เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

6 ผลไม้หวานอร่อย น้ำตาลน้อย สุขภาพดีไม่อ้วน

6 ผลไม้หวานอร่อย น้ำตาลน้อย สุขภาพดีไม่อ้วน

ไม่ใช่ผลไม้ทุกชนิดที่จะทานแล้วไม่อ้วนเสมอไป เพราะผลไม้หลายชนิด โดยเฉพาะผลไม้รสหวานจัดในบ้านเรา เช่น ทุเรียน มะม่วงสุก เต็มไปด้วยน้ำตาลปริมาณมากมายมหาศาลที่อาจทำให้เราอ้วนได้ง่ายๆ แต่เมืองที่เต็มไปด้วยผลไม้อย่างเมืองไทยแบบนี้ จะให้ทานแต่ผลไม้ที่มีน้ำตาลมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร ในเมื่อเรามีผลไม้อีกมากมายที่อร่อย ฉ่ำหวาน น้ำตาลน้อย แถมยังราคาไม่แรงจนเกินไปอีกด้วย

 

  • สตรอว์เบอร์รี่
  • จำนวน 8 ชิ้น

    เท่ากับน้ำตาล 2 ช้อนชา

     

  • ฝรั่ง
  • จำนวน 1 ผล

    เท่ากับน้ำตาล 2 ช้อนชา

     

  • แก้วมังกร
  • จำนวน ½ ผล

    เท่ากับน้ำตาล 2 ½ ช้อนชา

     

  • สับปะรด
  • จำนวน 8 ชิ้น

    เท่ากับน้ำตาล 3 ช้อนชา

     

  • ส้ม
  • จำนวน 2 ผล

    เท่ากับน้ำตาล 3 ช้อนชา

     

  • มะละกอ
  • จำนวน 8 ชิ้น

    เท่ากับน้ำตาล 3 ช้อนชา

     

    ทานน้ำตาลเท่าไร ถึงจะพอดีต่อร่างกาย?

    ตามปกติแล้ว ในวันหนึ่งๆ เราควรบริโภคน้ำตาลไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา ดังนั้นหากทานผลไม้อย่างใดอย่างหนึ่งในนี้แล้ว ก็ควรระมัดระวังในการทานอาหารอื่นๆ ในมื้ออาหารแต่ละมื้อด้วย โดยเฉพาะอาหารจำพวกแป้ง และไขมัน และขอแนะนำให้ทานผลไม้สด มากกว่าน้ำผลไม้คั้นแยกกาก เพราะเราจะได้ประโยชน์จากคุณค่าทางอาหารมากกว่า และยังได้กากใยอาหารที่ช่วยในการทำงานของระบบขับถ่ายได้มากกว่าอีกด้วย นอกจากนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือการออกกำลังกายที่สม่ำเสมออย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ เท่านี้คุณก็มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ห่างไกลจากภาวะอ้วนน้ำหนักเกินแล้วล่ะ

    กินเจกับกินมังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร กินเจกินอะไรได้-ไม่ได้บ้าง

    กินเจกับกินมังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร กินเจกินอะไรได้-ไม่ได้บ้าง

    กินเจกับกินมังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร เพราะอาหารมังสวิรัติก็เป็นอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์เช่นกัน แต่กินมังสามารถกินผักได้เกือบทุกชนิด แล้วกินเจกินอะไรได้บ้าง

    “กินเจ” กับข้อควรระวังที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าเดิม

    “กินเจ” กับข้อควรระวังที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าเดิม

    การกินเจ หลายคนกินเพื่อลดการเบียดเบียนสัตว์ บางคนกินเพื่อสุขภาพ แต่หากกินไม่ถูกวิธี อาจส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าที่คิด