เนื้อหาในหมวด ข่าว

ที่มาของ \

ที่มาของ "ทรงผมผู้ชายชาวแมนจู" ทำไมต้อง "ล้านหน้า–ยาวหลัง" แบบนั้น?

ทรงผมผู้ชายชาวแมนจู เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมและการเมืองที่เด่นชัดที่สุดในประวัติศาสตร์จีน

ย้อนรอยจากชนเผ่านักรบในแมนจูเรีย สู่การเป็นสัญลักษณ์ของการปกครองราชวงศ์ชิง ทรงผมที่โกนด้านหน้าและไว้เปียยาวด้านหลังไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มีเหตุผลทั้งเชิงปฏิบัติและเชิงอำนาจที่ผูกโยงกันอย่างแน่นแฟ้น

ทำให้ทรงผมผู้ชายชาวแมนจู กลายเป็นภาพจำที่บอกเล่าทั้งชีวิตและการเมืองของยุคสมัยนั้นจนบอกเล่าเรื่องราวมาถึงคนในยุคปัจจุบัน

1_lcgfkzm7nqsr0y7wvzzlcq

รากเหง้าจากวิถีนักรบ

เดิมทีชาวแมนจูเป็นกลุ่มชนเผ่านักรบที่อาศัยในภูมิภาคแมนจูเรีย ทรงผมที่โกนหน้าผากแต่เก็บผมด้านหลังเป็นเปีย ช่วยอำนวยความสะดวกเมื่อขี่ม้า ทำศึก และปฏิบัติงานกลางแจ้ง การเก็บผมให้เป็นเปียยังช่วยป้องกันผมพันหรือรบกวนการสวมอาวุธและหมวก

การแปรสภาพจากวิถีชีวิตสู่กฎหมายราชสำนัก

เมื่อชาวแมนจูขึ้นสู่การปกครองเป็นราชวงศ์ชิง ในปีค.ศ. 1644 ทรงผมแบบแมนจูถูกบังคับใช้กับประชากรทุกกลุ่มผ่านคำสั่งราชการ การบังคับให้โกนหน้าผากและไว้เปียเป็นสัญลักษณ์การยอมรับอำนาจ และเป็นวิธีที่รัฐใช้เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวทางการเมือง

3a811eaf9de776f6c9abb6fa2dae3

เหตุผลเชิงปฏิบัติ: ทำไมต้องโกนด้านหน้า

เหตุผลด้านการรบ คือหนึ่งในเหตุผลสำคัญ การโกนหน้าผากทำให้การมองเห็นและการสวมหมวกหรือหน้ากากป้องกันสะดวกขึ้น นอกจากนี้ยังลดการรบกวนเมื่อต้องขี่ม้าหรือทำงานหนัก

เหตุผลเชิงสัญลักษณ์และการเมือง

นอกจากเหตุผลด้านปฏิบัติแล้ว การกำหนดทรงผมยังเป็นเครื่องมือทางการเมือง การเปลี่ยนแปลงทรงผมหมายถึงการสละอัตลักษณ์เดิมและการยอมรับอำนาจใหม่ ดังนั้นการคัดค้านการไว้ผมหรือไม่ไว้เปียจึงถูกมองว่าเป็นการขัดขืนรัฐ

ab37f64f64a6bde5836c4171fe675

เปีย: มากกว่าแค่การรวบผม

ผมด้านหลังที่ถักเป็นเปียไม่ได้เป็นเพียงการจัดเก็บผม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ทางชนชั้นและการระบุสถานะในสังคมแมนจู และเมื่อคำสั่งทำให้ประชาชนทั่วไปต้องไว้เปีย เปียจึงกลายเป็นเครื่องหมายของคำสั่งและการยอมจำนนทางวัฒนธรรม

การต่อต้านและความขัดแย้ง

ในสายตาของชาวฮั่นหลายคน การถูกบังคับให้โกนผมเป็นการละเมิดความเชื่อดั้งเดิมว่าร่างกายผมและผิวหนังมาจากบิดามารดา การต่อต้านเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การปราบปรามทางการเมืองก็รุนแรงไม่แพ้กัน

8b3eba6578c3794481ed45d603173

จุดสิ้นสุดของเปีย

เมื่อการปฏิวัติซินไฮ่ในปี ค.ศ. 1911–1912 ทำให้ราชวงศ์ชิงล่มสลาย คนจำนวนมากต่างรีบตัดเปียประกาศความเป็นอิสระจากการปกครองของแมนจู ภาพการตัดเปียกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมสมัยใหม่

บทสรุป

ทรงผมผู้ชายชาวแมนจู มีทั้งรากฐานจากความจำเป็นเชิงปฏิบัติของนักรบและการทำงานร่วมกับกลไกอำนาจของรัฐ

เมื่อมองทั้งสองด้านร่วมกัน เราจะเข้าใจได้ว่าทำไมทรงผมนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงแฟชั่น แต่เป็นเครื่องมือทางสังคมและการเมืองที่ทรงพลัง

ประวัติศาสตร์ของทรงผมนี้สะท้อนทั้งความปรับตัวและการยืนหยัดของวัฒนธรรมในช่วงเปลี่ยนผ่านของจีน