เปิดค่าตัว "โมเน่" อึ้ง! ระดับท็อปสตาร์ "เม พรีมายา" วอนยินดีกับน้อง หลังโซเชียลดรามา
เม พรีมายา โต้ดรามาใช้แรงงานเด็ก ปม "โมเน่" ไลฟ์ขายของ เปิดค่าตัวระดับท็อปสตาร์ วอนสังคมยินดีกับน้อง
กระแสดราม่า #ทวงความเป็นเด็กให้โมเน่ เกิดขึ้นร้อนแรงบนโซเชียล หลังคลิปไลฟ์ขายของที่มี “โมเน่” ลูกสาววัย 2 ขวบ ปรากฏในช่วงดึก ทำให้บางส่วนของสังคมตั้งคำถามถึงข้อกังวลเรื่องการใช้แรงงานเด็กและการจัดเวลาชีวิตของเด็กเมื่อมีงานเข้ามา บางฝ่ายเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบความเหมาะสมในการทำกิจกรรมเชิงพาณิชย์ของเด็กเล็ก
จุดเริ่มต้นกับเสียงวิจารณ์
ผู้ใช้งานโซเชียลหลายคนระบุว่าเด็กควรได้รับการพักผ่อนและใช้ชีวิตตามวัย ไม่ควรนั่งไลฟ์ขายของจนถึงดึกดื่น บางคอมเมนต์อ้างว่าเห็นเด็กบอกว่าเหนื่อยแล้ว แต่ยังต้องทำงานต่อ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดแฮชแท็กและกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ข้อเรียกร้องส่วนหนึ่งยังเรียกหน่วยงานรัฐให้เข้าตรวจสอบเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
เม พรีมายา ชี้แจง
เม พรีมายา ออกมาชี้แจงยาว โดยกล่าวว่า ทุกการตัดสินใจเกี่ยวกับงานของโมเน่คำนึงถึงความเหมาะสมและความสบายของเด็กเป็นหลัก เธอระบุว่าไม่สามารถสั่งให้เด็กทำตามผู้ใหญ่ได้ หากเด็กอยากทานข้าวหรืออยากเดินเล่นก็ให้ทำตามธรรมชาติ และยืนยันว่าการรับงานเกิดขึ้นไม่บ่อยนักและส่วนใหญ่เป็นงานระยะสั้น
ประเด็นค่าตัวและการจัดการงาน
หนึ่งในประเด็นที่ถูกหยิบยกคือเมเปิดเผยค่าตัวของโมเน่ว่าอยู่ที่ชั่วโมงละ 300,000 บาท และย้ำว่าเป็นการประเมินมูลค่าโอกาสที่เข้ามา หากผู้ว่าจ้างยินดีจ่ายก็เป็นสิทธิ์ของผู้ปกครอง โดยเธอกล่าวว่าการรับงานจะต้องพิจารณาว่าเด็กไหวหรือไม่ และยืนยันว่าจะคัดเลือกงานให้เหมาะสมเพื่อลดความถี่และความยาวของการทำกิจกรรมเชิงพาณิชย์
เมยังแจงเรื่องเวลานอนของโมเน่ว่าเด็กยังพักผ่อนตามปกติในช่วงกลางวัน แม้ว่าบางคืนอาจมีเลทบ้างตามสถานการณ์หน้างาน แต่ครอบครัวพยายามจัดสรรให้เหมาะสม พร้อมฝากถึงผู้วิจารณ์ให้แสดงความเห็นด้วยมารยาท หากต้องการคำชี้แจงให้ถามด้วยความจริงใจแทนการกดดันผ่านคอมเมนต์ซ้ำ ๆ
มุมมองสังคมและข้อพึงระวัง
เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนการถกเถียงเชิงสาธารณะเรื่องการใช้แรงงานเด็ก และขอบเขตการทำงานของเด็กในยุคโซเชียล มีคำถามว่าจะนำมาซึ่งผลกระทบระยะยาวต่อพัฒนาการเด็กหรือไม่ และอีกส่วนก็บอกว่าเป็นโอกาส ที่เด็กคนหนึ่งสามารถหารายได้ได้มากขนาดนี้ตั้งแต่ยังเล็ก จึงเป็นเรื่องน่ายินดี
กรณีของเม พรีมายา กับโมเน่จุดชนวนการถกเถียงเรื่องการคุ้มครองเด็กในยุคออนไลน์อย่างชัดเจน แม้ผู้ปกครองยืนยันว่าให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความสบายของเด็กเป็นอันดับแรก แต่สังคมยังคงตั้งคำถามถึงขอบเขต ความเหมาะสม และการมีมาตรการปกป้องเด็กจากการถูกนำไปใช้ทางพาณิชย์ ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องถกเถียงร่วมกันในวงกว้างต่อไป