สมัยสยาม vs เมืองไทย 2025: เจาะ 3 สิ่งที่คนยุคนี้ "จ่ายแพง" จนอยู่ยากกว่าคนโบราณ!

เปรียบเทียบ "ค่าครองชีพ" ยุคสยาม vs เมืองไทยปี 2025 ใครอยู่ยากกว่ากัน รู้แล้วอาจเปลี่ยนความคิดในบางมุม!

การย้อนกลับไปทำความเข้าใจค่าครองชีพในสมัยสยามเมื่อกว่าร้อยปีที่แล้ว ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยข้อมูลที่ใช้อ้างอิงส่วนใหญ่อิงกับช่วง ปลายรัชกาลที่ 5 ถึงต้นรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจ การเปรียบเทียบนี้จะช่วยให้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตระหว่างยุคสมัยได้อย่างชัดเจน

เรามาดูกันว่าการใช้ชีวิตในยุคสยามนั้นมีความเรียบง่ายหรือซับซ้อนกว่าการใช้ชีวิตในปี 2025 อย่างไรบ้าง โดยจะพิจารณาจากปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต

ที่อยู่อาศัย: จากเรือนไม้สู่คอนโดมิเนียม

ในสมัยสยาม การก่อสร้างที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่อาศัยไม้และวัสดุธรรมชาติจากท้องถิ่น ทำให้การหาที่อยู่อาศัยนั้นไม่ยากนักหากมีแรงงานและเวลา ค่าเช่าบ้านในกรุงเทพฯ ช่วงรัชกาลที่ 5 โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1–3 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำมาก

สำหรับยุคปัจจุบันปี 2025 ค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ราคาบ้านเดี่ยวในเขตเมืองอาจสูงถึง 5–10 ล้านบาท ขณะที่ห้องเช่าในพื้นที่ทั่วไปเริ่มต้นที่ 5,000–10,000 บาทต่อเดือน ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายระยะยาว

ค่าอาหาร: จากสตางค์เดียวอิ่มท้องสู่เมนูหลักสิบ

ค่าอาหารในยุคสยามมีความแตกต่างจากปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด ข้อมูลประวัติศาสตร์ระบุว่า ข้าวแกงจานละ 1 สตางค์ (0.01 บาท) หรือก๋วยเตี๋ยวก็มีราคาถูกมาก ด้วยจำนวนเงินเพียงเล็กน้อยก็สามารถเลี้ยงดูคนในครอบครัวให้อิ่มได้

ในยุค 2025 ราคาอาหารจานเดียวในเขตเมืองเริ่มต้นที่ 50–70 บาท และเครื่องดื่มทั่วไปอย่างกาแฟอาจมีราคาสูงถึง 60–120 บาทต่อแก้ว การสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต แต่ก็แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในทุกมื้ออาหาร

ค่าเดินทาง: ความเร็วที่ต้องแลกด้วยเงิน

การเดินทางในยุคสยามเป็นไปอย่างช้า ๆ อาศัยการเดินเท้า เรือแจว หรือเกวียนเป็นหลัก ค่าโดยสารสำหรับเรือระยะสั้นเพียงไม่กี่สตางค์ ประชาชนแทบไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายมากนักในการเดินทางประจำวัน

ตรงกันข้ามกับปี 2025 การเดินทางในปัจจุบันเน้นความรวดเร็วและสะดวกสบาย แต่ก็มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น รถไฟฟ้า BTS เริ่มต้น 17 บาทต่อเที่ยว หรือค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ในระดับ 35–40 บาทต่อลิตร ความเร็วที่ได้รับจึงแลกมาด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น

ความสะดวกสบายในยุค 2025 แลกมาด้วยค่าครองชีพที่สูงขึ้น

โดยสรุปแล้ว แม้ว่าชีวิตในยุคสยามจะเรียบง่าย และใช้เงินน้อยกว่า แต่ก็ต้องแลกด้วยการใช้แรงงาน เวลา และต้องพึ่งพาธรรมชาติอย่างมาก ส่วนชีวิตในปี 2025 นั้นมีความสะดวกสบายสูง แต่ทุกอย่างมีราคาและต้นทุนที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น การเปรียบเทียบค่าครองชีพจึงสะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาทางการเงินในยุคปัจจุบันเกิดจาก “ค่าความเร่งรีบ” และ “ค่าความสะดวกสบาย” ที่เข้ามากำหนดวิถีชีวิตของเรานั่นเอง