สจ๊วตบอกความลับ "กาแฟบนเครื่องบิน" ลูกเรือยังไม่กล้าดื่ม เล่าเบื้องหลังชวนอี๋
สจ๊วตบอกความลับ "กาแฟบนเครื่องบิน" ลูกเรือยังไม่กล้าดื่ม เล่าเบื้องหลังชวนขนลุก ตั้งแต่น้ำที่ใช้จนถึงหม้อชง
ผู้ใช้บัญชี TikTok @ichbinvin ได้โพสต์คลิปวิดีโอตอบคำถามจากชาวเน็ต ที่เข้าไปตั้งหัวข้อคำถามบนเว็บไซต์ Reddit ระบุว่า "ในฐานะพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน อะไรคือความลับสกปรกเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการทำงานของคุณ" โดย เควิน ได้อ่านคอมเมนต์จากชาวเน็ตรายหนึ่งซึ่งเป็นนักบิน ได้เข้าไปตอบว่า "อย่าดื่มกาแฟบนเครื่องบิน"
เควิน ระบุว่า เห็นด้วยกับคอมเมนต์นี้ เขายอมรับว่า กาแฟบนเครื่องบินนั้นค่อนข้างจะน่าขยะแขยง ก่อนที่จะสนับสนุนให้ไปสนามบินเร็วขึ้น 10 นาที แล้วซื้อกาแฟในอาคารผู้โดยสาร
เหตุผลที่ 1: ถังเก็บน้ำที่ไม่ค่อยสะอาด
เควินยืนยันว่า ถังเก็บน้ำที่ใช้สำหรับชงกาแฟและชาบนเครื่องนั้น "แทบไม่เคยทำความสะอาด" ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ทำให้น้ำไม่น่าอภิประสงค์สำหรับการบริโภค
ประเด็นนี้สอดคล้องกับ แคท อดีตพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอีกราย ที่เคยเตือนในทำนองเดียวกันว่า เธอจะหลีกเลี่ยง "การดื่มน้ำร้อนเลย" เพราะถังเก็บน้ำไม่สะอาด ดังนั้นกาแฟและชาที่มาจากน้ำร้อนนั้นจึงน่าขยะแขยงอย่างยิ่ง
เหตุผลที่ 2: วิธีเทกาแฟทิ้งใน "โถส้วม"
สจ๊วตหนุ่มเผยอีกหนึ่งเหตุผลที่น่าตกใจ คือ กาแฟที่เหลือในหม้อไม่สามารถเทลงในท่อระบายน้ำปกติของเครื่องบินได้ พนักงานจึงต้องนำมันไปเททิ้งใน "โถส้วม"
เขากล่าวว่า พนักงานต้องถือหม้อกาแฟเข้าไปใกล้โถส้วมเพื่อเททิ้งไม่ให้กระเด็น "ลองจินตนาการว่ามีอนุภาค แบคทีเรีย หรืออะไรก็ตามที่กระเด็นกลับเข้าไปในหม้อกาแฟ" และหม้อนั้นก็จะถูกนำกลับไปใส่ในเครื่องชงกาแฟทันที

ลูกเรือส่วนใหญ่ก็ไม่ดื่ม
เควิน เผยว่า พนักงานและลูกเรือของสายการบินส่วนใหญ่ แทบจะไม่มีใครดื่มกาแฟที่ชงบนเครื่องบิน แต่ทางสายการบินจะมีบริการเครื่องชงกาแฟสำเร็จรูปให้พนักงานแทน
วิดีโอของสจ๊วตรายนี้มียอดดูมากกว่า 161,800 ครั้ง หลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ และหลังจากนี้คงไม่ดื่มกาแฟบนเครื่องบินอีกต่อไป
ไม่ใช่คนแรกที่เตือน
เควิน ไม่ใช่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนแรกที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับกาแฟที่เสิร์ฟบนเครื่องบิน ก่อนหน้าเคยมีอดีตพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้แชร์สิ่งต่างๆ มากมาย ที่เธอจะหลีกเลี่ยงบนเที่ยวบิน
แคต คามาลานี (Kat Kamalani) อินฟลูเอนเซอร์บน TikTok ซึ่งระบุว่าเธอเคยทำงานกับสายการบินรายใหญ่เป็นเวลากว่า 6 ปี ได้แชร์ว่า ผู้โดยสารควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ไม่ได้เสิร์ฟจาก “กระป๋องหรือขวด” โดยเฉพาะกาแฟและชา
เธออธิบายในคลิป TikTok ที่กลับมาไวรัลอีกครั้งว่า เหตุผลที่ไม่ควรสั่งกาแฟหรือชา เพราะน้ำร้อนที่ใช้ชงเครื่องดื่มเหล่านี้มาจาก “ถังเก็บน้ำบนเครื่องบิน” ซึ่งแทบไม่เคยได้รับการทำความสะอาด และเธอยืนยันว่าพนักงานต้อนรับส่วนใหญ่ “แทบไม่แตะต้องกาแฟหรือชาเลยในระหว่างปฏิบัติหน้าที่”
