"ใหม่ ดาวิกา" ภาพพิธีเช้า เจ้าสาวในชุดไทยประยุกต์งดงามบนลายผ้า "ฉันทวิกา"
ส่องชุดแต่งงานไทยประยุกต์ ใหม่ ดาวิกา - เต๋อ ฉันทวิชช์ สวยหล่องดงามมาก
เป็นอีกหนึ่งโมเมนต์แห่งความยินดีส่งท้ายปี สำหรับคู่รักซุปเปอร์สตาร์ ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ และ เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ที่ได้ควงแขนเข้าประตูวิวาห์เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติก รายล้อมด้วยครอบครัว คนสนิท และเพื่อนๆ ทั้งในและนอกวงการที่ร่วมเป็นสักขีพยานรักอย่างอบอุ่น
หนึ่งในไฮไลต์ของงานวิวาห์ครั้งนี้ คือ ชุดแต่งงานไทยประยุกต์ ของบ่าวสาว ที่ถูกออกแบบและรังสรรค์โดยห้องเสื้อชั้นสูงของไทย Vanus Couture ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Chantavika — The Eternal Love of Purity” ถ่ายทอดความงดงามของความรักที่บริสุทธิ์ผ่านงานหัตถศิลป์ไทยร่วมสมัยอันละเอียดประณีต
ซึ่ง ใหม่ ดาวิกา ได้ร่วมออกแบบกับ ดร.สรรค์ สุดเกตุ ดีไซน์เนอร์ระดับโอต์กุตูร์แห่ง Vanus Couture โดยต้องการให้ชุดสะท้อนถึงความรักที่งดงาม อ่อนโยน และบริสุทธิ์ดั่ง “ดอกบัว” ดอกไม้ไทยที่เปี่ยมด้วยความหมายแห่งความสะอาดบริสุทธิ์ การงอกงาม และความรุ่งเรือง
ไอเดียร์นี้นำมาตีความเป็นผลงานเชิงศิลป์ ผ่านกระบวนการรังสรรค์ผ้าไหมทอมือขึ้นใหม่ทั้งผืน โดยใช้เทคนิคการทอชั้นสูงจากจังหวัดลำพูน ถ่ายทอดความละเอียดอ่อนและฝีมือของช่างไทยดั้งเดิม สู่ ผ้าไหมลำพูนลายใหม่ ที่ใช้เวลาในการทอยาวนานกว่า 200 วัน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความรักของทั้งคู่ ผืนผ้านี้ถูกทอขึ้นในผืนเดียวกัน และแบ่งใช้สำหรับตัดเย็บเป็นชุดของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ก่อนนำไปขึ้นทะเบียนลายที่ กรมหม่อนไหม โดยตั้งชื่อลายว่า ฉันทวิกา ซึ่งเกิดจากการผสมผสานชื่อของคุณ “ฉันทวิชช์” และ “ดาวิกา” เข้าด้วยกัน เป็นสัญลักษณ์แห่งรักแท้ที่ร้อยเรียงสองหัวใจไว้เป็นหนึ่งเดียว
ชุดเจ้าสาวของ ใหม่ ดาวิกา ถูกออกแบบให้ผสมผสานความงามของ ไทยประเพณีกับสากลร่วมสมัย อย่างกลมกลืน ช่วงล่างของชุดถูกออกแบบให้เป็น ทรงหางปลา (Mermaid Silhouette) ที่คงเอกลักษณ์ของการนุ่งผ้าแบบไทย แต่ให้ความพลิ้วและสง่างามในแบบโอต์กูตูร์ ส่วนลำตัวออกแบบเป็นเสื้อเกาะอกโค้งคล้ายห่มสไบโบราณ เสริมด้วยผ้าไหมแก้วจากจังหวัดนครราชสีมา ตัดเย็บเป็นผ้าคลุมไหล่ยาวที่ยึดแนบกับต้นแขนอย่างอ่อนช้อย พร้อมเข้ากับเครื่องประดับเฉพาะของเจ้าสาวลวดลายของผืนผ้าได้รับการออกแบบพิเศษโดยนำ “ดอกบัว” ซึ่งถือเป็นไม้มงคลแห่งความบริสุทธิ์และการตื่นรู้ มาสร้างเป็นลายปักด้านล่างของกระโปรงอย่างประณีต นอกจากนี้ยังแฝง “ลายงูคู่รัก” สัญลักษณ์ของความผูกพันและพลังแห่งชีวิตคู่ ซึ่งสอดคล้องกับเครื่องประดับสร้อยคอรูปงูจากแบรนด์ Bulgari ที่คุณใหม่เลือกสวมในวันสำคัญ
ส่วนเจ้าบ่าว เต๋อ-ฉันทวิชช์ เลือกสวมชุดไทยพระราชทาน ซึ่งถือเป็นเครื่องแต่งกายชั้นสูงของบุรุษไทยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระราชพิธีในสมัยรัชกาลที่ 9 ชุดนี้ถูกตัดเย็บขึ้นจาก ผ้าไหมยกลำพูนผืนเดียวกันกับชุดของเจ้าสาว เพื่อสื่อถึงความเป็น “หนึ่งเดียวกันแห่งรัก” โดยเนื้อผ้ามีความอ่อนนุ่มแต่คงโครงสร้างได้ดี แสดงถึงความสง่างามและความแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน
เครื่องประดับแต่ละชิ้นประกอบด้วย