เนื้อหาในหมวด หนัง-ละคร

\

"คิมซูฮยอน-ซอเยจี" ชวนเตรียมหัวใจ เยียวยาความเจ็บปวดไปกับ It's Okay to Not Be Okay

It's Okay to Not Be Okay ซีรีส์เกาหลีเรื่องล่าสุดที่ทาง Netflix พร้อมเสิร์ฟคนดู และ คนดูก็เกาะจอรอติดตามสุดๆ เพราะนี่เป็นการกลับมารับงานแสดงอีกครั้งของ คิมซูฮยอน (Kim Soo Hyun) นักแสดงหนุ่มระดับท็อปสตาร์ขวัญใจสาวไทยหลังการรับใช้ชาติถึงสองปี และยังเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกของนักแสดงสาว ซอเยจี (Seo Yea Ji) อีกด้วย ซึ่งพวกเขาจะมาถ่ายทอดเรื่องราวของเจ้าหน้าที่แผนกที่ดูแลผู้ป่วยจิตเวชหนุ่มอ่อนโยนที่มีชีวิตสุดแสนธรรมดาและสาวนักเขียนวรรณกรรมเยาวชนที่เป็นพวกต่อต้านสังคม ความพิเศษบางอย่างดึงดูดพวกเขาเข้ามาเยียวยาซึ่งกันและกัน 

ล่าสุด 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา คิมซูฮยอน และ ซอเยจี ก็ได้มาร่วมพูดถึงเรื่องราวในซีรีส์และตอบคำถามสื่อมวลชนในงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ It's Okay to Not Be Okay ที่ทาง Netflix ได้จัดขึ้นผ่าน VDO Call เสริมความน่าติดตามชมเรื่องนี้กันก่อนที่จะไปดูกันเต็มๆ 20 มิ.ย.นี้ ทาง Netflix พวกเขาจะพูดถึงเรื่องนี้ว่าอย่างไรบ้าง ไปติดตามบทสัมภาษณ์กันเลย

พูดถึงคาแรกเตอร์ของคุณในเรื่องนี้หน่อย?

ซอเยจี: ฉันรับบทเป็น โกมุนยอง นักเขียนหนังสือนิทานสำหรับเด็กที่มีบุคลิกลักษณะต่อต้านสังคม (Anti-Social) และมีความผิดปกติทางบุคลิกภาพ (Personality Disorder) เธอขาดความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น และเย็นชา แต่เมื่อได้พัฒนาความสัมพันธ์กับใครสักคน เธอก็ค่อยๆ เริ่มเยียวยาตัวเอง และเกิดความเปลี่ยนแปลง

คิมซูฮยอน: ผมรับบท มุนคังแท ต่อหน้าคนอื่น เขาเป็นคนที่ดูแข็งแกร่งกว่าใครๆ แต่เมื่อเขาอยู่คนเดียว เขากลับกลายเป็นคนอ่อนแออย่างที่สุด แต่ยังไงก็ตามผมหวังว่าคุณจะมีความสุขที่ได้ชมตัวละครของผม

ขอ 3 คำ ที่สามารถอธิบายคาแรกเตอร์ที่พวกคุณแสดง?

คิมซูฮยอน: ซังแท (หมายถึงพี่ชายในเรื่อง) / มังแท (มันคืออะไรสักอย่างที่จะเผยออกมาทีหลังในซีรีส์) / ดองแท คือ หมูแห้ง หรือปลาแห้ง ของเกาหลี เหมือนความเชื่อด้านธรรมชาติบำบัดของเกาหลีว่าสิ่งนี้จะช่วยรักษาเยียวยาอาการฝันร้าย หรือปัดเป่าสิ่งอันตรายได้

ซอเยจี: รองเท้าส้นสูงสีแดง / ผีเสื้อ / ความรัก

การร่วมงานกันของคุณทั้งสองคนเป็นอย่างไรบ้าง?

