เนื้อหาในหมวด ข่าว

รู้จัก 5 อาการเจ็บป่วยที่ \

รู้จัก 5 อาการเจ็บป่วยที่ "เจ็บปวด" ระดับสูงสุดทางการแพทย์ เทียบกับการคลอดลูก

รู้จัก 5 อาการป่วย "เจ็บปวด" ระดับสูงสุดทางการแพทย์ เทียบเท่าคลอดลูก

ในทางการแพทย์ มีการใช้ มาตราวัดระดับความเจ็บปวด (Pain Scale) แบบ 0–10 เพื่อประเมินความรุนแรงของอาการปวดที่ผู้ป่วยประสบ ภาวะเจ็บป่วยบางอย่างถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่รุนแรงที่สุด (ระดับ 9–10) หรือมีความเจ็บปวดที่ทนไม่ได้ ซึ่งหลายกรณีถูกนำมาเปรียบเทียบกับความเจ็บปวดจากการคลอดลูกตามธรรมชาติ

บทความนี้รวบรวม 5 ภาวะความเจ็บปวดที่แพทย์และงานวิจัยระดับสากลจัดให้อยู่ในระดับสูงสุด ซึ่งมีความรุนแรงเทียบเท่าหรือมากกว่าการคลอดบุตร ตามการอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลทางการแพทย์ที่น่าเชื่อถือ

ทำความเข้าใจมาตราวัดความเจ็บปวด (Pain Scale 0–10)

มาตราส่วนความเจ็บปวดนี้เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเวชปฏิบัติเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสื่อสารระดับความเจ็บปวดได้อย่างชัดเจน โดยระดับ 9 ถึง 10 คือระดับที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวดสูงสุดเท่าที่มนุษย์จะสามารถทนได้ หรือเป็นความเจ็บปวดที่ไม่อาจยอมรับได้อีกต่อไป                                                                        

ระดับ (คะแนน) ความหมาย
0 ไม่เจ็บเลย
1–3 ปวดเล็กน้อย
4–6 ปวดปานกลาง
7–8 ปวดรุนแรง
9–10 ปวดทนไม่ได้ / ปวดที่สุดเท่าที่มนุษย์จะรับได้

 

5 ภาวะความเจ็บปวดรุนแรงสูงสุด (ระดับ 9–10/10)

1) Trigeminal Neuralgia (เส้นประสาทใบหน้าอักเสบ)

ระดับความเจ็บ: 10/10

ถูกเรียกว่า: “Suicide Disease” เพราะความเจ็บปวดเหมือนไฟฟ้าช็อต ถูกมีดแทงซ้ำ ๆ บริเวณใบหน้า กระตุ้นได้จากแค่ลมพัดหรือสัมผัสเบา ๆ มักถูกจัดว่าเป็นอาการปวดที่สุดที่มนุษย์รู้จัก

2) Cluster Headache (ปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์)

ระดับความเจ็บ: 10/10

ผู้ป่วยอธิบายว่า “เหมือนมีเหล็กร้อนแทงลูกตา” และ “เจ็บกว่าคลอดลูกหลายเท่า” มักเกิดวันละหลายครั้ง ครั้งละ 1–3 ชั่วโมง

3) Complex Regional Pain Syndrome – CRPS (กลุ่มอาการปวดเรื้อรังที่ซับซ้อน)

ระดับความเจ็บ: 9–10/10

เป็นกลุ่มอาการที่รยางค์ (แขน และ/หรือขา) มีอาการปวด บวม แดง ร้อน/เย็น จากความผิดปกติทางระบบประสาท ความปวดแบบแสบร้อน เจ็บแม้แค่ปลายเส้นผมแตะผิวหนัง ผิวหนังเปลี่ยนสี บวม อุณหภูมิผิดปกติ หลายสเกลจัดไว้สูงกว่าอาการปวดจากการตัดแขนขาโดยไม่ใช้ยาชา

4) Renal Colic จากนิ่วในไต

ระดับความเจ็บ: 9–10/10

ปวดรุนแรงที่หลังร้าวลงขาหนีบ ผู้หญิงที่ทั้ง “คลอดลูก” และ “นิ่วในไต” กว่า 63–79% บอกว่า ปวดนิ่วเท่าหรือมากกว่าคลอด

5) Acute Pancreatitis (ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน)

ระดับความเจ็บ: 9–10/10

ปวดท้องรุนแรงแสบร้อน ร้าวไปหลัง เจ็บมากจนผู้ป่วยหลายรายต้องเข้า ICU เป็นภาวะอันตรายถึงชีวิต

