เช็กข่าวชัวร์ : ดื่มน้ำกระเจี๊ยบบ่อย เสี่ยงเลือดจางและไตวาย จริงหรือไม่?
ดื่มน้ำกระเจี๊ยบบ่อย เสี่ยงเลือดจางและไตวาย จริงหรือไม่?
ในโลกออนไลน์มีการแชร์ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับโทษของการดื่มน้ำกระเจี๊ยบในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง โดยมีการกล่าวอ้างว่า น้ำกระเจี๊ยบมีความเป็นกรดสูงและมีสารที่อาจขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะไตวายหากดื่มเกินขนาด ซึ่งสร้างความเข้าใจผิดและความตระหนกให้แก่ผู้บริโภคที่ชื่นชอบเครื่องดื่มสมุนไพรชนิดนี้ กองบรรณาธิการ Sanook News จึงดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง
ประเด็นนี้ถูกส่งต่ออย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพด้วยการดื่มน้ำสมุนไพร ทำให้เกิดคำถามว่าข้อกล่าวอ้างดังกล่าวเป็น ข่าวปลอมหรือเป็นข้อเท็จจริงทางการแพทย์ที่ควรเฝ้าระวัง การตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการเผยแพร่ Fake News และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลด้านสุขภาพที่ถูกต้องจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้
คำถาม
การดื่มน้ำกระเจี๊ยบบ่อยครั้งและในปริมาณมากต่อวันจะเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเลือดจางจากการขาดธาตุเหล็ก และส่งผลเสียต่อไตจนอาจทำให้ไตวายจริงหรือไม่? และผู้ที่มีภาวะโลหิตจางควรจำกัดปริมาณการดื่มหรือไม่?

การตรวจสอบ
กองบรรณาธิการ Sanook News ได้ตรวจสอบข้อมูลนี้จาก ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย (Anti-Fake News Center Thailand) ซึ่งได้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงคือ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงทางวิชาการ
ผลการตรวจสอบจากกรมอนามัยพบว่า ข้อมูลที่ถูกส่งต่อเกี่ยวกับน้ำกระเจี๊ยบมีความเป็นจริงบางส่วน แต่ขาดการให้รายละเอียดที่ถูกต้องครบถ้วน น้ำกระเจี๊ยบมีกรดออกซาลิก (Oxalic Acid) ซึ่งสามารถจับกับธาตุเหล็กในร่างกายและลดการดูดซึมได้จริง ซึ่งเป็นประเด็นที่ควรระวังโดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวอ้างที่ว่าการดื่มน้ำกระเจี๊ยบมากจะทำให้ "ไตวาย" นั้น เป็นการกล่าวเกินจริงและไม่ถูกต้องทั้งหมด เนื่องจากหากบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมและไม่ได้มีโรคไตเรื้อรังมาก่อน ร่างกายจะสามารถขับกรดออกซาลิกส่วนเกินออกได้ตามปกติ ยกเว้นในกรณีที่มีการดื่มในปริมาณที่มากเกินไปอย่างต่อเนื่องยาวนานมากๆ และมีภาวะอื่น ๆ ร่วมด้วย
กรมอนามัยจึงให้คำแนะนำว่า ผู้ที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ควรดื่มน้ำกระเจี๊ยบอย่างพอเหมาะ ไม่ควรเกินหนึ่งแก้วเล็กต่อวัน และควรเว้นช่วงการดื่มให้ห่างจากมื้ออาหารหรือการรับประทานอาหารเสริมธาตุเหล็กประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันกรดออกซาลิกขัดขวางการดูดซึม ส่วนบุคคลทั่วไปสามารถบริโภคได้ แต่ควรเป็นน้ำสมุนไพรที่ไม่ปรุงรสหวานจัด และบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมร่วมกับการรับประทานอาหารที่หลากหลาย
ข้อเท็จจริง
ข้อกล่าวอ้างที่ว่าการดื่มน้ำกระเจี๊ยบมากไปจะทำให้เสี่ยง ไตวาย นั้น ไม่เป็นความจริง ในบุคคลทั่วไปที่บริโภคในปริมาณเหมาะสม ส่วนประเด็นที่น้ำกระเจี๊ยบมีผลต่อการดูดซึมธาตุเหล็กนั้น มีมูลความจริง เนื่องจากมีกรดออกซาลิก แต่จะส่งผลชัดเจนในผู้ที่มีภาวะโลหิตจางอยู่แล้ว ซึ่งควรจำกัดปริมาณการดื่มตามคำแนะนำของกรมอนามัย ดังนั้น ข้อมูลที่แชร์ในโลกออนไลน์จึงเป็นข้อมูลบิดเบือนที่นำไปสู่ความตระหนกเกินจริง