คิมซูฮยอน: ตอนเริ่มต้นของซีรีส์นี้ มันเหมือนเป็นการพบกันของคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากในตอนแรก เมื่อเราค่อยๆ เริ่มเข้าบทบาทของมุนคังแท และโกมุนยอง เราต้องใช้เวลาทำงานด้วยกันเยอะมาก เราก็ค่อยๆ รู้สึกผ่อนคลาย เป็นกันเองมากขึ้น เรามีเคมีที่เข้ากันได้ ผมหวังว่าผู้ชมจะสามารถสัมผัสเคมีของเราจากซีรีส์เรื่องนี้ได้

ซอเยจี: วันแรกที่เราเจอกัน เขาเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่นมากๆ เราเข้ากันได้ดี ฉันคิดว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีที่สุดที่ฉันเคยทำงานด้วย

ความประทับใจแรกของคุณเมื่ออ่านบทละครคืออะไร? แล้วคุณตื่นเต้นกับอะไรมากที่สุด?

คิมซูฮยอน: เมื่ออ่านบทครั้งแรก ผมรู้สึกถึงความยาก ถ้าคุณได้ชมซีรีส์เรื่องนี้แล้วคุณก็น่าจะคิดแบบผม คาแรกเตอร์ที่หลากหลาย ตัวละครแต่ละตัวมีเรื่องราวของตัวเอง และเรื่องราวของความรักด้วย แต่ไม่ว่าคุณจะมองจากมุมมองไหน ผมหวังว่าสุดท้ายแล้วคุณจะชอบเรื่องนี้

ซอเยจี: เมื่อฉันอ่านบท ฉันไม่เคยเห็นคาแรกเตอร์ตัวละครแบบโกมุนยองในซีรีส์เกาหลีเรื่องไหนมาก่อน ตอนอ่านบทฉันรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ เพราะโกมุนยอง เป็นคนที่ไม่เข้าใจความรู้สึกของคนอื่น เห็นแก่ตัว เธอเหมือนเป็นดาบที่ทำร้ายทั้งตัวเองและคนรอบข้าง แต่ในขณะเดียวกัน ฉันถูกดึงดูดด้วยตัวละครตัวนี้ เธอเป็นคนก็มีอะไรในตัวเยอะมาก ฉันเชื่อว่าถ้าฉันสามารถถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ข้างในตัวโกมุนยองออกมาได้หมด จะทำให้เรื่องราวสมบูรณ์มากขึ้น


อะไรทำให้คุณตัดสินใจที่เข้าจะร่วมโปรเจกต์นี้?

ซอเยจี: เรื่องนี้เรามีผู้กำกับ พัคชินอู ที่เก่งมาก ทางด้านคนเขียนบทก็เก่งมาก สามารถสร้างคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจ และผูกเรื่องราวได้อย่างเหลือเชื่อมากๆ ฉันเลยไม่มีทางเลือก นอกจากจะตกลงร่วมงานกับพวกเขา แล้วยังมี คิมซูฮยอน ซึ่งเป็นนักแสดงที่ใครๆ ก็อยากร่วมงานด้วยทั้งนั้น ดังนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะปฏิเสธละครเรื่องนี้เลย

คิมซูฮยอน: หลังจากอ่านบท ผมรู้สึกเจ็บปวดใจ ผมรู้สึกว่ามันเป็นความท้าทายในการแสดง ที่จะถ่ายทอดความเจ็บปวดนั้นออกมา นอกจากนี้ ในด้านกระบวนการทำงาน ผมอยากเห็นตัวเองเปลี่ยนแปลงในด้านที่เป็นมนุษย์ ในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่ง นอกเหนือไปจากในซีรีส์ นี่เป็นอีกความท้าทายที่ผมอยากจะเห็นกับตัวเอง

ซีรีส์เรื่องนี้ท้าทายแนวความคิดในเรื่องของ "ความปกติธรรมดา" ในขณะเดียวกัน ก็สะท้อนว่าคนส่วนใหญ่มีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง คุณช่วยบอกเล่าถึงลักษณะเฉพาะบางประการเกี่ยวกับตัวคุณได้หรือไม่?