การคลอดลูก ไม่ใช่อาการเจ็บป่วย แต่ความเจ็บปวดระดับสูงสุด

การคลอดลูกตามธรรมชาติ ถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่รุนแรงที่สุดในชีวิตของผู้เป็นแม่ ซึ่งทางการแพทย์มักประเมินความปวดที่เกิดขึ้นระหว่างการคลอดว่าอยู่ในระดับ 10 คะแนน หรือปวดที่สุดในชีวิต โดยเฉพาะในช่วงที่ปากมดลูกเปิดขยายตัวเต็มที่

ความเจ็บปวดจากการคลอดส่วนใหญ่เป็นแบบ ปวดอวัยวะภายใน (Visceral Pain) ซึ่งเกิดจากการบีบตัวของมดลูกและการขยายตัวของปากมดลูก อาการปวดลักษณะนี้จะเป็นระลอกคลื่นความปวดตื้อๆ ทั่วท้องที่เพิ่มความถี่และความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงระยะเบ่งคลอดที่จะมีความเจ็บปวดจากการยืดขยายของเนื้อเยื่อ (Somatic Pain) ร่วมด้วย

ความเจ็บปวดจากการคลอดมีความซับซ้อนและแตกต่างจากภาวะปวดอื่น ๆ เพราะเกิดจากการหดรัดตัวของอวัยวะภายใน โดยความปวดนี้ ไม่สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดทั่วไป และจะเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ การหดรัดตัวของมดลูก 

จากประสบการณ์ของสตรีตั้งครรภ์ครั้งแรกได้อธิบายระดับความเจ็บปวดว่า “ปวดจนทนไม่ได้” หรือในบางรายให้ความเจ็บปวดในระดับที่ มากกว่ากระดูกหัก แผลฉีกขาด หรือ การปวดหลังเรื้อรัง นอกจากนี้ความทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดในระหว่างการคลอดบุตรยังส่งผลต่อสุขภาพทารกในครรภ์และอาจก่อให้เกิดประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำสำหรับสตรีตั้งครรภ์ร่วมด้วย

อาการเจ็บปวดรุนแรงอื่น ๆ ที่ต้องเฝ้าระวังทางการแพทย์

นอกเหนือจาก 5 ภาวะความเจ็บปวดสูงสุดที่กล่าวไปก่อนหน้า ยังมีอาการป่วยและโรคอื่น ๆ อีกหลายชนิดที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดในระดับรุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย และจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างเหมาะสม

ภาวะเหล่านี้มีลักษณะความเจ็บปวดที่หลากหลาย ตั้งแต่ปวดแสบปวดร้อนไปจนถึงปวดตื้อๆ ที่อวัยวะภายใน โดยสามารถแบ่งกลุ่มความเจ็บปวดรุนแรงเหล่านี้ได้ตามลักษณะของอาการและสาเหตุที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

กลุ่มอาการปวดจากเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ

  • งูสวัด (Herpes zoster / Shingles): เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส VZV ซึ่งหลบซ่อนอยู่ในเส้นประสาท เมื่อไวรัสถูกกระตุ้นจะทำให้เกิดอาการปวดแหลม ปวดแสบปวดร้อน ตามแนวเส้นประสาท ร่วมกับอาการคัน ชา และมีผื่นตุ่มน้ำใส
  • อาการปวดเส้นประสาทไซแอติกา (Sciatica): เป็นอาการปวดที่แผ่ร้าวตามแนวเส้นประสาทไซแอติก ตั้งแต่เอวลงไปยังสะโพกและขา สาเหตุเกิดจากการกดทับหรือการรบกวนเส้นประสาท ทำให้มีอาการปวด ชา และอาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงได้
  • ภาวะไหล่ติด (Frozen Shoulder): เป็นภาวะที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมากที่ไหล่ ข้อต่อติดแน่น และขยับลำบาก อาการจะค่อยๆ แย่ลงเรื่อยๆ และอาจต้องใช้เวลานานถึง 1–3 ปีจึงจะดีขึ้นเองได้
  • กระดูกหัก (Bone fracture): การแตกหรือร้าวของกระดูกทุกชนิดสามารถทำให้เกิดความเจ็บปวดรุนแรงมาก โดยระดับความเจ็บขึ้นอยู่กับแรงกระแทกและตำแหน่งที่เกิดการหัก
  • หมอนรองกระดูกเคลื่อน (Slipped disc): เป็นภาวะที่หมอนรองกระดูกเคลื่อนตัวไปกดทับเส้นประสาท ส่งผลให้เกิดอาการปวดร้าวลงแขนหรือขา ผู้ป่วยมักมีอาการแสบชา หรือปวดรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะตอนกลางคืน หรือเมื่อต้องเดิน ยืน หรือนั่งนาน ๆ
  • ไฟโบรไมอัลเจีย (Fibromyalgia): เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมีอาการปวดกล้ามเนื้อและกระดูกทั่วร่างกาย ร่วมกับความเหนื่อยล้าเรื้อรัง และอาการนอนไม่หลับ ผู้ป่วยภาวะนี้จะมีความไวต่อความเจ็บปวดมากกว่าคนทั่วไป

