เนื้อหาในหมวด ข่าว

5 \

5 "อาการแปลก" หลังตื่นนอนตอนเช้า อาจเป็น "สัญญาณเตือน" จากมะเร็งลำไส้ตรง

5 "อาการแปลก" หลังตื่นนอนตอนเช้า อาจเป็น "สัญญาณเตือน" จากมะเร็งลำไส้ตรง ที่ไม่ควรมองข้าม

ลำไส้ตรง คือส่วนสุดท้ายของลำไส้ใหญ่ มักถูกเปรียบเสมือนอวัยวะที่ "เงียบงัน" จนกว่าโรคมะเร็งจะพัฒนาไปถึงขั้นหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อก้อนเนื้อร้ายเริ่มเติบโต จะทำให้เกิดความผิดปกติที่สำคัญ

ช่วงเช้าหลังตื่นนอน ถือเป็นช่วงเวลาที่อาการแปลกๆ เหล่านี้จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนที่สุด ซึ่งเป็น "สัญญาณเตือน" ที่เราไม่ควรมองข้าม

1. อาการเบ่งถ่ายไม่สุด (Tenesmus)

หากคุณตื่นนอนแล้วรู้สึกปวดเบ่งอย่างรุนแรง แต่เมื่อเข้าห้องน้ำแล้วรู้สึกว่าถ่ายไม่สุด หรือแม้แต่ถ่ายเสร็จแล้วก็ยังรู้สึกหนักท้อง อยากจะถ่ายต่อ ทั้งที่ลำไส้ตรงว่างเปล่า อาการนี้คือสัญญาณเตือนที่ต้องรีบตรวจสอบ

เนื่องจากก้อนมะเร็งที่เติบโตจะไปกินพื้นที่ในลำไส้ตรงและกระตุ้นเส้นประสาท ทำให้สมองเข้าใจผิดว่าลำไส้เต็มและจำเป็นต้องถ่ายออกมา อาการเบ่งถ่ายเท็จนี้จะชัดเจนยิ่งขึ้นในตอนเช้า มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโรคบิดหรือท้องผูก

2. ปวดท้องน้อยหรือปวดทวารหนักหลังตื่นนอน

ความรู้สึกปวดตื้อๆ ไม่สบายตัว หรือแน่นหนักบริเวณท้องน้อยที่ลามไปถึงทวารหนักทันทีที่ตื่นนอน เป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม อาการปวดนี้มักไม่ลดลงแม้ว่าจะเปลี่ยนท่านอนแล้วก็ตาม

ก้อนเนื้อร้ายอาจก่อให้เกิดการอักเสบ การกดทับ หรือการรุกรานเนื้อเยื่อรอบข้าง ซึ่งทำให้เกิดอาการปวด โดยอาการปวดมักสะสมมาตลอดทั้งคืนและแสดงออกชัดเจนที่สุดในตอนเช้า แม้จะคล้ายริดสีดวงทวาร แต่ความปวดจากมะเร็งมักจะคงอยู่และมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นตามกาลเวลา

3. อ่อนเพลียหรือร่างกายทรุดโทรมหลังลืมตา

แม้จะไม่ใช่อาการที่ลำไส้โดยตรง แต่หากคุณตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย หรือขาดพลังงานต่อเนื่อง แม้ว่าจะได้นอนหลับเพียงพอแล้ว ก็ถือเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกาย

มะเร็งลำไส้ตรงอาจทำให้เกิดการตกเลือดภายในเรื้อรังผ่านทางอุจจาระโดยที่ผู้ป่วยไม่รู้ตัว (เลือดแฝง) การสูญเสียเลือดเรื้อรังนำไปสู่ภาวะโลหิตจางอย่างรุนแรง และภาวะโลหิตจางนี้เองที่ทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะอ่อนเพลียและแสดงออกชัดเจนที่สุดในช่วงเช้าหลังตื่นนอน

4. อุจจาระมีรูปร่างผิดปกติ มีเลือด/เมือกปน

การเข้าห้องน้ำครั้งแรกหลังตื่นนอนเป็นเวลาที่สังเกตได้ง่ายที่สุด หากคุณพบว่าอุจจาระมีรูปร่างผิดปกติ เช่น แบนเรียวเล็กเหมือนดินสอ หรือมีเลือดสด ลิ่มเลือด หรือเมือกปนอยู่ ควรต้องระมัดระวัง

รูปร่างอุจจาระที่แบนเรียวเกิดจากการที่ก้อนมะเร็งในลำไส้ตรงมีขนาดใหญ่ขึ้นและไปกดทับทำให้ช่องทางเดินของลำไส้แคบลง ส่วนเลือดสดพร้อมเมือกเป็นสัญญาณของการบาดเจ็บที่เยื่อบุลำไส้ตรง ซึ่งแตกต่างจากเลือดสดๆ เล็กน้อยที่เกิดจากริดสีดวง

5. คลื่นไส้หรือเบื่ออาหารเช้า

อาการคลื่นไส้หรือการสูญเสียความอยากอาหารอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่สามารถรับประทานอาหารเช้าได้ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบย่อยอาหารที่รุนแรง

มะเร็งลำไส้ตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการลุกลามหรือทำให้เกิดการอุดตัน อาจส่งผลกระทบต่อระบบย่อยอาหารทั้งหมด ทำให้เกิดอาการไม่สบายตัว ท้องอืด และคลื่นไส้ การสะสมของสารพิษและการเคลื่อนไหวของลำไส้ที่ผิดปกติเนื่องจากก้อนเนื้อร้าย ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่อยากอาหารและไม่สบายตัวทันทีที่ตื่นนอน

หากคุณสังเกตพบว่ามีอาการแปลกๆ เหล่านี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่ลดลงในช่วงเช้า ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยมะเร็งลำไส้ตรงทันที เพราะการ "จับสัญญาณ" ได้อย่างรวดเร็วคือโอกาสที่ดีที่สุดในการรักษาโรคนี้

คิดว่าแค่ \

คิดว่าแค่ "ริดสีดวง" ชายนั่งเบ่งอึ 30 นาที เลือดเต็มชักโครก ผลตรวจหมอถึงกับส่ายหน้า

ชายนั่งเบ่งอึ 30 นาที คิดว่าแค่ "ริดสีดวง" แรกๆ ไม่ยอมมา รพ. แต่เจ็บจนทนไม่ไหว ผลตรวจหมอถึงกับส่ายหน้า