ปรากฎการณ์ "ฝาชีครอบเมือง" คืออะไร? เปิดวิธีแยก "หมอก" กับ "ฝุ่น PM 2.5"
ลมอ่อน อากาศเย็น ระวังปรากฏการณ์ "ฝาชีครอบเมือง" ดันฝุ่น PM2.5 พุ่งสูง แยกให้ออกอันไหนหมอก อันไหนฝุ่น
ช่วงที่อากาศเย็นลงและลมอ่อนกำลังพัดผ่าน หลายพื้นที่มักพบว่า ฝุ่น PM2.5 เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้ท้องฟ้าดูขมุกขมัวคล้ายมีหมอกปกคลุม แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่หมอกธรรมชาติ หากเป็นผลจากปรากฏการณ์ “ฝาชีครอบเมือง” ที่ทำให้ฝุ่นสะสมหนาแน่นอยู่ในระดับที่เราหายใจ
ลมอ่อน + อากาศเย็น = ฝาชีครอบเมือง
เมื่ออากาศเย็นในมวลอากาศด้านบนกดทับอากาศอุ่นที่อยู่ใกล้พื้นดิน จะเกิดภาวะที่เรียกว่า Temperature Inversion หรือ “ฝาชีครอบเมือง” ส่งผลให้ฝุ่นควันจากรถยนต์ การเผาไหม้ และกิจกรรมต่างๆ ไม่สามารถลอยตัวขึ้นสู่ชั้นอากาศที่สูงกว่าได้
ฝุ่นเหล่านี้จึงสะสมหนาแน่นบริเวณพื้นดิน ทำให้คุณภาพอากาศแย่ลงอย่างรวดเร็ว และมีผลโดยตรงต่อสุขภาพของผู้ที่ต้องใช้ชีวิตกลางแจ้งหรือผู้มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
แยกให้ชัด: “หมอกธรรมชาติ” หรือ “ฝุ่น PM2.5”
หมอกคืออะไร?
หมอกเกิดจากละอองน้ำขนาดเล็กที่ลอยตัวอยู่ใกล้พื้นดิน เกิดขึ้นเมื่ออากาศเย็นตัวลงจนถึงจุดน้ำค้าง ทำให้ไอน้ำควบแน่นเป็นหยดเล็กๆ ช่วงที่มีหมอกจะรู้สึกเย็นและมีความชื้นเกาะที่ผิวหนัง และมักเกิดเฉพาะช่วงเช้าก่อนจะจางหายเมื่ออากาศอุ่นขึ้น
ฝุ่น PM2.5 คืออะไร?
ฝุ่น PM2.5 เป็นฝุ่นขนาดเล็กมากจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เมื่อสะสมมากจะทำให้อากาศดูขุ่นมัวคล้ายหมอกควัน แต่แตกต่างจากหมอกตรงที่เกิดจากการเผาไหม้ เช่น ควันรถ โรงงาน การเผาในที่โล่ง หรือกิจกรรมอุตสาหกรรมต่างๆ
การสูดดมฝุ่น PM2.5 ในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการแสบจมูก ไอ ระคายคอ กระทบผิวหนัง และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งวัน ไม่จำกัดเวลาเหมือนหมอก

สรุป: ทำไมช่วงนี้ฝุ่น PM2.5 จึงพุ่งสูง
การรวมตัวของลมอ่อนและอากาศเย็นทำให้เกิดภาวะฝาชีครอบเมือง ฝุ่น PM2.5 จึงถูกกักอยู่ในระดับพื้นดิน ไม่สามารถกระจายตัวได้ ส่งผลให้ค่าฝุ่นพุ่งสูงอย่างเห็นได้ชัดในหลายพื้นที่ ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองจึงควรติดตามค่า PM2.5 ใกล้ชิด และป้องกันสุขภาพอย่างเหมาะสม