กลุ่มอาการปวดจากอวัยวะภายในและระบบอื่น ๆ

  • หัวใจขาดเลือด / หัวใจวาย (Heart attack): เป็นภาวะอันตรายที่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยง ก่อให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกแบบถูกบีบ ถูกกดทับ หรือปวดร้าวไปที่แขน คอ และขากรรไกร
  • ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis): อาการปวดมักเริ่มต้นรอบสะดือ ก่อนจะย้ายไปปวดรุนแรงที่ท้องด้านขวาล่าง ภาวะนี้อาจนำไปสู่ไส้ติ่งแตกและเยื่อบุช่องท้องอักเสบ (peritonitis) ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
  • เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis): เป็นสาเหตุของอาการปวดท้องประจำเดือนที่รุนแรงมาก นอกจากนี้ยังอาจมีอาการปวดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ปวดเวลาปัสสาวะ หรืออุจจาระร่วมด้วย
  • ข้ออักเสบ (Arthritis): โดยเฉพาะโรคข้อเสื่อม รูมาตอยด์ หรือเกาต์ ซึ่งทำให้ข้อต่อปวดและแข็ง ความเจ็บปวดอาจเป็นแบบปวดตื้อๆ หรือปวดแสบร้อน ซึ่งอาการมักแย่ลงตามอายุ
  • โรคเกาต์ (Gout): เกิดจากการสะสมของกรดยูริกในข้อต่อ นำไปสู่อาการปวดอย่างรุนแรงและเฉียบพลันที่ข้อต่อ โดยเฉพาะหัวแม่เท้า ซึ่งผู้ป่วยอธิบายว่าเหมือน “เท้าถูกไฟเผา”
  • แผลในกระเพาะอาหาร (Peptic ulcer): เป็นสาเหตุของอาการปวดท้องตั้งแต่บริเวณสะดือไปถึงลิ้นปี่ โดยเฉพาะอาการปวดแสบร้อน มักเกิดเมื่อท้องว่างหรือหลังรับประทานอาหาร
  • โลหิตจางชนิดเซลล์เคียว (Sickle cell disease): ทำให้เม็ดเลือดแดงผิดรูปและอุดตันเส้นเลือดเล็กๆ นำไปสู่ วิกฤตความเจ็บปวด (pain crisis) ที่รุนแรง โดยเฉพาะที่ท้อง ข้อต่อ และหน้าอก

อาการปวดเฉพาะกลุ่ม

  • ไมเกรน (Migraine headache): เป็นอาการปวดศีรษะแบบเต้นตุบๆ หรือปวดเป็นจังหวะรุนแรง มักปวดด้านเดียวของศีรษะ และมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และไวต่อเสียงและแสงร่วมด้วย
  • อาการปวดหลังผ่าตัด (Post-surgical pain): เป็นอาการเจ็บเฉียบพลันที่เกิดขึ้นในช่วงแรกหลังการผ่าตัด ความรุนแรงจะแตกต่างกันไปตามประเภทของการผ่าตัดที่ผู้ป่วยได้รับ
โรคร้ายพรากชีวิต เน็ตไอดอลสาวผู้ติดตาม 1.2 ล้าน สามีเจ็บปวด เล่าถึงช่วงวินาทีสุดท้าย

โรคร้ายพรากชีวิต เน็ตไอดอลสาวผู้ติดตาม 1.2 ล้าน สามีเจ็บปวด เล่าถึงช่วงวินาทีสุดท้าย

บล็อกเกอร์สาวผู้มีผู้ติดตาม 1.2 ล้านคน เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในวัย 32 ปี หลังจากต่อสู้มาเกือบ 1 ปี เรื่องราวความรักและการเสียสละของสามีสะเทือนใจผู้คนนับล้าน

ไม่ได้มีแค่ความสุข! เปิดชีวิตหญิงวัย 94 แต่ร่างกายเท่าคนวัย 30 เบื้องหลังสุดเจ็บปวด

ไม่ได้มีแค่ความสุข! เปิดชีวิตหญิงวัย 94 แต่ร่างกายเท่าคนวัย 30 เบื้องหลังสุดเจ็บปวด

คุณยายวัย 94 ปี แต่ร่างกายอ่อนเยาว์เท่าคนวัย 30 เปิดเบื้องหลังชีวิต เคยสูญเสียครั้งใหญ่ สึนามิพรากชีวิตญาติไป 7 คนพร้อม ๆ กัน