เนื้อหาในหมวด ข่าว

\

"ภูธัชชัย BUS" จากนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้สู่ศิลปินไอดอล เผยเรื่องลับๆ ในวง

จากอดีตนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ สู่เส้นทางศิลปินเต็มตัว "ภู ธัชชัย ลิ้มปัญญากุล" หนึ่งในสมาชิกวง BUS เปิดใจครั้งแรกในรายการ Prime Cast แบบเจาะลึก ถึงแรงบันดาลใจ ความกดดัน การเรียนรู้ที่จะชนะใจตัวเอง พร้อมเล่าโมเมนต์ที่จดจำที่สุด ใครกรนดังที่สุด ใครปลุกยากที่สุด และแพชชั่นที่ทำให้ยังเดินหน้าต่อบนเส้นทางนี้ 

แนะนำตัวหน่อยค่ะ น้องภู

ภูธัชชัย : ครับผม ผมภูธัชชัย วงบัสครับจริงๆ เมื่อก่อนเคยเป็นนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ครับ ผันตัวมาเข้าโปรเจค NADAO ACADEMY ก็ได้มาเจอพี่ย้งแล้วก็ได้มาอยู่ตรงนี้ทุกวันนี้ครับผม

ตอนเป็นนักกีฬาอายุเท่าไหร่ ?

ภูธัชชัย : ผมเริ่มตั้งแต่น่าจะ 7-8 ขวบ จนอายุประมาณ 17 ย่าง 18 ครับ

นาดาวเจอเราได้ยังไง?

ภูธัชชัย : ตอนนั้นอายุประมาณ 13-14 ก็มีทีม CASTING ทักมาก็ลองแคสแล้วเขาบอกว่าเดี๋ยวบอกผลนะ ผ่านไปประมาณเกือบปีหนึ่ง เขาก็บอกว่าเขาจะทำโปรเจค Nadao Academy คือหาเด็กใหม่หมดเลย จะมีนักแสดงด้วยแล้วก็มีพาร์ทศิลปินด้วย เพราะตอนนั้นมีนาดาวมิวสิคด้วย เลยให้กลับมาแคสอีกรอบหนึ่งก็คือให้เลือกเลยว่าอยากจะอยู่ในดาวบางกอกหรือว่านาดาวมิวสิค ตอนนั้นเราน่าจะเลือกมิวสิคไปครับ เพราะว่าคิดว่าร้องเพลงน่าจะง่ายกว่า

จากไม้ฮอกกี้มาจับไมค์

ภูธัชชัย : ช่วงแรกก็งงอยู่แต่ว่าจริง ๆ คือผมมีไปเรียนร้องเพลงมาก่อน ไปเรียนช่วงปิดเทอมแม่ก็จะแบบหากิจกรรมอะไรให้ทำแล้วก็ไปลองเรียนร้องเพลงแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองชอบอยู่แล้ว ตอนนั้นผมว่าเริ่มมาจากการที่เราชอบฟังเพลงด้วยก็เลยอยากลองร้องเล่นจริง ๆ คุณแม่ก็ส่งไปเรียนอาทิตย์ละรอบ

เป็นนักกีฬาพอมาเป็นศิลปิน รู้สึกว่าต้องแข่งขันไหม?

ภูธัชชัย : ผมเหมือนเป็นคนที่ค่อนข้างขี้กลัวนิดหนึ่ง รู้สึกว่าเวลาแข่งจะกดดันมาก ๆ ไม่ว่าจะแข่งอะไรรู้สึกว่าต้องจัดการกับความกดดันของตัวเองตลอดเวลาหลัง ๆ ก็เลยคิดว่าถ้าเราเปลี่ยน mindset เราคือแข่งกับตัวเองในทุก ๆ วันดีกว่า ตัวเองรู้จักตัวเองมากที่สุด ว่าวันนี้เราทำได้เท่านี้ถ้าวันหน้าเราทำได้มากขึ้นก็ทำให้เราพัฒนาในทุก ๆ อย่าง พอรู้สึกว่าการแข่งขันมันก็ไม่ได้จะต้องชนะหรือว่ามันจะทำให้เราชนะทุกรอบที่เราแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามผมรู้สึกว่า ถ้าชนะถ้าชนะก็ดีใจ เหมือนเป็นรางวัลให้ตัวเอง ยึดจากความพึงพอใจเรา เพราะถ้าเราชนะใจตัวเองมันก็ดีแล้ว

เคยมีช่วงที่เครียดมาก ๆ ไหม ?