คิมซูฮยอน: หลังออกจากกรมผมแข็งแกร่งขึ้นมากทั้งร่างกายและจิตใจ และมีพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้นประสบการณ์ มีทัศนคติที่ชัดเจนขึ้นกับการแสดง ผมว่าผู้ชมที่เคยชมผลงานของผมมาก่อนหน้านี้น่าจะสัมผัสได้

ซอเยจี: สำหรับบทของโกมุนยอง เมื่อศึกษาลงไปลึกๆ แล้ว ฉันคิดว่าเธอมีลักษณะบางอย่างคล้ายแม่มด ฉันจึงโฟกัสไปที่ตรงนี้ รวมถึงการใช้เสียงต่ำ ออร่าบางอย่าง ช่วยให้ฉันเข้าถึงคาแรกเตอร์ความเป็นแม่มดภายในได้ดียิ่งขึ้น การแสดงเรื่องนี้ ทำให้ฉันได้รับประสบการณ์ ทั้งการเยียวยาจิตใจ และได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น


คุณรู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้กลับไปเล่นละครอีกครั้ง หลังออกจากรับราชการทหาร? นอกจากการเตรียมตัวสำหรับละครเรื่องนี้แล้ว คุณกำลังทำอะไรอยู่อีกบ้างหลังออกจากกรม?

คิมซูฮยอน: ซีรีส์เรื่องนี้นับเป็นเรื่องแรกหลังจากที่ผมออกจากกรม และผมรู้สึกยินดีมากๆ ที่ It’s Okay To Not Be Okay เป็นละครเรื่องแรกของผม เมื่อตอนอยู่ในกรมผมรู้เลยว่าผมคิดถึงงานแสดงมากแค่ไหน เรื่องนี้ผมพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้มันออกมาดีที่สุด


โกมุนยอง เป็นตัวละครที่มีบุคลิกค่อนข้างแรง ซึ่งถูกอธิบายว่าเป็นบุคลิกลักษณะต่อต้านสังคม (Anti-Social) คุณรู้สึกอย่างไรกับการที่ต้องรับบทเป็นตัวละครที่มีลักษณะดังกล่าว ซึ่งแตกต่างจากลักษณะของตัวละครหญิงทั่วไป?

ซอเยจี: สำหรับโกมุนยอง คุณจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดไปพร้อมเธอ แต่ในขณะเดียวกันคุณก็จะได้รับการเยียวยาไปพร้อมเธอ คอนเส็ปต์ของการที่เธอไม่แคร์ ไม่เข้าใจความรู้สึกของคนอื่น มันเหมือนเป็นพลังของตัวละครนี้ เมื่อคุณร่วมเดินทางไปกับเธอ ผ่านความยากลำบาก ผ่านการกระทำ ผ่านอดีต ผ่านความผิดหวัง หรือแม้แต่อนาคต คุณจะเริ่มคิดถึงและเข้าใจความรู้สึกของคนรอบข้างมากขึ้น


คุณเตรียมตัวอย่างไรบ้างในการรับบท คังแท?

คิมซูฮยอน: ผมต้องการถ่ายทอดถึงความเจ็บปวดทั้งหมดที่มุนคังแทมี ผมหวังให้ผู้ชมสามารถสะท้อนภาพและเชื่อมโยงกับตัวเองได้


ในการเตรียมตัวมารับบท มุนยอง คุณได้มีการศึกษาอ้างอิง ถึงภาพยนตร์ / ละคร หรือตัวละครอื่น ๆ ด้วยหรือไม่? ถ้าไม่ คุณมีการเตรียมตัวอย่างไร?

