เตือน 5 ปลา "อุดมปรอท" มากที่สุด กินไประวังให้ดี ชอบแค่ไหนก็ต้องลด!
5 ปลาที่มีสารปรอทสูงที่สุด ชอบแค่ไหนก็ต้องระวังสุขภาพ
แม้ปลาจะขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ก็มีบางชนิดที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม ปลาที่มีสารปรอทสูง ซึ่งหากกินบ่อยหรือในปริมาณมากอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะต่อสมองและระบบประสาท สารปรอทในปลาโดยมากอยู่ในรูปเมทิลเมอร์คิวรีที่สะสมในเนื้อเยื่อและกำจัดออกได้ยาก ยิ่งเป็นปลาขนาดใหญ่และอยู่ในห่วงโซ่อาหารนานเท่าไร ระดับสารปรอทก็มักจะยิ่งสูงตามไปด้วย ดังนั้นการรู้ว่ามีปลาอะไรบ้างที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจึงช่วยให้เลือกกินได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
ปรอทในปลาอันตรายต่อร่างกายอย่างไร
สารปรอทโดยเฉพาะในรูปเมทิลเมอร์คิวรีสามารถผ่านจากระบบย่อยอาหารเข้าสู่กระแสเลือดและไปสะสมในสมอง ตับ ไต และเนื้อเยื่อต่างๆ ได้ เมื่อร่างกายได้รับในปริมาณสูงหรือสะสมเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ อ่อนแรง ชา ปัญหาด้านความจำและสมาธิ รวมถึงผลต่อความดันโลหิตและระบบหัวใจและหลอดเลือดได้ด้วย กลุ่มเสี่ยงสำคัญคือหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร เด็กเล็ก และผู้ที่มีโรคเรื้อรังอยู่เดิม
หน่วยงานด้านอาหารและยาหลายแห่ง เช่น FDA ของสหรัฐฯ กำหนดเพดานปริมาณเมทิลเมอร์คิวรีในปลาไว้ที่ประมาณ 1 ส่วนในล้านส่วน (1 ppm) เพื่อใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงด้านความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม แม้ปลาบางชนิดจะไม่เกินค่าดังกล่าว แต่หากเป็นปลาใหญ่ที่มีแนวโน้มสะสมปรอทสูง ก็ยังแนะนำให้จำกัดความถี่ในการรับประทาน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เพื่อป้องกันการได้รับสารสะสมเกินจำเป็น
5 ปลาที่มีสารปรอทสูงที่สุดที่ควรระวัง
1. ปลาดาบ (Swordfish) - 0.995 ppm
ปลาดาบเป็นหนึ่งในปลาที่ตรวจพบระดับสารปรอทเฉลี่ยใกล้ 1 ppm ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับปลาทั่วไป สาเหตุหนึ่งคือปลาดาบเป็นปลานักล่าขนาดใหญ่และมีอายุยืน จึงสะสมเมทิลเมอร์คิวรีจากเหยื่อในห่วงโซ่อาหารทีละน้อยจนระดับสูงขึ้นตามเวลา แม้เนื้อปลาดาบจะมีรสชาติอร่อยและเป็นที่นิยมในบางเมนู แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงหรืออย่างน้อยจำกัดการรับประทาน โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์และเด็ก
2. ฉลาม (Shark) - 0.979 ppm
เนื้อปลาฉลามถูกจัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่มีสารปรอทสูงมากเช่นกัน ค่าเฉลี่ยสารปรอทในฉลามจากฐานข้อมูลของ FDA อยู่ใกล้เคียงกับปลาดาบ เนื่องจากฉลามเป็นสัตว์นักล่าบริเวณยอดห่วงโซ่อาหารที่กินปลาเล็กปลาน้อยจำนวนมากต่อเนื่องยาวนาน ทำให้สารปรอทสะสมในร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ การบริโภคเนื้อฉลามบ่อยครั้งจึงอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อผลกระทบต่อระบบประสาทและหัวใจในระยะยาว