ภูธัชชัย : มีบ้างครับช่วงที่ทำงานหลายอย่างมันก็จะต้องโฟกัสหลายอย่าง แล้วอาจจะทำไม่ได้ดี 100% ในทุก ๆ อย่าง ก็จะมีเก็บมาคิดมากว่าอยากทำให้มันดีกว่านี้

ใครคือคนที่อยู่ข้างตัวเรา ช่วยเรามาจากตรงนั้นได้มากที่สุด

ภูธัชชัย : ก็คุยกับที่บ้าน ทุกวันผมจะกลับบ้านประมาณเที่ยงคืนครึ่งจะถึงบ้าน แล้วพ่อแม่ก็ยังไม่นอนก็จะไปนั่งกินข้าวแล้วเค้าก็จะมานั่งคุยกับเราเวลามีอะไรก็จะแชร์ให้ฟัง ผมรู้สึกว่าการได้ระบายให้ใครสักคนฟังก็โล่งแล้ว บางทีปัญหาที่เราเจออยู่มันอาจจะไม่ได้มีทางแก้แต่การที่เราได้พูดออกมาทำให้เรารู้สึกว่าอย่างน้อยก็มีคนที่ฟังเราอยู่และเข้าใจเราอยู่

เป็นพี่ชายคนโตสนิทกับน้องไหมคะ ?

ภูธัชชัย : จริงๆ ก็สนิทครับ เพราะว่าเล่นกับน้องมาตั้งแต่เด็ก ผมห่างกับน้องแค่ 2 ปี

อยากพาน้องเข้าวงการไหม ?

ภูธัชชัย : กำลังฝึกอยู่ครับ ก็เป็นห่วงเขาอยู่ตลอดครับ

ตอนเป็นนักกีฬากับตอนเป็นศิลปินต่างกันไหม ?

ภูธัชชัย : ผมว่าก็เป็น Routine ที่ต่างกันไป ตอนเป็นนักกีฬาอาทิตย์หนึ่งก็จะซ้อมประมาณ 3-4 วัน

ถ้าสมมุติว่าเรามีวันว่าง 1 วัน ไม่ต้องไปซ้อมอยากทำอะไร ?

ภูธัชชัย : มีอะไรที่อยากทำหลายอย่างมาก ถ้ามีเวลาว่างจริงๆ อยากไป เข้าฟิตเนส เพราะเพิ่งกลับมาเวทเทรนนิ่งจริงจัง ช่วงประมาณ 2-3 เดือนที่แล้ว

มีหุ่นในฝันไหมว่าอยากรูปร่างแบบนี้ ?

ภูธัชชัย : Yeonjun TXT ครับ เป็นเรฟของ Bus ทั้ง 12 คน เพราะพี่ย้งบอกว่าอยากให้ทุกคนบอดี้ประมาณนี้ เพราะว่าใส่เสื้อผ้าออกมาแล้วมันสวยมาก เราก็เลยฟิตตามคุณพ่อของเรา อยากทำให้เขาภูมิใจ ตอนนี้ก็ยังไม่ถึงขั้นนั้นนะ ถ้าได้แบบนี้จะเอาไปโชว์เขาคนแรก

พี่ย้งสอนอะไรที่จำขึ้นใจที่สุด?

ภูธัชชัย : เขาสอนให้ Humble ตลอดเวลาไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือมีชื่อเสียงโด่งดัง มันทำให้เราเป็นคนน่ารัก ทำให้เราไม่ลืมตัวตนของตัวเองที่มาตั้งแต่วันแรก

Routine ของวงบัสคือทุกวันต้องมาเจอกัน ?

