เนื้อหาในหมวด ข่าว

ปัจจุบันของ \

ปัจจุบันของ "ดร.รีเบคก้า รัสเซลล์" จากอดีตรองมิสไทยแลนด์เวิลด์ สู่ผู้บริหารหญิง Gen X

ถอดบทเรียนชีวิตจาก “ดร.รีเบคก้า รัสเซลล์” ผู้บริหารหญิง Gen X ผู้ไม่หยุดพัฒนาแม้อายุ 56 ปี

Sanook News พูดคุยกับ ดร.รีเบคก้า รัสเซลล์ ผู้บริหารหญิงมากประสบการณ์ในเครือสหพัฒน์กว่า 20 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานสื่อสารองค์กร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) อดีตรองมิสไทยแลนด์เวิลด์ อันดับ 1 ปี พ.ศ. 2531 (1988) นักแสดง พิธีกร และโค้ชนางงามระดับนานาชาติ วันนี้ในวัย 56 ปี เธอยังเรียนต่อทั้งปริญญาโท–เอกด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและโภชนาศาสตร์แบบสมุห์ไทย พร้อมทำงานบริหารและโค้ชชิ่งทีมคนรุ่นใหม่ เธอเปิดใจกับเราถึงความแกร่งแบบ Gen X วิธีคิด และเหตุผลที่ทำไมเธอไม่เคยหยุดพัฒนา

ความแกร่งแบบ Gen X: “ล้มแล้วลุก ล้มอีกก็ลุกอีก”

เมื่อเริ่มต้นบทสัมภาษณ์ Sanook News ถามถึงหัวใจของ Gen X ในมุมการปรับตัว เธอยิ้มก่อนตอบอย่างมั่นใจว่า “รุ่นเรา Resilience มากจริงๆ ล้มแล้วลุก ล้มกี่ครั้งก็ลุกอีก”

  • เธอเติบโตมาท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านทั้งเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และยุคโซเชียล
  • ช่วง COVID-19 ทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้น และบีบให้คนรุ่นนี้ต้องยืดหยุ่นกว่าเดิม
  • “คนรุ่นนี้ดีลไม่ยากนะ แต่ต้องเข้าใจพื้นฐานเขา เขาต้องการความชัดเจน ต้องการ KPI ที่ชัด” เธออธิบาย

จุดเปลี่ยนชีวิต: จากฟรีแลนซ์สู่วงการองค์กร

หลังจบการประกวดและได้ตำแหน่งรองมิสไทยแลนด์เวิลด์ อันดับ 1 ปี 2531 เธอเข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัว ทำงานตลอดปีแบบไม่มีวันหยุด แต่วันหนึ่งทุกอย่างเหมือนถูก “ปิดสวิตช์” เพราะไม่มีงานใหม่เข้ามา

เธอเล่าว่า “ตอนนั้นอาจารย์ยิ่งศักดิ์ถามว่า ‘อนาคตวางแผนอะไรไว้’ คำถามนั้นเหมือนกุญแจที่ปลดล็อกว่า ชีวิตฟรีแลนซ์อาจไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป”

  • ไม่นานหลังจากนั้น เธอได้เข้าพบนายบุญเกียรติ โชควัฒนา
  • ทันทีที่เจอหน้ากัน เขาพูดว่า “พร้อมจะมาทำงานกับผมเมื่อไหร่” เธอตอบกลับทันทีว่า “ได้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วค่ะ”
  • “นายบอกเราว่า ‘ที่นี่ไม่ใช่สำหรับคนนามสกุลโชควัฒนา แต่สำหรับคนที่มีความสามารถ’” เธอจำได้แม่นจนถึงวันนี้

และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเติบโตในเส้นทางองค์กร จนเป็นทั้งผู้บริหาร CEO กรรมการบริษัทหลายแห่ง รวมถึงผู้บริหารในอุตสาหกรรมโรงงานเย็บผ้าและทีวีชอปปิง

อยู่ในวงการบันเทิงแต่ไม่ยึดติดชื่อเสียง

แม้จะเริ่มต้นจากงานบันเทิง เธอยืนยันว่าไม่เคยยึดติดชื่อเสียง พร้อมเล่าว่า “ฉันไม่มีวันลงตรงจุดนั้นแน่นอน เพราะรู้ว่าวันหนึ่งมันต้องลดลง”

