"บอย ท่าพระจันทร์" เผยจุดเริ่มต้นเกมกระชับมิตร "หมอนทอง" ลั่นอยากเห็นบอลไทยไปบอลโลก!

"บอย ท่าพระจันทร์" เล่าจุดเริ่มต้นแมตช์ “สนามแตก” แปดริ้ว จากคำถามในไลฟ์ สู่ศึกกระชับมิตร หมอนทอง–ทีมบอยท่าพระจันทร์

บอย ท่าพระจันทร์ อินฟลูเอนเซอร์และเซียนพระชื่อดัง เปิดเผยเบื้องหลังการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรที่กลายเป็นกระแสฮือฮา หลังทีมหมอนทองวิทยา ดวลแข้งกับทีมบอยท่าพระจันทร์ ซึ่งมีแฟนบอลแห่เข้าชมจนเกิดภาพ “สนามแตก” ทั้งที่สนามศุภชลาศัยและจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเจ้าตัวระบุว่าจุดเริ่มต้นทั้งหมดมาจากคำถามเพียงหนึ่งประโยคระหว่างการไลฟ์สด

จุดเริ่มต้นจากคำถามเดียว จุดกระแสให้ทีมหมอนทองดังเป็นพลุแตก

บอยเล่าว่า เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ขณะไลฟ์สด มีแฟนคลับถามว่าเขาติดตามฟุตบอล 7 สีหรือไม่ ก่อนมีการพูดถึงทีมหมอนทองที่โค้ชต้องขับรถสองแถวพานักกีฬาเดินทางมาแข่งทุกนัด ทำให้เขาสนใจและตัดสินใจเดินทางไปเชียร์การแข่งขันถึงสนามศุภชลาศัยในวันถัดมา

ระหว่างอยู่ที่สนาม เขาถูกสัมภาษณ์ว่าต้องการเชียร์ทีมไหน บอยเผยว่าเลือกเชียร์ทีมหมอนทองเพราะชื่นชมความพยายามของนักกีฬาและโค้ชที่ไม่มีชื่อเสียงแต่ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งคลิปสัมภาษณ์ดังกล่าวถูกตัดสั้นและแชร์ต่อจนมียอดเข้าชมทะลุ 10 ล้านครั้ง ส่งให้ชื่อทีมหมอนทองเป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยวันนั้นทีมยังสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการชนะอัสสัมชัญศรีราชา 6–3

นัดกระชับมิตรบอยท่าพระจันทร์-หมอนทอง จุดกระแส “สนามแตก” 2 จังหวัด

ค่ำวันเดียวกัน ทีมงานจากแปดริ้วติดต่อบอยเพื่อจัดการแข่งขันนัดพิเศษระหว่างทีมหมอนทอง กับ ทีมบอยท่าพระจันทร์ พร้อมทีม VIP แปดริ้วแบบ 5 รุม 1 ซึ่งเขาตอบรับทันที ก่อนโพสต์โปรโมตอย่างต่อเนื่องในโซเชียลจนกระแสพุ่งแรง ส่งผลให้วันแข่งจริงมีแฟนบอลหลั่งไหลเข้าเชียร์จำนวนมากจนเกิดภาพ “สนามแตก” สองครั้งซ้อน ทั้งที่กรุงเทพฯ และจังหวัดฉะเชิงเทรา

บอยกล่าวชื่นชมผู้จัดงาน ทีมผู้ใหญ่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงอาจารย์สกลและนักเตะทีมหมอนทองที่แม้จะล้าจากการเดินทางและการแข่งขันต่อเนื่อง แต่ยังทำผลงานได้ยอดเยี่ยม พร้อมเชื่อว่านักเตะทุกคนมีอนาคตไกลหากรักษาวินัยและตั้งใจพัฒนาตัวเอง

เรื่องราวสำคัญในชีวิตอินฟลูชื่อดัง

บอยทิ้งท้ายว่านี่คือหนึ่งในบันทึกสำคัญในชีวิตของเขา เพราะนอกจากจะได้เห็นพลังของผู้ชม ยังได้ร่วมสร้างโอกาสให้เยาวชนและทีมฟุตบอลท้องถิ่นเป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับประเทศ

แถมยังทิ้งท้ายอีกว่า "ผมมิอาจบอกว่าตัวผมเป็นใครแต่ผมและน้องๆในทีม ขอเป็นฟันเฟืองเล็กๆที่ขับเคลื่อนฟุตบอลของไทยให้พัฒนาและดีขึ้น เพราะผมอยากเห็นบอลไทยได้ไปบอลโลกครับ"