เนื้อหาในหมวด ข่าว

เลี่ยงได้เลี่ยง 7 อาหาร \

เลี่ยงได้เลี่ยง 7 อาหาร "ทำลายสมอง" ยิ่งกินยิ่งหัวช้า เสี่ยงอัลไซเมอร์ไม่รู้ตัว

เลี่ยงได้เลี่ยง 7 อาหาร "ทำลายสมอง" ยิ่งกินยิ่งหัวช้า เสี่ยงอัลไซเมอร์ไม่รู้ตัว

คุณเคยรู้สึกไหมว่าสมองเหมือนฟันเฟืองที่ขึ้นสนิม? วางกุญแจไว้แป๊บเดียวก็หาไม่เจอ จะทำงานก็สมาธิหลุดลอย หรือเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ก็จำไม่ค่อยได้ อาการ "สมองตื้อ" เหล่านี้อาจไม่ได้เกิดจากความเครียดเพียงอย่างเดียว แต่อาจมาจากเมนูอาหารที่คุณกินอยู่ทุกวัน!

นักโภชนาการ กู้ ฉวนหลิง กรรมการสมาคมโภชนาการเพื่อสุขภาพและอาหารเพื่อสุขภาพแห่งนครปักกิ่ง เปิดเผยว่า อาหารบางชนิดเปรียบเสมือนยาพิษรสอร่อยที่ค่อยๆ ขโมยความฉลาดของคุณไปทีละนิด บทความนี้จะพาไปเปิดโปง 7 อาหารทำลายสมอง ที่ควรเลี่ยงด่วน พร้อมแถม 2 พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้คุณ "หัวช้า" ลงโดยไม่รู้ตัว

 

 

1. อาหารน้ำตาลสูง 

ความหวานที่มากเกินไปส่งผลร้ายต่อสมองโดยตรง การกินน้ำตาลเยอะจะกระตุ้นให้เกิดภาวะดื้ออินซูลินและการอักเสบในระบบประสาท ซึ่งไปขัดขวางการทำงานของ "ไซแนปส์" (Synapse) หรือ จุดประสานประสาท จุดเชื่อมต่อที่ใช้ส่งสัญญาณระหว่างเซลล์สมอง

เมื่อการสื่อสารในสมองติดขัด ความจำของคุณก็จะแย่ลง เพื่อรักษาความฉลาดไว้ ควรจำกัดปริมาณน้ำตาลที่เติมเพิ่มไม่เกิน 6 ช้อนชา (ประมาณ 25 กรัม) ต่อวัน และระวังน้ำตาลแฝงในเครื่องดื่มและขนมหวานต่างๆ

2. อาหารโซเดียมสูง 

การบริโภคโซเดียมมากเกินไปไม่ได้ทำลายแค่ไต แต่ยังทำลายการทำงานของเซลล์ประสาท เร่งให้สมองเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ส่งผลกระทบต่อทั้งระบบความจำและการนอนหลับ

ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด ของหมักดอง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และไส้กรอกแฮมต่างๆ โดยพยายามคุมปริมาณเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชา (โซเดียม 2,000 มิลลิกรัม) ต่อวัน และหมั่นอ่านฉลากโภชนาการก่อนซื้อ

3. ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์

งานวิจัยชี้ชัดว่าไขมันเลวสองชนิดนี้สัมพันธ์กับภาวะสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ เพราะมันไปกระตุ้นการอักเสบที่สมองอ่อนไหวเป็นพิเศษ และยังไปเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ทำให้หลอดเลือดอุดตัน เลือดไปเลี้ยงสมองไม่สะดวก ส่งผลให้คิดอะไรก็ช้าลง

สิ่งที่ควรเลี่ยง: เบเกอรี่ที่ใช้เนยขาว/ครีมเทียม, ของทอด, ครีมเค้ก, และอาหารที่มีส่วนผสมของ "น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจน"

4. อาหารแปรรูปขั้นสูง (Ultra-processed Foods)

อาหารขยะยอดฮิตอย่าง มันฝรั่งทอด ขนมถุง หรือบะหมี่ถ้วย มักรวมเอาความร้ายกาจของ น้ำตาล แป้ง และโซเดียม ไว้ด้วยกัน เนื้อสัตว์แปรรูปเช่น แฮม ไส้กรอก งานวิจัยจากวารสารทางการแพทย์ระบุว่า หากกินอาหารกลุ่มนี้มากเกินไป จะเร่งให้ความสามารถในการรับรู้ (Cognitive function) ลดลงเร็วขึ้นถึง 28% พูดง่ายๆ คือ ยิ่งกินยิ่งเสี่ยง "สมองทื่อ" เร็วขึ้น

5. แอลกอฮอล์

แอลกอฮอล์คือสารพิษต่อระบบประสาทโดยตรง สาร "อะซีทัลดีไฮด์" ที่เกิดจากการเผาผลาญแอลกอฮอล์จะเข้าไปทำลายสมอง นอกจากนี้การดื่มหนักยังขัดขวางการดูดซึมวิตามินบี 1 ซึ่งจำเป็นต่อระบบประสาท ส่งผลให้สมาธิสั้นและความจำแย่ลง โดยผู้หญิงมีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบทางสมองจากแอลกอฮอล์มากกว่าผู้ชาย

6. ปลาที่มีสารปรอทสูง

แม้ปลาจะมีประโยชน์ แต่ปลาบางชนิดที่มีสารปรอท (Methylmercury) สะสมสูง คืออันตรายต่อระบบประสาทอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์และเด็ก สารปรอทเป็นพิษต่อเซลล์สมอง ควรหลีกเลี่ยงปลาล่าเหยื่อขนาดใหญ่ เช่น ปลาทูน่าขนาดใหญ่ ปลากระโทงดาบ หรือ ฉลาม และหันมาทานปลาเล็กที่มีความปลอดภัยแทน

7. แป้งขัดขาว (Refined Carbs)

การกินแป้งขัดขาว เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว ในปริมาณมากและต่อเนื่อง สัมพันธ์กับความบกพร่องทางสติปัญญา โดยเฉพาะส่วน "ฮิปโปแคมปัส" (Hippocampus) ที่ทำหน้าที่เก็บความจำ การทานธัญพืชไม่ขัดสี (Whole Grains) แทน จึงเป็นทางเลือกที่ฉลาดกว่าในการถนอมสมอง

แถมท้าย 2 พฤติกรรมที่ทำให้ "สมองพัง"

นอกจากอาหารการกินแล้ว ยังมีอีก 2 ปัจจัยที่ทำร้ายสมองคุณได้:

  • การนอนดึก/อดนอน: การนอนคือช่วงเวลาที่สมองได้ซ่อมแซมตัวเอง การอดนอนสะสมจะทำให้ประสิทธิภาพการรับรู้ลดลงอย่างถาวร
  • ความอ้วน: งานวิจัยจาก The Lancet พบความเชื่อมโยงว่า ไขมันในช่องท้องและค่า BMI ที่สูงเกินเกณฑ์ มีผลทำให้ความสามารถทางสมองลดลง