คามาลานีเผยเพิ่มเติมว่า เครื่องชงกาแฟบนเครื่องบิน “จะได้รับการทำความสะอาดเฉพาะเมื่อเครื่องเสียเท่านั้น” และที่น่าขนลุกยิ่งกว่านั้นคือ เครื่องชงกาแฟมักถูกติดตั้ง “ใกล้ห้องน้ำ” ซึ่งเธอแนะให้ลองคิดเอาเองว่าอาจมีอะไรปะปนอยู่บ้าง
ตามรายงานการศึกษาคุณภาพน้ำของสายการบินจาก Hunter College NYC Food Policy Center ในปี 2019 พบว่า น้ำที่ใช้บนเครื่องบิน ซึ่งอยู่ในถังเก็บใกล้บริเวณห้องน้ำมาจากแหล่งเดียวกับน้ำในห้องน้ำจริง ๆ

อดีตแอร์ฯ เผยไม่แตะแม้แต่น้ำเปล่า
ซู โฟกเวลล์ (Sue Fogwell) อดีตพนักงานต้อนรับที่ทำงานมากว่า 22 ปี เผยกับ Travel + Leisure ว่า “ฉันไม่เคยดื่มน้ำบนเครื่องเลย” พร้อมอธิบายว่า “กาแฟและชาบนเครื่องล้วนใช้น้ำจากถังเก็บน้ำของเครื่องบิน”
เธอแนะนำว่า “หากอยากดื่มกาแฟ ควรซื้อจากร้านในสนามบิน หรือถ้าต้องการคาเฟอีน ให้ขอเป็นโค้กหรือเป๊ปซี่แทนจะดีกว่า”
การดื่มน้ำจากถังเก็บของเครื่องบินเป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนมานานแล้ว เนื่องจากระบบเก็บน้ำมักไม่สะอาดเท่าที่ควร ผลการตรวจจาก EPA (สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ) ในปี 2004 จากเครื่องบิน 158 ลำ พบว่า 13% มีแบคทีเรียโคลิฟอร์ม และ 2 ลำมีระดับเชื้อ E. coli ที่เป็นอันตราย
โฟกเวลล์ยังเตือนว่า “อย่าหลงเชื่อเหยือกน้ำที่เห็นบนรถเสิร์ฟเครื่องดื่มในชั้นประหยัด เพราะบางครั้งน้ำในนั้นก็มาจากถังน้ำบนเครื่องเช่นกัน” ทางที่ดีควรขอน้ำอัดลมในกระป๋องแทน
คนที่ไม่เห็นด้วยก็มี
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับคำเตือนนี้ ช่างซ่อมเครื่องบินรายหนึ่งอธิบายว่า ระบบน้ำบนเครื่องบินได้รับการทำความสะอาดด้วยสารฟอกขาวเจือจางเป็นประจำ และเครื่องชงกาแฟเองก็ถูกเปลี่ยนบ่อยมาก “ถ้านักบินดื่มกันทุกวัน เราก็น่าจะดื่มได้เหมือนกัน” เขากล่าว
อีกคนที่ระบุว่าเป็นช่างเครื่อง A&P กล่าวเสริมว่า แม้ท่อน้ำจะทำความสะอาดยาก แต่ก็มีการล้างอยู่บ่อย ๆ และน้ำในระบบหมุนเวียนตลอดเวลา จึงแทบไม่มีสิ่งตกค้าง เขายืนยันว่า “ผมเองก็ดื่มได้อย่างสบายใจ”
ขณะเดียวกัน แวนซ์ ฮิลเดอร์แมน (Vance Hilderman) ซีอีโอของบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีการบิน AFuzion ให้สัมภาษณ์กับ USA Today ว่า สิ่งเดียวที่ควรกังวลจริง ๆ คือเมื่อเครื่องบินออกจากประเทศที่น้ำไม่สะอาดตามมาตรฐานเท่านั้น อีกทั้งน้ำที่ใช้ชงกาแฟบนเครื่องบินก็ถูกทำให้ร้อนถึงอุณหภูมิที่สามารถฆ่าเชื้อได้อยู่แล้ว
“ตามหลักวิทยาศาสตร์ แบคทีเรียจะตายเมื่ออุณหภูมิสูงถึงประมาณ 175 องศาฟาเรนไฮต์ ส่วนบนเครื่องบิน น้ำจะเดือดที่ประมาณ 195 องศา ซึ่งเพียงพอจะฆ่าเชื้อได้ทั้งหมด” เขากล่าว
ดังนั้น สรุปได้ว่า จะดื่มกาแฟหรือชาบนเครื่องหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเอง และถ้าไม่อยากเสี่ยง ก็ไม่ต้องห่วง — เพราะเมื่อถึงสนามบินปลายทาง ก็มักจะมีร้าน Starbucks รออยู่แน่นอน.