ภูธัชชัย : Routine ตั้งแต่เดบิวต์คือเราจะมาเจอกันทุกวันนะประมาณ 19:00 น. แต่ถ้าเสาร์อาทิตย์ก็เริ่ม 13:00 - 15:00 น. เราจะมาซ้อมวันทุกวันจะเป็นการซ้อมเพื่อที่จะถ่าย MV หรือไปขึ้น Festival ต่างๆ เพื่อจะเตรียมตัวตลอดเวลากลายเป็นว่าเราต้องมาเจอกันทุกวัน

2 ปีที่ผ่านมารู้สึกว่าเราเติบโตขึ้นด้านไหนบ้าง ?

ภูธัชชัย : พอเราทำงานถี่มาก ๆ เราไม่ได้แบบนึกกลับมาถามตัวเองหรือไม่ได้อยู่กับตัวเองเลย เพราะว่าเราอยู่ใน working mode ตลอดเวลาแล้วบางอย่างเวลาเราทำอะไรก็กลายเป็นแบบ auto pilot ไปหมด ผมเคยอาบน้ำแล้วสระผมไปแล้วผมลืมไปเลยว่าสระผมไปแล้ว เพราะเหมือนในหัวไม่ได้โฟกัสอยู่ตรงนั้น

เราทำงานดึกขนาดนี้ ก็เป็นคนที่นอนดึกเหมือนกัน ?

ภูธัชชัย : จริงๆ เพื่อนๆ ก็นอนดึกแทบทุกคน เพราะรู้สึกว่ายังไม่ได้ทำอะไรเลย ยังไม่ได้เล่นเกมส์เลย เวลามันก็เลยผ่านไปบางทีตี 4 ละ หลังๆก็พยายามปรับเวลานอนครับ พยายามทำให้ตัวเองหลับเร็วขึ้น

ดูแลเรื่องการกินไหม ?

ภูธัชชัย : ถ้าช่วงเดบิวต์ใหม่ๆกินกันกระจายเลย กลับมามองตัวเองอีกทีเริ่มไม่ได้ละ หลังๆก็กลับมาดูแลตัวเอง ต้องช่วงกันดู ทุกคนก็จะพยายามดูแลร่างกายกัน มีช่วงที่กินคลีนเหมือนกันเป็นช่วงที่เบิร์นน้ำหนักออก ภูมิใจที่เห็นร่างกายได้พัฒนา

Bus มีรายการ Bussing Japan เป็นยังไงบ้าง

ภูธัชชัย : เป็นอะไรต่อยอดมาจาก frozen hormones คือพี่ย้งชอบไปเที่ยวแล้วชอบไปดื่มด่ำกับบรรยากาศเวลาไปเที่ยว เริ่มมันมี Bussing Thailand จะ Hang over ทุกวันนี้ก็เป็น Bussing Japan เป็นพาร์ท 2 แทนอารมณ์ซีซั่น 2 ผมรู้สึกว่าก็สนุกมาก ๆ เหมือนทุกครั้งที่ได้ไปกับเพื่อนไปอยู่ด้วยกัน 10 วันเกือบ 20 วัน ทำให้เรารู้จักเพื่อนมากขึ้นเห็นเพื่อนในมุมมองที่มากขึ้นสนิทใจกันมากขึ้นครับ

โมเมนต์ไหนที่น่าจดจำมากที่สุดสำหรับเรา ?

ภูธัชชัย : แก้ผ้าแช่ออนเซ็นด้วยกัน ตอนนั้นเกือบครบตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้ทำแต่พอไปถึงหน้างานตรงนั้นจริง ๆ ทุกคนก็กอดคอกันเข้าไปก็เป็นอะไรที่ไม่เคยเลย

การเปลี่ยน roommate ทุกครั้งที่เราเปลี่ยนโรงแรมเป็นยังไงบ้างได้นอนกับใครบ้าง ?