  • เธอเข้าใจดีว่าเมื่ออายุมากขึ้น บทบาทและโอกาสทางงานจะน้อยลง
  • ค่าตัวมีโอกาสลดลง แต่เธอเชื่อว่า “ความสามารถจริงควรเพิ่มขึ้น”
  • คำพูดท้าทาย เช่น “อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นดารามาจะสักเท่าไหร่” กลายเป็นแรงขับให้พิสูจน์ตัวเอง

วิธีบริหารทีม: ผู้นำที่ “อ่านใจได้ แต่ไม่ตามใจใคร”

เธอถ่ายทอดบทเรียนสำคัญที่ได้รับจากนายว่า “อย่าบอกว่าลูกน้องห่วย เพราะนั่นคือคนที่คุณมี”

  • หน้าที่ของหัวหน้าคือหาจุดแข็งของลูกน้อง และวางเขาไว้ในตำแหน่งที่ใช่
  • ในฐานะผู้ได้รับการรับรองจาก ICF เธอใช้หลักการโค้ชเพื่ออ่านอารมณ์และภาษากาย ช่วยทีมค้นพบศักยภาพของตัวเอง

ลูกน้องที่ทำงานด้วยยากที่สุด

“คือคนที่ไม่ฟัง ไม่ออกความเห็นในห้องประชุม แล้วออกไปทำตามใจตัวเอง”

ลูกน้องที่ทำให้เธอภูมิใจที่สุด

“คือคนที่มาพร้อมไอเดีย ไม่ใช่แค่ฟังหัวหน้า แต่ต่อยอดงานได้”

บทบาท “หัวหน้า” และ “แม่”: มีแกนเดียวกันคือความเมตตา

เธออธิบายว่า “เป็นหัวหน้ากับเป็นแม่ คล้ายกันตรงที่ต้องมีเมตตาและเอมพาธี”

  • แต่หัวหน้าต้องยึดผลลัพธ์องค์กรเป็นหลัก
  • การให้โบนัสหรือขึ้นเงินเดือนต้องตาม KPI และเกณฑ์ที่อธิบายได้ชัดเจน

การพัฒนาตัวเองในยุค AI: เรียนรู้ต่อเนื่องไม่มีวันหยุด

เธอเชื่อว่า “AI มาแน่ และจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่เราต้องทำคือเรียนรู้ให้ทัน และใช้มันเป็นผู้ช่วย”

  • กำลังเรียนปริญญาเอกด้านโภชนาศาสตร์แบบสมุห์ไทยเวชศาสตร์
  • จบปริญญาโทด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย
  • ดูแลสุขภาพจนไม่มีโรคประจำตัวในวัย 56 ปี

เธอเสริมว่า “เราต้องแข็งแรงไกลหมอ เพื่อไม่เป็นภาระลูกหลาน และใช้ชีวิตได้จนวินาทีสุดท้าย”

สุขภาพใจสำคัญที่สุด: บทเรียนจากแม่

แม่ของเธอสอนว่า “เรื่องที่แก้ไม่ได้ ช่างมันไป”

  • เธออธิบายว่าไม่ใช่การปล่อยปละ แต่คือการไม่แบกสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
  • “ชีวิตต้องเดินต่อไปด้วยความสุข” เธอย้ำ

บทสรุปของผู้หญิงแกร่งวัย 56 ที่ไม่ยอมเป็น “ไดโนเสาร์”

  • แข็งแรงทั้งกายและใจ
  • ล้มแล้วลุกเสมอ
  • ไม่ยึดติดชื่อเสียง
  • พัฒนาตัวเองต่อเนื่อง
  • มองโลกตามจริง ไม่หลอกตัวเอง
  • ใช้เมตตาและความยุติธรรมบริหารทีม
  • เชื่อในศักยภาพของตัวเองมากกว่าความกลัว
  • ไม่ขังตัวเองในบ้าน ต้องออกไปใช้ชีวิตและเจอผู้คน

ดร.รีเบคก้า รัสเซลล์ คือภาพแทนของผู้หญิง Gen X ที่ยังคงสว่างเด่นท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลก และเป็นต้นแบบของคนทำงานที่เชื่อในความพยายาม ความจริงใจ และการไม่หยุดพัฒนา