ซอเยจี: หลังจากที่ฉันได้ศึกษาคาแรกเตอร์ของคนที่มีลักษณะต่อต้านสังคมหรือมีความผิดปกติทางบุคลิกภาพ ฉันได้ข้อสรุปว่า โกมุนยองมีเอกลักษณ์และมีความเป็นตัวของตัวเองที่ไม่เหมือนใคร ฉันได้พยายามถ่ายทอดมันออกมา ผ่านการแต่งหน้า ทำผม คอสตูม ที่ใครๆ ก็ต้องบอกว่าแปลกและไม่ปกติ เป็นแฟชั่นที่แปลกประหลาด ซึ่งฉันพยายามไม่โฟกัสไปที่ความเป็นแฟชั่นนิสต้าของเธอ แต่เป็นความคิดข้างในมากกว่า เพราะลักษณะภายนอกที่เราเห็นทั้งหมด มันเป็นการแสดงออกอย่างสุดโต่งของตัวละครนี้ ซึ่งจุดประสงค์ของการแต่งตัวไม่ใช่การอวดหรือโชว์ออฟ แต่เพื่อเป็นการปกป้องความเป็นตัวเองมากกว่า




ในละครเรื่องนี้มุนคังแทมีทัศนคติต่อพี่ชาย มุนซังแท อย่างไร?

คิมซูฮยอน: เมื่อมุนคังแทอยู่กับพี่ชาย เขาจะทำตัวเหมือนเป็นพี่ชาย พยายามเป็นคนที่โตกว่า เป็นผู้ใหญ่กว่า ต้องเก็บความรู้สึก แต่เมื่อมุนคังแทมาเจอกับโกมุนยอง จุดนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของเขา เขาจะมีความเป็นเด็ก แสดงออกอย่างที่อยาก เขากล้าที่จะบ่นสิ่งต่างๆ ต่อหน้าโกมุนยอง


คาแรกเตอร์มุนยองดูเป็นคนที่ทันสมัยมาก คุณเตรียมตัวอย่างไรกับแฟชั่นของเธอ? เมื่อเทียบกับตัวละครโกมุนยอง คุณคิดว่าสไตล์ส่วนตัวของคุณมีความคล้ายคลึงหรือแตกต่างกันอย่างไร?

ซอเยจี: ฉันชอบแต่งตัวแนวแคชชวล อะไรก็ได้ที่คุณสามารถหาและหยิบจากในบ้านได้เลย สำหรับฉัน ความสบายมาก่อน (Comfort Comes First)


เทพนิยายที่คุณชื่นชอบที่สุดเมื่อโตขึ้นคือเรื่องอะไร?

คิมซูฮยอน: Anne of Green Gables ผมโตมาตอนที่เรื่องนี้มันกลับมาฉายใหม่ ผมเลือกเรื่องนี้ก็แล้วกัน

ซอเยจี: นิทานสอนใจสำหรับเด็กของเกาหลี เรื่อง Golden Axe & Silver Axe (คล้ายกับนิทานพื้นบ้านของไทยเรื่อง เทวดากับคนตัดไม้) ที่สื่อถึงความโลภของผู้ใหญ่ ซึ่งสุดท้าย ความโลภจะทำให้สูญเสียทุกอย่างที่มี ฉันเลือกเรื่องนี้ เพราะรู้สึกมีความเกี่ยวข้องกับตัวละครโกมุนยองที่มีความโลภ

คุณอยากให้ผู้ชมได้อะไรจากการดูซีรีส์เรื่องนี้?

ซอเยจี: ฉันเชื่อว่า ผู้ชมแต่ละคนมีประสบการณ์ในชีวิตไม่เหมือนกัน แต่ละคนก็จะได้สัมผัสประสบการณ์จากการรับชมต่างกันไป แต่สิ่งสำคัญคือ การเยียวยาจากความเจ็บปวด (Healing from Hurt) ซึ่งสิ่งนี้คือคีย์เวิร์ดของซีรีส์เรื่องนี้ก็ว่าได้ คุณจะโกรธ คุณจะเยียวยา คุณจะหัวเราะ และคุณจะมีความสุขไปด้วยกัน

คิมซูฮยอน: แม้ว่าเราทุกคนจะมีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เป็นสากลจากซีรีส์เรื่องนี้ คือ วิธีการที่เรารัก วิธีการที่เรานึกถึงและห่วงใยคนสำคัญในชีวิต สิ่งที่เป็นสากลเหล่านี้ ผมเชื่อว่าผู้ชมจะเชื่อมโยงกับมันได้