ภูธัชชัย : ผมนอนกับเพื่อน ๆ ในวงเนี่ยครบแล้วนะครบแล้วถ้ารวมซีซั่นแรกด้วยแล้วก็รวมแบบเวลาเพลงงานต่างๆด้วยก็คือคิดว่าเคยนอนกับทุกคนมาหมดแล้ว

นอนกับใครสบายสุด ?

ภูธัชชัย : ผมว่านอนกับเน็กซ์สบายสุด เพราะว่าเขาเป็นคนเป็นคนสะอาด จัดแจงห้องเป็นระเบียบมาก ๆ ผมวางเสื้อกองไว้ตรงโซฟาไม่ได้แล้วต้องให้ผมมาเก็บแล้วผมรู้สึกว่าจริง ๆ อยู่กับเขาก็ได้ความสบายใจเพราะว่าเขาเจ้าระเบียบแต่ว่ามันเป็นเจ้าระเบียบในเรื่องที่ดี

ใครนอนดึกสุด ?

ภูธัชชัย : นอนกับจินวุคน่าจะดึกสุด เพราะว่ามีเรื่องให้คุยกันไม่หยุดแล้วบางทีหิวแล้วเดินลงไปเซเว่นข้างล่างบ้างมันก็มีความสนุกที่แตกต่างกันไปในเพื่อนๆแต่ละคน

ใครปลุกยากสุด ?

ภูธัชชัย : ผมว่าผมเป็น 1 ในคนนั้นที่ปลุกยากสุดผมว่าทุกวันนี้ ถ้าสูสีผมน่าจะเป็นพี่มาร์คคริสครับ

ใครกรนดังที่สุด ?

ภูธัชชัย : ถ้าจำขึ้นใจก็น่าจะเป็น leader พี่อลันก็คือพลังปอดนี่ใหญ่มาก ๆ ผมนอนไม่หลับเลยต้องหมอนแบบปิดหู เขาน่าใช้ Energy เยอะมากๆ

มีอะไรที่ภูไม่เคยได้ทำแล้วอยากทำไหม ?

ภูธัชชัย : ผมกำลังอยากลองเรียนทำเพลงเรียนใช้พวกโปรแกรมจริง ล่าสุดก็ไปซื้ออุปกรณ์มาแล้วแต่ว่ายังใช้ไม่เป็นนะ ถ้าวันไหนเราพร้อมเราก็จะได้ใช้มันเลย อยากทำมานานแล้วแต่รู้สึกว่ามันต้อง take time กับมันต้องศึกษามันก่อนที่จะทำ

มีอะไรที่ทำแล้วรู้สึกว่าเราประทับใจมาก ?

ภูธัชชัย : ตั้งแต่เข้าวงการนี้มาก็ทำให้เราเยอะมาก ผมรู้สึกว่าเขาคอยอยู่ข้างหลังเราตลอดคอยซัพพอร์ตเราในทุก ๆ เรื่องเลยไม่ว่าเราจะทำอะไรผมรู้สึกว่าเค้าให้กำลังใจเราตลอด ล่าสุดมีอันที่ตราตรึงใจผมมากยังอยู่ในใจผมอยู่เลย ที่เขาทำให้แต่ล่าสุดผมไป fasion week มาแล้วมันต้องช่วยกันปั่นเทรนด์เพื่อที่จะได้ยอดแบบ EMV (Earn Media Value) แบบสูงๆ เป็นอะไรที่ยากมาก ๆ ต้องเหนื่อยมาก ๆ เขาช่วยกันปั่นเทรนด์ให้ทั้งคืน อดหลับอดนอนปั่นเทรนด์ให้ แล้วก็ติดแท็ก รู้สึกว่าคนหนึ่งแบบอดหลับอดนอนช่วยเรา คือขอบคุณมากๆแล้วก็ประทับใจมากๆ

 

สามารถติดตาม "PrimeCast" ได้ที่ช่องทาง Facebook: Alive Dot , Youtube : Alive Dot วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น.

คลิกชมรายการย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=XsuB7NKKg1Q