า การสูดดมควันจากการปรุงอาหารเพียง 3 วันสามารถทำให้เกิดอาการ ปอดอักเสบและระบบย่อยอาหารแปรปรวน ได้ และหากได้รับต่อเนื่อง 7 วัน จะส่งผลต่อจุลชีพในลำไส้ รวมถึงเปลี่ยนแปลงการเผาผลาญของร่างกายอย่างเห็นได้ชัด

การทดลองดังกล่าวสร้างความตกตะลึงให้กับหลายฝ่าย เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่ทำอาหารเป็นประจำโดยไม่เปิดเครื่องดูดควันหรือระบายอากาศให้เพียงพอ

บ่อเกิดของสารพิษในควันครัว

รองศาสตราจารย์เหงียน ซวี่ ถิง (Nguyễn Duy Thịnh) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีฮานอย อธิบายว่า ควันจากการทำอาหารมีส่วนประกอบของสารพิษหลายชนิด ได้แก่:

  • ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5 และ PM10): สามารถเข้าสู่ปอดและกระแสเลือด ก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ
  • ก๊าซพิษต่าง ๆ: เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ และคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งทำลายระบบทางเดินหายใจและหัวใจ
  • สารอินทรีย์ระเหย (VOCs): เช่น ไฮโดรคาร์บอน วงแหวน อัลดีไฮด์ และคีโตน ที่มีฤทธิ์ก่อมะเร็ง กลายพันธุ์ และเป็นพิษต่อทารกในครรภ์

ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ เตาแก๊ส ยังปล่อยสารเบนซีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งระดับ 1 ออกมาในปริมาณที่สูงกว่า “ควันบุหรี่มือสอง” ตามรายงานของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในปี 2023 โดยเบนซีนสามารถลอยอยู่ในอากาศภายในบ้านได้นานหลายชั่วโมง และเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้อย่างมีนัยสำคัญ

ผลกระทบต่อสุขภาพจากควันการปรุงอาหาร

1. ระบบทางเดินหายใจ

ควันจากการทำอาหารทำให้เกิดอาการไอ หอบเหนื่อย และหลอดลมอักเสบเรื้อรัง การได้รับต่อเนื่องเพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งปอดจากการระคายเคืองและการอักเสบของเยื่อบุทางเดินหายใจ

2. ระบบหัวใจและหลอดเลือด

ฝุ่น PM2.5 สามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เลือดหนืดและเกิดการอักเสบในหลอดเลือด เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจขาดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจตาย

3. ระบบย่อยอาหาร

สารพิษจากควันสามารถเข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร ทำให้จุลชีพในลำไส้เสียสมดุล เกิดอาการท้องอืด ท้องผูก หรือท้องเสียเรื้อรัง และในระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งกระเพาะและลำไส้ใหญ่

4. ระบบภูมิคุ้มกันและผิวหนัง

ควันพิษยังส่งผลให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย และอาจทำให้ผิวแห้งหรือเกิดผื่นแพ้ได้จากการสัมผัสต่อเนื่อง

วิธีลดความเสี่ยงจากควันครัว

  • เปิดเครื่องดูดควันหรือหน้าต่างระบายอากาศทุกครั้งที่ทำอาหาร: หากไม่มีเครื่องดูดควัน ควรติดพัดลมระบายอากาศหรือตั้งเตาในพื้นที่เปิดโล่ง
  • เลือกวิธีปรุงอาหารที่ปลอดควัน: เช่น การนึ่ง ต้ม หรือตุ๋น ซึ่งใช้ความร้อนต่ำกว่า และช่วยคงคุณค่าทางอาหารได้ดีกว่าการทอดหรือผัด
  • ใช้เตาอบแทนการทอด: เตาอบช่วยกระจายความร้อนอย่างสม่ำเสมอ ลดการเกิดควัน และใช้ปริมาณน้ำมันน้อย เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
  • เลือกอุปกรณ์คุณภาพดี: ใช้หม้อหรือกระทะสแตนเลสและเคลือบกันติดคุณภาพสูง หลีกเลี่ยงอุปกรณ์อลูมิเนียมหรือเหล็กคุณภาพต่ำที่อาจปล่อยโลหะหนักเมื่อโดนความร้อนสูง

 

สรุป

ควันจากการทำอาหารไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างที่หลายคนคิด เพราะสามารถทำร้ายปอด หัวใจ และลำไส้ได้ตั้งแต่ช่วงเวลาไม่กี่วัน การปรุงอาหารในครัวที่มีการระบายอากาศดี และเลือกใช้วิธีทำอาหารที่ปลอดควัน เช่น การนึ่งหรือต้ม จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังและมะเร็งได้ในระยะยาว

  • Environmental Science & Technology
  • Stanford University
  • Fudan University
  • ไม่ใช่การนึ่ง! อึ้งผลวิจัยใหม่ \

    ไม่ใช่การนึ่ง! อึ้งผลวิจัยใหม่ "วิธีปรุงผัก" ที่รักษาสารอาหารได้มากที่สุด กลายเป็นวิธีที่ง่ายสุดๆ

    เผยวิธีปรุงผักที่ดีที่สุด ไม่ใช่การนึ่ง-ต้ม นักวิจัยยืนยันมีวิธีที่ง่ายมากๆ แถมรักษาค่าสารอาหารได้มากที่สุด