เฉลยแล้ว! ทำไมฝักบัวอาบน้ำ ถึงเกิด "ตะไคร่" ได้ง่ายๆ แม้ใช้งานทุกวัน น้ำชะล้างอยู่ประจำ
ใช้อยู่ทุกวัน ทำไมยังมีตะไคร่? เฉลยสาเหตุฝักบัวขึ้นคราบเขียวง่ายกว่าที่คิด
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม ฝักบัวอาบน้ำถึงมีตะไคร่น้ำและคราบเขียวดำ ง่าย ทั้งที่ใช้งานทุกวันและล้างอยู่เสมอ ความจริงแล้วปัญหา ตะไคร่น้ำที่ฝักบัว ไม่ได้มาจากความสกปรกของร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องกับแร่ธาตุในน้ำ ความชื้นสะสม และเชื้อจุลินทรีย์ที่เติบโตได้ดีในห้องน้ำที่อับชื้น เมื่อเข้าใจสาเหตุที่แท้จริง เราจะสามารถดูแลฝักบัวให้สะอาดและใช้งานได้นานขึ้นได้มากกว่าเดิม
น้ำ แร่ธาตุ และคราบสะสม: พื้นผิวพร้อมให้ตะไคร่น้ำ-เชื้อราเกาะ
น้ำประปามักมีแร่ธาตุอย่างแคลเซียมและแมกนีเซียม เมื่อละอองน้ำสัมผัสฝักบัวซ้ำๆ ทุกวัน แร่ธาตุเหล่านี้จะตกค้างจนกลายเป็นคราบหินปูน เคลือบอยู่บนพื้นผิวหัวฝักบัวและรูน้ำเล็กๆ คราบหินปูนทำให้พื้นผิวหยาบและเก็บความชื้นได้ดี จึงกลายเป็นพื้นที่เหมาะให้ตะไคร่น้ำ เชื้อรา และไบโอฟิล์มของจุลินทรีย์อื่นๆ เกาะตัวและเติบโตได้ง่ายขึ้น ไม่ได้หมายความว่าแร่ธาตุเป็นตัว “สร้างตะไคร่” โดยตรง แต่เป็นตัวช่วยให้คราบเหล่านี้ยึดเกาะแน่นและล้างออกยากขึ้น
ความชื้นสูงในห้องน้ำ: สวรรค์ของตะไคร่และเชื้อรา
ห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่มีความชื้นสูงเกือบตลอดเวลา ทั้งจากการอาบน้ำ การใช้เครื่องทำน้ำอุ่น และไอน้ำที่ลอยตัวแล้วเกาะบนผนัง เพดาน และฝักบัว เมื่อมีความชื้นต่อเนื่องและการระบายอากาศไม่ดี เชื้อราและตะไคร่น้ำจะเติบโตได้รวดเร็วขึ้นมาก คราบเขียว คราบดำ หรือคราบลื่นๆ ที่เราเห็นบนฝักบัวและผนัง จึงอาจเป็นได้ทั้งเชื้อราและสาหร่ายจุลินทรีย์ในกลุ่มตะไคร่น้ำที่อาศัยอยู่ร่วมกับไบโอฟิล์มของจุลินทรีย์อื่นๆ
ใช้ทุกวันแต่ยังมีตะไคร่ได้ เพราะไม่ได้ “ชะล้าง” จุลินทรีย์จริงๆ
แม้เราจะเปิดใช้ฝักบัวทุกวัน แต่น้ำสะอาดเพียงอย่างเดียวไม่ได้ชะล้างเชื้อราและตะไคร่น้ำออกไปทั้งหมด ยิ่งมีคราบสบู่ แชมพู และคราบไขมันจากผิวหนังเกาะร่วมกับหินปูน ก็ยิ่งกลายเป็นแหล่งอาหารให้จุลินทรีย์เติบโต นอกจากนี้ การที่หัวฝักบัวยังคงเปียกชื้นหลังใช้งานและไม่ได้เช็ดให้แห้ง ก็ยิ่งทำให้ตะไคร่และเชื้อราขยายตัวต่อเนื่องในช่วงที่เราไม่ได้ใช้งานห้องน้ำ
วิธีดูแลฝักบัวอาบน้ำ เพื่อลดตะไคร่น้ำและคราบเขียวดำ
- แช่หรือล้างด้วยน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาวสัปดาห์ละครั้ง กรดอ่อนๆ ช่วยละลายคราบแร่ธาตุและคราบหินปูน ทำให้ตะไคร่และเชื้อราหลุดออกง่ายขึ้น
- เช็ดหัวฝักบัวให้แห้งหลังอาบน้ำ เพื่อลดความชื้นตกค้าง ไม่ปล่อยให้มีน้ำเกาะบนพื้นผิวตลอดเวลา
- เปิดพัดลมระบายอากาศหรือเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ ช่วยให้อากาศถ่ายเทและลดความอับชื้น ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการเกิดเชื้อราและตะไคร่
- ถอดหัวฝักบัวออกมาทำความสะอาดเป็นระยะ แช่ในน้ำส้มสายชูหรือน้ำยาทำความสะอาด จากนั้นใช้แปรงนุ่มๆ ขัดเบาๆ เพื่อล้างคราบสะสมในรูน้ำ
ตะไคร่น้ำที่ฝักบัวเป็นเรื่องปกติ แต่ป้องกันได้
การที่ฝักบัวอาบน้ำเกิดตะไคร่น้ำและคราบเขียวดำง่ายแม้ใช้ทุกวัน เป็นผลจากการผสมกันของแร่ธาตุในน้ำ ความชื้นสูงในห้องน้ำ และการสะสมของคราบสบู่และจุลินทรีย์บนพื้นผิวหัวฝักบัว ไม่ใช่เรื่องผิดปกติหรือสกปรกเกินไปเสมอไป แต่เป็นธรรมชาติของสภาพแวดล้อมในห้องน้ำ หากเราใส่ใจทำความสะอาดสม่ำเสมอ ลดความชื้น และกำจัดคราบแร่ธาตุออกเป็นระยะ ก็จะช่วยลดตะไคร่น้ำ รักษาความสะอาด และยืดอายุการใช้งานของฝักบัวได้มากขึ้น
- กำจัดแมลงสาบบินได้อย่างไร? อาจารย์เผย "เคล็ดลับ" อยู่บ้านมา 20 ปีไม่เคยเจอเลย!
- นศ.รับไม่ได้ "สภาพหอพัก" ผปค.เห็นแล้วจะร้องไห้ ใจสลายถาม ทำไมให้ลูกฉันอยู่ในที่แบบนี้?

อ้างอิง