เนื้อหาในหมวด ข่าว

วิจัยใหม่เฉลย แอปเปิ้ลเขียว vs แอปเปิ้ลแดง กินแบบไหนดีต่อสุขภาพมากกว่า?

วิจัยใหม่เฉลย แอปเปิ้ลเขียว vs แอปเปิ้ลแดง กินแบบไหนดีต่อสุขภาพมากกว่า?

แอปเปิลเขียว กับ แอปเปิลแดง ต่างกันไหม? เปรียบเทียบคุณค่าทางโภชนาการที่ควรรู้

แอปเปิล เป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะแอปเปิลที่มีสองสีหลักคือสีเขียวและสีแดง หลายคนอาจสงสัยว่าความแตกต่างของสีสันเหล่านี้มีผลต่อคุณค่าทางโภชนาการหรือไม่ บทความนี้จะเปรียบเทียบข้อดีของแอปเปิลทั้งสองสี เพื่อให้คุณสามารถเลือกรับประทานได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย

ความแตกต่างด้านโภชนาการ

จากการศึกษาที่ถูกอ้างถึงโดย New York Post พบว่าแอปเปิลที่มีเปลือกสีแดงเข้มจะมีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง การมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงกว่านี้เอง จึงทำให้แอปเปิลสีแดงมีส่วนช่วยในการเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย. นอกจากนี้ยังอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคสำคัญหลายชนิด เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และโรคมะเร็ง

แอปเปิลแดงยังคงโดดเด่นในเรื่องของปริมาณวิตามินซี โดยแอปเปิลสายพันธุ์ Braeburn สีแดง 100 กรัม สามารถมีวิตามินซีสูงถึง 35 มิลลิกรัม ซึ่งมากกว่าแอปเปิลเขียวอย่าง Granny Smith ถึงประมาณสามเท่า. วิตามินซีมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเจ็บป่วย และปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอกที่เป็นอันตราย

ในส่วนของแอปเปิลเขียว ถึงแม้จะมีสารต้านอนุมูลอิสระน้อยกว่า แต่ก็ยังคงมีสารคลอโรฟิลล์และสารประกอบบางชนิดที่ช่วยป้องกันเนื้องอกมะเร็งและโรคเกี่ยวกับดวงตาได้. แอปเปิลสีเขียวมีปริมาณน้ำตาลที่ต่ำกว่าและมีปริมาณใยอาหารสูง. จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาลที่ได้รับ หรือกำลังอยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก

โดยสรุปแล้ว แอปเปิลทั้งสีเขียวและสีแดงมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยในเชิงโภชนาการ อย่างไรก็ตาม การเลือกรับประทานขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะบุคคล. หากต้องการควบคุมน้ำหนักและน้ำตาลในร่างกาย แอปเปิลเขียวคือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ. แต่ถ้าต้องการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อปกป้องร่างกาย แอปเปิลแดงอาจให้ประโยชน์ที่มากกว่า

ควรกินแอปเปิลตอนไหนดีที่สุด?

ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำว่า การรับประทานแอปเปิลในช่วงเช้าถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด. แอปเปิลจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารและการเคลื่อนไหวของลำไส้. โดยเฉพาะสารเพคตินซึ่งเป็นใยอาหารชนิดละลายน้ำในแอปเปิล จะช่วยดูดซับและขับสารพิษในลำไส้

ดังนั้น การกินแอปเปิลในตอนเช้าจึงมีส่วนช่วยป้องกันอาการท้องผูกและกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย. นอกจากนี้ ฟรุกโตสซึ่งเป็นน้ำตาลธรรมชาติในแอปเปิลยังให้พลังงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในทางกลับกัน ช่วงเย็นร่างกายจะมีการทำงานของระบบย่อยอาหารที่ช้าลงกว่าตอนเช้า. ใยอาหารและน้ำตาลที่มีอยู่ในแอปเปิลจึงอาจทำให้ใช้เวลาในการย่อยนานขึ้น. หากรับประทานในช่วงค่ำหรือก่อนนอน อาจทำให้เกิดอาการท้องอืดหรือท้องเฟ้อตามมาได้. ซึ่งสิ่งนี้อาจส่งผลต่อคุณภาพของการนอนหลับได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีระบบย่อยอาหารอ่อนแอ

ข้อควรระวัง: ไม่ควรดื่มน้ำแอปเปิลคั้น

หลายคนนิยมดื่มน้ำแอปเปิลคั้น แต่ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาว่านี่ไม่ใช่วิธีที่ดีต่อสุขภาพนัก. การคั้นน้ำผลไม้จะทำให้ปริมาณใยอาหารลดลง ซึ่งใยอาหารถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่มีประโยชน์อย่างมาก. ใยอาหารมีบทบาทสำคัญในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเข้มข้นของไตรกลีเซอไรด์ และช่วยเสริมสร้างสุขภาพของหัวใจ

ดังนั้น เพื่อให้ได้รับปริมาณใยอาหารสูงสุด แอปเปิลจึงควรถูกนำมาล้างให้สะอาดแล้วรับประทานทั้งเปลือก

การเลือกรับประทานแอปเปิลขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางสุขภาพของคุณ แอปเปิลแดงให้สารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซีที่สูงกว่า ส่วนแอปเปิลเขียวมีน้ำตาลต่ำและใยอาหารสูงกว่า. เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด ควรกินในตอนเช้าและควรเลือกกินแบบผลสดพร้อมเปลือก เพื่อให้ร่างกายได้รับคุณค่าทางโภชนาการและใยอาหารอย่างเต็มที่