นักสืบเอกชนเผย 5 อาชีพที่มีแนวโน้ม “นอกใจคู่รัก” มากที่สุด อันดับ 1 ใครก็คาดไม่ถึง

17/11/2025 (16:16 น.)

นักสืบเอกชนเผย 5 อาชีพ ที่คนในวงการนั้น “มีโอกาสสูง” ที่จะนอกใจคู่รักของตนเองมากกว่าคนทั่วไป

ไม่ใช่ว่าทุกคนในอาชีพเหล่านี้จะนอกใจ แต่จากประสบการณ์ของนักสืบเอกชนผู้ทำคดีลักษณะนี้มานับไม่ถ้วน เขาพบ “รูปแบบพฤติกรรมซ้ำ ๆ” ที่บ่งบอกถึงแนวโน้มการนอกใจได้อย่างชัดเจน

พอล อีแวนส์ นักสืบเอกชนจากบริษัท I-Spy Detectives เปิดเผยว่า ตลอดหลายปีที่สืบคดีความสัมพันธ์ เขาพบว่ามี 5 อาชีพที่คนในวงการนั้น “มีโอกาสสูง” ที่จะนอกใจคู่รักของตนเองมากกว่าคนทั่วไป

1. พนักงานไอที

อาชีพที่หลายคนอาจไม่คาดคิด นักสืบระบุว่าผู้ทำงานด้านไอทีมักตกเป็นกลุ่มที่พบพฤติกรรมนอกใจบ่อยที่สุด เหตุผลสำคัญคือพวกเขา “เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยี” และสามารถลบหรือปกปิดร่องรอยทางดิจิทัลได้อย่างแนบเนียน ทำให้การตามจับได้ยาก

นอกจากนี้ พนักงานไอทีมักมีข้ออ้างที่ฟังดูสมเหตุสมผล เช่น “ต้องคุยงานทางโทรศัพท์” หรือ “ต้องเช็กระบบ” ซึ่งช่วยให้ปิดบังพฤติกรรมได้โดยไม่เป็นที่สงสัย

2. พนักงานขาย

ด้วยลักษณะงานที่ต้องเดินทางบ่อย พบปะลูกค้า และเข้าพักโรงแรมต่างจังหวัดเป็นประจำ จึงเปิดโอกาสให้เกิดการนอกใจได้ง่าย นักสืบเผยว่า ผู้ทำงานขายมักมี “ทักษะการพูดจาโน้มน้าว” สูง และใช้เสน่ห์ทางสังคมในทางที่ผิด

เขายังเคยตามคดีที่พนักงานขายแอบมีสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่คนแปลกหน้าที่เจอตามบาร์ของโรงแรมที่เข้าพัก

3. พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน

อีกหนึ่งอาชีพที่ต้องเดินทางไกลและใช้ชีวิตนอกบ้านบ่อย พอล อีแวนส์ ระบุว่า “การเดินทางระยะไกลและอยู่ไกลครอบครัวเป็นเวลานาน อาจทำให้เส้นแบ่งเรื่องศีลธรรมเลือนหายไป”

เขาเล่ากรณีของพนักงานต้อนรับหญิงที่แต่งงานแล้วแต่ทำงานไฟลต์ระยะไกลเป็นประจำ จนภายหลังพบว่าเธอมีความสัมพันธ์กับนักบินจากอีกสายการบินหนึ่ง และนัดพบกันในโรงแรมเดียวกันระหว่างช่วงพักต่อเครื่องนานหลายเดือน

4. พนักงานคอลเซ็นเตอร์

อาชีพนี้อาจดูไม่เกี่ยวข้องกับการนอกใจ แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม เนื่องจากพนักงานต้องทำงานใกล้ชิดกันในสภาพกดดันตลอดทั้งวัน จึงมักเกิด “สายสัมพันธ์แน่นแฟ้น” ระหว่างเพื่อนร่วมงาน ซึ่งบางครั้งก็พัฒนาเกินขอบเขต

ความเครียดจากงานและการพึ่งพาอาศัยกันอาจนำไปสู่ความผูกพันที่ลึกซึ้งเกินเพื่อนร่วมงานธรรมดา

5. บุคลากรทางการแพทย์ 

อาชีพสุดท้ายในรายชื่อคือแพทย์และพยาบาล ซึ่งมักถูกพูดถึงบ่อยที่สุดในเรื่องการมีความสัมพันธ์ลับในที่ทำงาน สาเหตุสำคัญคือ “ความเครียดสูงและการทำงานใกล้ชิดกันตลอดเวลา”

นักสืบเผยว่า เขาเคยรับคดีพยาบาลที่มีความสัมพันธ์กับแพทย์ระหว่างกะกลางคืน และบางครั้งถึงขั้นใช้ห้องพักในโรงพยาบาลเป็นสถานที่นัดพบ หนักกว่านั้น เคยมีกรณีศัลยแพทย์ที่แต่งงานแล้วเดินออกจากห้องผ่าตัดกลางคัน เพื่อไปมีสัมพันธ์กับพยาบาล ก่อนถูกจับได้ใน “ท่าทีไม่เหมาะสม” ภายในห้องผ่าตัดว่าง

สรุป:

แม้อาชีพจะไม่ใช่ตัวตัดสินว่าใครจะนอกใจหรือไม่ แต่จากประสบการณ์ของนักสืบเอกชน พฤติกรรมการทำงานบางอย่าง เช่น ต้องเดินทางบ่อย เจอสภาพกดดันสูง หรือมีอิสระในการสื่อสารมาก อาจเพิ่ม “โอกาสและสิ่งยั่วยวน” ให้เกิดการนอกใจได้ง่ายขึ้น