ช่วยทักทายและพูดอะไรกับผู้ชมเน็ตฟลิกซ์และเหล่าแฟนๆ ของคุณที่ตั้งตารอชมซีรีส์เรื่องนี้หน่อย

คิมซูฮยอน: ขอบคุณทุกท่านที่สนใจดราม่าซีรีส์เรื่องนี้ หวังว่าทุกคนจะเพลิดเพลินไปตลอดการเดินทางของตัวละคร ได้เห็นตัวตนของตัวเองสะท้อนผ่านตัวละครในเรื่อง และค้นพบสิ่งสำคัญของชีวิต

ซอเยจี: ขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่สละเวลาอันมีค่ามาร่วมงานในวันนี้ ผู้ชมจะได้เปิดประสบการณ์และเยียวยาตัวเองไปพร้อมๆ กับตัวละคร หวังว่าทุกท่านจะชอบและมีความสุขไปกับซีรีส์เรื่องนี้

ส่องไอจี \

ส่องไอจี "คิมซูฮยอน" ความสดใสที่ไม่ค่อยเห็นผ่านบทคังแท It's Okay to Not Be Okay

เห็นตัวละคร "มุนคังแท" ในซีรีส์ It's Okay to Not Be Okay เป็นหนุ่มสุดแกร่งที่โลกทำให้เขาโตเร็วเกินวัย จนไม่ได้ใช้ชีวิตสนุกสนาน เรียกว่าแทบจะไม่เจอความสดใสผ่านตัวละครนี้ ใครอยากเห็นความสดใสให้ตามไปส่องที่ไอจีของ "คิมซูฮยอน" แต่ละรูปดูแล้วต้องยิ้มตามจริงๆ!

ทำความรู้จักตัวละครซีรีส์ It\'s Okay to Not Be Okay (เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝืน)

ทำความรู้จักตัวละครซีรีส์ It's Okay to Not Be Okay (เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝืน)

It's Okay to Not Be Okay (เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝืน) ซีรีส์เกาหลีเรื่องล่าสุดของพระเอก คิมซูฮยอน ประกบ ซอเยจี ที่เรียกว่าเปิดตัวปังสมการรอคอย เรื่องราวของสาวนักเขียนปากร้ายขวางโลกกับชายหนุ่มผู้อบอุ่นอ่อนโยน พ่อไมโครเวฟ เคมีพระ-นางเข้ากันมากๆ จนไม่อยากให้พลาดดู ...มารู้จักตัวละครในเรื่องนี้กัน ใครที่ยังไม่ได้ดูตามมาที่ Netflix เลยจ้า!

ปูพรมสู่บ้านใหม่คอซีรีส์เกาหลี Netflix จัดหนักซีรีส์ตลอดปี 2020

ปูพรมสู่บ้านใหม่คอซีรีส์เกาหลี Netflix จัดหนักซีรีส์ตลอดปี 2020

หากใครที่เป็นคอซีรีส์เกาหลี บอกเลยว่าปี 2020 นี้ทาง Netflix จะปูพรมให้ทุกคนเดินเข้าสู่บ้านหลังใหม่ของคนที่รักในซีรีส์จากเกาหลี แบบจัดหนักจัดเต็มที่พร้อมลง Netflix ให้เราได้ดูกัน ไม่ว่าจะเป็น Extracurricular, Rugal, It’s Okay to Not Be Okay, The King: Eternal Monarch, Twogether, The School Nurse Files, Sweet Home และ Time to Hunt เรียกว่ามีทั้งซีรีส์และภาพยนตร์เกาหลีหลากหลายแนวให้ได้ดูทั้งเรียลลิตี้โชว์ อาชญากรรม ไซไฟที่มีกลิ่นอายสยองขวัญ ไปจนถึงซีรีส์โรแมนติก-ดรามา พร้อมเป็นบ้านใหม่ของคนรักความบันเทิงคุณภาพจากเกาหลีใต้