ฎีกาพิพากษากลับ! ทักษิณต้องเสีย #ภาษีหุ้นชินคอร์ป 17,600 ล้าน กระทบอะไรบ้าง?
ศาลฎีกาพิพากษาให้นาย ทักษิณ ชินวัตร ต้องเสียภาษีหุ้น ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 17,600 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 (โดยศาลมีคำพิพากษาประกาศในช่วงวันที่ 17–18 พ.ย.) ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรมีคำพิพากษายืนตามคำขอของ กรมสรรพากร ให้บังคับให้นายทักษิณจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการขายหุ้นชินคอร์ปในปี 2550 พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่มรวมเป็นจำนวนประมาณ 17,600 ล้านบาท โดยคำพิพากษานี้ถือเป็นที่สุดในคดี และฝ่ายผู้ถูกประเมินไม่สามารถอุทธรณ์เพิ่มได้อีก
สาระสำคัญของคำพิพากษา
- ศาลฎีกาเห็นว่าแม้การโอนหุ้นให้บุตรจะมีรูปแบบถูกต้องตามเอกสาร แต่มีเจตนาทางภาษีที่ถูกวิจารณ์ว่า “ขาดคุณธรรมทางภาษีอากร” และ “ไม่มีเหตุผลทางเศรษฐกิจที่แท้จริง” จึงขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายภาษีอากร (คำพิพากษาระบุว่า “to avoid tax and lacked economic substance”)
- คำพิพากษายกคำร้องขอให้เพิกถอนการประเมินภาษีของนายทักษิณ และหักล้างคำตัดสินของชั้นศาลอุทธรณ์/ศาลภาษีที่เคยให้ยกประเมินไปก่อนหน้านี้
- ยอดภาษีรวมทั้งเบี้ยปรับและเงินเพิ่มจำนวนประมาณ 17,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นภาระทางภาษีที่ต้องชำระทันทีตามคำสั่งศาล (ตัวเลขตรงกับรายงานข่าวหลายแห่ง)
ไทม์ไลน์คดี
ผลกระทบสำคัญ
ข้อจำกัดและกรณีที่ควรจับตา
ถึงแม้ข่าวหลายแห่งจะรายงานว่าเป็นจำนวนเงิน “สูงที่สุด” ในประวัติศาสตร์ภาษีบุคคลธรรมดาในไทย แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานภาครัฐว่าคดีนี้เป็น “สูงที่สุด” ดังนั้น จึงควรใช้คำว่า "เป็นภาระทางภาษีที่มีมูลค่าสูงมากครั้งหนึ่ง" แทนการยืนยันว่าเป็น “สูงที่สุด” เพื่อความรอบคอบ
- ไล่เรียงให้ฟัง! ปริศนา "ชินวัตร-ฮุนเซน" เล่นใหญ่จุดไฟชายแดน กับคำถาม ใครปกป้องแผ่นดิน?
- "หมอเจด" เฉลยแล้ว ไข่ต้ม-กาแฟ ห้ามกินคู่กัน? หลังเปิดเมนูมื้อเช้า "ทักษิณ" ในเรือนจำ
