เนื้อหาในหมวด ข่าว

รู้ไว้ดีกว่า! ปลา 2 ชนิด เตือนระดับโลก \

รู้ไว้ดีกว่า! ปลา 2 ชนิด เตือนระดับโลก "เสี่ยงมะเร็ง" แต่ยังเป็นเมนูโปรดชาวไทยหลายคน

สลัดปลาดิบ–ปลาเค็ม อร่อยถูกใจแต่แฝงความเสี่ยง มะเร็งอาจถามหาโดยไม่รู้ตัว

หลายคนอาจไม่ทราบว่าเมนูปลาโปรดบางอย่างสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้ โดยเฉพาะเมื่อรับประทานบ่อยหรือมากเกินไป

แม้สลัดปลาดิบและปลาเค็มจะเป็นเมนูยอดนิยม แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการกินปลาน้ำจืดดิบ หรือกินปลาเค็มในปริมาณมากเป็นประจำ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งท่อน้ำดีและโรคในระบบทางเดินอาหาร

สลัดปลาดิบกับความเสี่ยงมะเร็ง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การกินปลาน้ำจืดดิบอาจทำให้เสี่ยงมะเร็งตับ โดยเฉพาะมะเร็งท่อน้ำดี เพราะปลาน้ำจืดบางชนิดอาจมีพยาธิใบไม้ตับ เมื่อกินเข้าไป ตัวอ่อนพยาธิจะเข้าสู่ร่างกายทันที

ปัญหาคือ ผู้ติดเชื้อมักไม่มีอาการในระยะแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป พยาธิจะเกาะอยู่ตามท่อน้ำดี ทำให้เกิดแผลและการอักเสบเรื้อรัง นอกจากนี้ การที่ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อการติดเชื้ออย่างรุนแรง หรือที่เรียกว่า “พายุไซโตไคน์” ยังทำลายเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ ท่อน้ำดี ซึ่งเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง

แม้อัตราการเกิดมะเร็งในผู้ติดพยาธิใบไม้ตับมีไม่ถึง 1% แต่จำนวนผู้ติดเชื้อมีจำนวนหลายล้านคน ถือว่าน่ากังวลอย่างมาก ในประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อประมาณ 6 ล้านคน โดยเฉพาะในภาคอีสาน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีอัตรามะเร็งท่อน้ำดีสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

การศึกษายังพบว่าผู้ป่วยมะเร็งตับที่เกิดจากพยาธิใบไม้ตับมักถูกวินิจฉัยเมื่อเข้าสู่ระยะท้าย ทำให้การรักษายากและผู้ป่วยส่วนใหญ่มีชีวิตอยู่ได้เพียง 6 เดือนถึง 1 ปีหลังพบโรค

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า การหลีกเลี่ยงปลาน้ำจืดดิบหรืออาหารที่สุกไม่ทั่วถึงคือวิธีป้องกันที่ดีที่สุด

ปลาเค็มกับความเสี่ยงมะเร็ง

กองทุนวิจัยมะเร็งโลก (WCRF) รายงานในปี 2561 ว่าการกินปลาเค็มปริมาณมากมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโรคมะเร็งที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

เนื่องจากการหมักเกลือทำให้ปลาเกิดการสะสมไนไตรต์ ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นไนโตรซามีน สารก่อมะเร็งที่สามารถทำลายดีเอ็นเอและกระตุ้นให้เซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลงผิดปกติ

งานวิจัยในสัตว์พบว่าอาหารที่มีไนโตรซามีนสูงเพิ่มโอกาสการเกิดเนื้องอกในระบบย่อยอาหาร ขณะที่งานวิจัยในมนุษย์ก็พบระดับไนโตรซามีนที่สูงขึ้นในผู้ที่กินปลาเค็มมากกว่าเป็นประจำ

องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้ปลาเค็มอยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็งระดับ 1 ตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งหมายถึงมีข้อมูลเพียงพอว่าทำให้เกิดมะเร็งในมนุษย์ได้

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรลดการบริโภคปลาเค็ม เลือกกินเฉพาะโอกาส และแช่–ล้างให้สะอาดก่อนปรุง เพื่อลดเกลือและไนไตรต์ตกค้าง นอกจากนี้ การเลือกกินปลาสดและปลาที่ผ่านการปรุงสุกอย่างเหมาะสมเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า