3. ปลาอินทรีย์/ปลาแมคเคอเรลคิง (King Mackerel) - 0.730 ppm
ปลาอินทรีย์หรือปลาแมคเคอเรลคิงเป็นปลาทะเลขนาดใหญ่ที่หลายคนชอบเพราะเนื้อแน่นและรสชาติดี แต่จากข้อมูลการตรวจวัดพบว่ามีค่าเฉลี่ยสารปรอทอยู่ที่ประมาณ 0.73 ppm ซึ่งถือว่าสูงระดับต้องระวัง หลายหน่วยงานด้านสาธารณสุขจึงแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก และผู้ที่วางแผนมีบุตรหลีกเลี่ยงการกินปลาอินทรีย์บ่อยหรือในปริมาณมาก เพื่อไม่ให้ระดับปรอทในร่างกายสูงเกินไป
4. ปลาทูน่าตาโต (Bigeye Tuna) - 0.689 ppm
ปลาทูน่าตาโตเป็นอีกชนิดที่มีสารปรอทค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับทูน่าชนิดอื่น ระดับเฉลี่ยอยู่ราว 0.69 ppm ซึ่งใกล้เคียงกับปลาอินทรีย์และถือว่าสูงพอที่จะต้องจำกัดการบริโภค ปลาทูน่าตาโตมักใช้ในเมนูซาชิมิหรือสเต๊กปลาทูน่าที่หลายคนชื่นชอบ แต่เนื่องจากเป็นปลาที่อยู่ค่อนข้างสูงในห่วงโซ่อาหารและมีอายุยืน การกินบ่อยเกินไปอาจเพิ่มภาระจากสารปรอทโดยไม่รู้ตัว
5. ปลากระโทงแทง / ปลามาร์ลิน (Marlin/Sailfish กลุ่มปลาโค) - 0.485 ppm
ปลากลุ่มมาร์ลินหรือปลาคันธนู ซึ่งในบางแหล่งเรียกรวมๆ ว่า “ปลาโค” ก็เป็นปลานักล่าขนาดใหญ่ที่มีระดับสารปรอทเฉลี่ยสูงกว่าปลาทะเลทั่วไป แม้ค่าเฉลี่ยจะต่ำกว่าปลาดาบหรือฉลาม แต่การกินเป็นประจำยังอาจเพิ่มความเสี่ยงเช่นเดียวกัน ปลาชนิดนี้จึงมักถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มปลาที่ควรจำกัดหรือหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องดูแลระดับสารปรอทในร่างกายอย่างเข้มงวด
เลือกกินปลาอย่างไร ให้ได้ประโยชน์แต่ลดความเสี่ยงจากสารปรอท
แม้จะมีรายชื่อ ปลาที่มีสารปรอทสูง อยู่หลายชนิด แต่อย่าลืมว่าปลาโดยรวมยังเป็นอาหารที่มีคุณค่าสูง ทั้งโปรตีนคุณภาพดี โอเมก้า-3 วิตามิน และแร่ธาตุสำคัญ เคล็ดลับคือเลือกปลาที่มีขนาดเล็กกว่า มีอายุสั้นกว่าหรืออยู่ลำดับล่างในห่วงโซ่อาหาร เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาทู ปลาซาบะบางแหล่ง ปลาแซลมอนจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือปลาน้ำจืดที่ปลอดภัย และหลีกเลี่ยงปลาทะเลขนาดใหญ่ที่ทราบว่ามีสารปรอทสูง
สำหรับคนทั่วไป การกินปลาในปริมาณที่เหมาะสมและสลับชนิดปลาไปเรื่อยๆ จะช่วยให้ได้รับสารอาหารครบถ้วนโดยลดโอกาสสะสมสารปรอทมากเกินไป แต่สำหรับหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร เด็กเล็ก และผู้ที่กังวลเรื่องสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อวางแผนการกินปลาที่เหมาะสมยิ่งขึ้น การเข้าใจว่ามีปลาอะไรบ้างที่จัดอยู่ในกลุ่มปลาที่มีสารปรอทสูงและรู้จักจำกัดการบริโภค จะช่วยให้คุณยังเพลิดเพลินกับเมนูปลาได้อย่างปลอดภัยทั้งในวันนี้และในระยะยาว
- แพทย์ไต้หวัน เตือนอย่ากิน "ปลาชนิดนี้" เสี่ยงมะเร็งโพรงจมูก 6 เท่า แต่ไทยยังกินกันอยู่!
- รู้หรือไม่ "ปลา" ที่ครองแชมป์ DHA แซลมอนยังอยู่อันดับ 6 แล้วท็อป 5 ที่เหนือกว่าคืออะไร?!
