เนื้อหาในหมวด ข่าว

เกาหลีเหนือเคยยึดเกือบทั้งเกาหลีใต้ เหลือรอดแค่ \

เกาหลีเหนือเคยยึดเกือบทั้งเกาหลีใต้ เหลือรอดแค่ "พื้นที่เดียว" พูดชื่อไปคนไทยอ๋อ ไม่ใช่โซล!

ปูซาน จุดพลิกชะตา! ย้อนรอยพื้นที่เดียวใน เกาหลีใต้ ที่ เกาหลีเหนือ ยึดไม่ได้ใน สงครามเกาหลี

ปูซาน (Busan) เมืองท่าสำคัญของเกาหลีใต้ในปัจจุบัน ซึ่งเคยเป็นแนวป้องกันสุดท้ายและเมืองหลวงชั่วคราวที่ไม่เคยถูกยึดได้ในสมัยสงครามเกาหลีเมื่อปี ค.ศ. 1950

สงครามเกาหลีที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1950 เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกือบทำให้ประเทศเกาหลีใต้หายไปจากแผนที่โลก เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังการปะทุขึ้น กองทัพเกาหลีเหนือบุกยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาหลีใต้ได้อย่างรวดเร็ว กรุงโซลเมืองหลวงถูกยึด และพื้นที่กว่า 90% ตกอยู่ในการควบคุมของฝ่ายเหนือ แต่ท่ามกลางวิกฤตครั้งใหญ่นั้น ยังมี “พื้นที่หนึ่งเดียว” ที่ไม่เคยถูกกองทัพเกาหลีเหนือยึดครองได้สำเร็จ นั่นคือเมืองปูซาน (Busan) เมืองท่าสำคัญทางตอนใต้สุดของประเทศ

ปูซาน เมืองหลวงชั่วคราวและ แนวป้องกันปูซาน

ด้วยชัยภูมิที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ รัฐบาลเกาหลีใต้จึงจำเป็นต้องอพยพลงใต้มายังเมืองปูซาน และประกาศให้ที่นี่เป็นเมืองหลวงชั่วคราวในช่วงสงคราม ขณะเดียวกันบริเวณรอบเมืองก็เต็มไปด้วยผู้ลี้ภัยจำนวนนับล้านที่หนีภัยสงครามมาหลบภัย ปูซานจึงไม่ได้เป็นเพียงเมืองท่า แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งการยืนหยัดของประเทศ

พื้นที่ที่รอดพ้นการยึดครองนี้ถูกเรียกว่า "แนวป้องกันปูซาน" (Busan Perimeter) ซึ่งไม่ได้หมายถึงเฉพาะเขตตัวเมืองเท่านั้น แต่เป็น "แนวรบป้องกันวงกลม" ขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้สุดของคาบสมุทรเกาหลี แนวรบนี้ทอดตัวยาวกว่า 230 กิโลเมตร ตามแนวแม่น้ำนักดง นี่คือจุดที่กองกำลังทหารเกาหลีใต้และทหารสหประชาชาติร่วมกันยืนหยัดต้านทานการบุกของเกาหลีเหนืออย่างสุดกำลัง ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หากแนวป้องกันนี้แตก เกาหลีใต้ก็คงไม่สามารถดำรงอยู่ได้ในปัจจุบัน

บ้านไม้เล็กๆ: ที่พักพิงชั่วคราวของผู้ลี้ภัย สงครามเกาหลี

ผู้ลี้ภัยนับล้านที่หลั่งไหลเข้ามาในเขตปูซานต้องสร้างที่พักพิงอย่างเร่งด่วนตามเนินเขาและพื้นที่ว่างเปล่าต่างๆ บ้านส่วนใหญ่เป็นโครงสร้างไม้ขนาดเล็กและชั่วคราว เช่นเดียวกับ หมู่บ้านคัมชอน (Gamcheon Village) ที่กำเนิดขึ้นจากการเป็นที่อยู่อาศัยรวมของผู้นับถือศาสนาในพื้นที่นี้ โครงสร้างที่พักพิงเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากและความแออัดของผู้คนที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากภัยสงครามในขณะนั้น

ข้าวของเครื่องใช้: เตารีดถ่านโบราณและโทรศัพท์หมุน

สิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันยุคนั้นแสดงถึงความเรียบง่ายและภูมิปัญญาในการดำเนินชีวิตที่ปัจจุบันหาดูได้ยาก อุปกรณ์ที่น่าสนใจคือ อันดู (Andu) หรือเตารีดแบบดั้งเดิมของเกาหลี ซึ่งใช้ถ่านไม้ที่กำลังคุในการสร้างความร้อนเพื่อรีดผ้าให้เรียบ นอกจากนี้ยังมีเครื่องใช้ในบ้านอื่นๆ เช่น อ่างใส่ข้าวของ ถังน้ำ โถเก็บของหมักดอง และโทรศัพท์แบบหมุนรุ่นเก่า

อุปกรณ์เหล่านี้สะท้อนถึงการดำรงชีวิตที่ต้องพึ่งพาตนเองในยุคที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้แพร่หลาย อุปกรณ์ซักผ้าแบบเก่าก็ถูกใช้กันทั่วไป เช่น ไม้ตีผ้า ที่ใช้ตีผ้าเพื่อทำความสะอาดและทำให้ผ้าอ่อนนุ่ม การได้เห็นข้าวของเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจถึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสมัยที่ปูซานทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงชั่วคราวได้ชัดเจนขึ้น

ธนบัตรยุค สงครามเกาหลี: 100 วอนที่มีค่ามหาศาล

มูลค่าทางเศรษฐกิจในช่วงสงครามแตกต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง ธนบัตรโบราณสมัยนั้น เช่น ธนบัตร 100 วอน ซึ่งในปัจจุบันถูกลดระดับเป็นเหรียญราคาเริ่มต้น ถูกจัดแสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาแห่งความผันผวนทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ธนบัตรเหล่านี้ไม่ได้สะท้อนเพียงแค่ราคาในตัวเลขเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกถึงการต่อสู้ดิ้นรนของประเทศในการฟื้นฟูระบบการเงินภายใต้ภาวะสงครามอีกด้วย

จุดพลิกชะตา สงครามเกาหลี จากแนวป้องกันที่แข็งแกร่ง

การยืนหยัดที่มั่นคงของฝ่ายใต้และสหประชาชาติในเขต Busan Perimeter เป็นรากฐานสำคัญที่นำไปสู่จุดพลิกผันของสงคราม หลังจากนั้นไม่นาน กองกำลังสหประชาชาติภายใต้การนำของนายพล ดักลาส แมกอาเธอร์ ได้เปิดยุทธการยกพลขึ้นบกที่เมืองอินชอน (Incheon) การปฏิบัติการนี้ทำให้ฝ่ายเหนือที่ติดพันการรบอยู่บริเวณปูซานต้องแตกทัพและถอยร่นกลับไปอย่างรวดเร็ว

ปูซานในปัจจุบัน สัญลักษณ์แห่งการพัฒนาและร่องรอยประวัติศาสตร์

ปัจจุบัน เมือง ปูซาน กลายเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของเกาหลีใต้ เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลก อาหารทะเลที่อุดมสมบูรณ์ และมีชายหาดที่สวยงาม อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปในอดีตเมื่อกว่า 70 ปีก่อน เมืองแห่งนี้คือ พื้นที่แห่งความหวังสุดท้าย ที่ช่วยให้ประเทศเกาหลีใต้รอดพ้นจากการถูกยึดครองได้สำเร็จ

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง