เนื้อหาในหมวด ข่าว

เช็กข่าวชัวร์ : เอ็กซเรย์ปอดทุกปี \

เช็กข่าวชัวร์ : เอ็กซเรย์ปอดทุกปี "รังสีสะสม" เสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ? เทียบชัดๆ แค่ไหนเสี่ยง

เช็กให้ชัด เอ็กซเรย์ตรวจสุขภาพประจำปี อันตรายจากรังสีหรือไม่ กระทบสุขภาพจริงหรือ?

การตรวจสุขภาพประจำปีถือเป็นกระบวนการสำคัญในการดูแลสุขภาพ และหลายโปรแกรมการตรวจมักมีการ "เอ็กซเรย์ปอด" (Chest X-ray) รวมอยู่ด้วยเสมอ ทำให้เกิดความกังวลและความเชื่อที่ถูกส่งต่อกันในโลกออนไลน์ว่า หากต้องเข้ารับการเอ็กซเรย์ทุกปี ร่างกายจะได้รับรังสีสะสมมากเกินไปจนเป็นอันตราย หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงในระยะยาวหรือไม่

Sanook News จึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ เพื่อไขข้อสงสัยว่าการเอ็กซเรย์ในการตรวจสุขภาพประจำปีนั้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพตามที่มีความกังวลจริงหรือไม่

คำถาม

การเอ็กซเรย์ปอด หรือเอ็กซเรย์ส่วนอื่นๆ ในการตรวจสุขภาพประจำปีทุกครั้ง จะทำให้ร่างกายได้รับรังสีที่เป็นอันตราย สะสมจนเกิดผลกระทบต่อสุขภาพในอนาคต เช่น เพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง หรือทำภูมิในร่างกายตก ไม่แข็งแรง จริงหรือไม่?

การตรวจสอบ

จากการตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข้อมูลทางการแพทย์และสถาบันด้านรังสีวิทยาหลายแห่ง พบข้อเท็จจริงดังนี้

ประการแรก ปริมาณรังสีที่ใช้ในการเอ็กซเรย์เพื่อการวินิจฉัยโรค โดยเฉพาะการเอ็กซเรย์ปอด (Chest X-ray) ที่ใช้ในการตรวจสุขภาพทั่วไปนั้น มีปริมาณที่ต่ำมาก ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า การเอ็กซเรย์ปอด 1 ครั้ง ร่างกายจะได้รับรังสีประมาณ 0.1 มิลลิซีเวิร์ต (mSv)

ประการที่สอง เมื่อเปรียบเทียบกับรังสีที่เราได้รับในชีวิตประจำวัน ปริมาณดังกล่าวถือว่าน้อยมาก โดยปกติแล้ว มนุษย์เราได้รับรังสีจากธรรมชาติ (Background Radiation) เช่น จากพื้นดิน อาหาร หรือรังสีคอสมิกจากอวกาศ เฉลี่ยปีละประมาณ 2.4 ถึง 3.7 mSv ซึ่งหมายความว่า การเอ็กซเรย์ปอด 1 ครั้ง เทียบเท่ากับการได้รับรังสีตามธรรมชาติเพียงไม่กี่วันเท่านั้น

ประการที่สาม ตามมาตรฐานสากล (ICRP) ได้กำหนดขีดจำกัดปริมาณรังสีสำหรับประชาชนทั่วไปไว้ว่า ไม่ควรได้รับเกิน 1 mSv ต่อปี (ไม่นับรวมรังสีทางการแพทย์และการฉายรังสีรักษา) ดังนั้น การเอ็กซเรย์ปอดปีละ 1 ครั้ง (0.1 mSv) จึงยังอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยและต่ำกว่ามาตรฐานอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม การเอ็กซเรย์ควรทำเท่าที่จำเป็นและตามคำแนะนำของแพทย์ และสิ่งสำคัญคือต้องไม่สับสนระหว่างการ "เอ็กซเรย์ทั่วไป" อย่างการตรวจสุขภาพประจำปี กับการ "เอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์" (CT Scan) ซึ่งการทำ CT Scan จะให้ปริมาณรังสีที่สูงกว่าการเอ็กซเรย์ทั่วไปหลายเท่า

ข้อควรระวังที่สำคัญที่สุด คือ สตรีที่ตั้งครรภ์ หรือสงสัยว่าอาจจะตั้งครรภ์ ต้องแจ้งให้แพทย์หรือเจ้าหน้าที่ทราบทุกครั้งก่อนทำการเอ็กซเรย์ เนื่องจากรังสีอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้

โดยทั่วไป "ความเสี่ยง" จากรังสีจะแบ่งเป็น 2 แบบหลักๆ

 1. ความเสี่ยงแบบเฉียบพลัน (Deterministic Effects)

 คือ อาการที่จะเกิดขึ้น "ทันที" หรือในเวลาอันสั้น หากได้รับรังสีปริมาณสูงมากในครั้งเดียว (Acute Dose) เช่น อาการแพ้รังสี (Radiation Sickness)

  • เกณฑ์ที่เริ่มมีอาการ: ต้องได้รับรังสีในระดับสูงมาก ประมาณ 1,000 มิลลิซีเวิร์ต (mSv) หรือ 1 ซีเวิร์ต (Sv) ขึ้นไปในครั้งเดียว จึงจะเริ่มมีอาการเจ็บป่วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน

  • เกณฑ์อันตรายถึงชีวิต: หากได้รับรังสีเฉียบพลันสูงถึง 4,000 - 5,000 mSv (4-5 Sv) มีความเสี่ยงเสียชีวิตสูง

เทียบกับเอ็กซเรย์ปอด: การเอ็กซเรย์ปอด 1 ครั้ง ให้รังสีเพียง 0.1 mSv

คุณจะต้องเอ็กซเรย์ปอดต่อเนื่องกันในคราวเดียวถึง 10,000 ครั้ง จึงจะถึงเกณฑ์ที่เริ่มทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยเฉียบพลันได้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในทางการแพทย์ครับ

 2. ความเสี่ยงแบบสะสม (Stochastic Effects)

 คือ ความเสี่ยงที่ "อาจจะ" เกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะ "ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง" ที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณรังสีที่สะสมในร่างกายตลอดชีวิต

  • เกณฑ์ที่เริ่มมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นชัดเจน: วงการแพทย์และรังสีวิทยาทั่วโลก มักใช้เกณฑ์ 100 mSv (มิลลิซีเวิร์ต) แบบสะสม เป็นจุดที่เริ่มมีหลักฐานทางสถิติที่ชัดเจนว่า "ความเสี่ยง" ในการเกิดมะเร็งเริ่มเพิ่มขึ้น

  • หมายเหตุ: นี่ไม่ใช่ "เกณฑ์ที่ทำให้เป็นมะเร็ง" นะครับ แต่เป็น "เกณฑ์ที่ทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น" จากประชากรทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ

เทียบกับเอ็กซเรย์ปอด:

คุณจะต้องเอ็กซเรย์ปอดถึง 1,000 ครั้ง (เช่น ปีละครั้ง เป็นเวลา 1,000 ปี) จึงจะสะสมรังสีได้ถึง 100 mSv ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ความเสี่ยงเริ่มเพิ่มขึ้น

ข้อเท็จจริง

ข้อเท็จจริงคือ การเอ็กซเรย์ปอดในการตรวจสุขภาพประจำปี 1 ครั้ง มีปริมาณรังสีที่ต่ำมาก (ประมาณ 0.1 mSv) ซึ่งน้อยกว่าปริมาณรังสีที่ได้รับตามธรรมชาติใน 1 ปีอย่างมีนัยสำคัญ และอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยสากล

ดังนั้น สำหรับบุคคลทั่วไป การเอ็กซเรย์ปอดปีละครั้งจึงไม่ถือเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมีนัยสำคัญ และประโยชน์ที่ได้จากการคัดกรองโรค เช่น วัณโรค หรือความผิดปกติในช่องอก มีมากกว่าความเสี่ยงที่น้อยมากจากปริมาณรังสีดังกล่าว

อ้างอิง

  • ข้อมูลการป้องกันอันตรายจากรังสีวินิจฉัย คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • ข้อมูลการเอกซเรย์ โรงพยาบาลเปาโล
  • X-ray คืออะไร ตรวจแล้วปลอดภัยหรือไม่? โรงพยาบาลกรุงไทย
  • เช็กข่าวชัวร์ : \

    เช็กข่าวชัวร์ : "น้ำมันมะพร้าว" ช่วยลดน้ำหนักได้เหรอ? ความจริงที่ควรรู้ ก่อนเลือก กิน-ไม่กิน

    "กินน้ำมันมะพร้าว" ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่? ความจริงที่หลายคนอาจยังสับสน เช็กเลยก่อนเข้าใจผิดๆ