สรุปไทม์ไลน์ "ดารา น." เบี้ยวเงินเพื่อน "กรรชัย" กางผัง เปิดหลักฐานเช็คเงิน ตัวละครโผล่เพียบ

หนุ่ม กรรชัย เปิดแผนผัง ดรามาดารา น.หนู ชวนเพื่อนลงทุนเสียหายอ่วม เปิดเช็คเงิน พบยอดตอนนี้กว่า 200 ล้าน ผู้เสียหายเพียบ

21 พ.ย. 68 หนุ่ม กรรชัย พิธีกรรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ อธิบายปมร้อน ดาราอักษรย่อ “น.หนู” หลังมีข่าวหลอกเพื่อนลงทุนจนสูญเงินมหาศาลหลายร้อยล้าน เผยเรื่องนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะผู้เสียหายยังไม่เปิดเผยข้อมูลทั้งหมด ขณะที่ฝ่ายดาราที่ถูกพาดพิงก็ยังไม่ออกมาชี้แจงต่อสาธารณชน

หนุ่ม กรรชัย ระบุว่า ตนติดตามเรื่องนี้มาได้สักพัก แต่ยังไม่พูดอะไรจนกระทั่งมีสื่ออื่นเปิดประเด็น เขาจึงนำเสนอเรื่องราวผ่าน “แผนผังความสัมพันธ์” เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องเกิดจาก น.หนู ซึ่งเป็นบุคคลในวงการบันเทิง ชักชวนเพื่อนสนิท ข.ไข่ มาร่วมลงทุน อ้างว่าจะนำเงินไปให้บุคคลชื่อ ต.เต่า เพื่อนำไปทำธุรกิจ พร้อมสัญญาว่าจะให้ดอกเบี้ยสูงถึง 7% ก่อนลดเหลือ 4% ในภายหลัง

ในช่วงแรก ข.ไข่ ลงทุนไป 3 ล้านบาท ก่อนเพิ่มเป็น 7 ล้านบาท ซึ่งได้รับผลตอบแทนจริง ทำให้เกิดความเชื่อใจ จึงมีการเพิ่มเงินลงทุน รวมถึงชักชวนเพื่อนคนอื่นเข้ามา คือ จ.จาน, ท.ทหาร, พ.พาน และอีกหนึ่งคนที่ใช้ชื่อว่า น.หนู 1

เบื้องต้นคาดว่าความเสียหายรวมเงินลงทุนมีดังนี้

• ข.ไข่ ประมาณ 70 ล้านบาท

• จ.จาน ประมาณ 70 ล้านบาท

• ท.ทหาร ประมาณ 90 ล้านบาท

• พ.พาน เกือบ 10 ล้านบาท

เรื่องเริ่มบานปลายเมื่อผู้ลงทุนไม่ได้เงินผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ จึงสอบถามไปยัง ต.เต่า ซึ่งถูกอ้างว่าเป็นผู้รับเงินลงทุน แต่กลับพบข้อมูลขัดแย้งอย่างหนัก เพราะ ต.เต่า ยืนยันว่า ไม่เคยได้รับเงินจากผู้เสียหายแม้แต่บาทเดียว ในทางกลับกัน เขากลับเป็นคน จ่ายเงินให้ น.หนู มาโดยตลอด

เพื่อประกอบข้อมูล หนุ่ม กรรชัย นำภาพถ่ายเช็ค 5 ใบมาเปิดเผยในรายการ โดยเช็คทั้งหมดสั่งจ่ายให้ชื่อ น.หนู

• เช็ค 50 ล้านบาท จำนวน 4 ใบ

• เช็ค 2.8 ล้านบาท จำนวน 1 ใบ
  รวมมูลค่ากว่า 202.8 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดหลักฐานใบคืนเช็คจากธนาคารที่ระบุว่า เงินในบัญชีไม่พอจ่าย มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท

หนุ่ม กรรชัย ระบุว่า คดีนี้เป็นเรื่องใหญ่และซับซ้อน ขณะนี้ ต.เต่า ได้พูดคุยกับกลุ่มผู้เสียหายแล้ว พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และย้ำว่าตนคือ “ผู้จ่ายเงิน” ไม่ใช่ผู้รับเงินลงทุนตามที่ถูกอ้าง พร้อมเรียกร้องให้ น.หนู ออกมาชี้แจง เพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏและยุติกระแสสังคมที่กำลังจับตามองอยู่ในขณะนี้

ขอบคุณภาพและข้อมูล : เที่ยงวันทันเหตุการณ์, โหนกระแส, สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว