รู้หรือไม่กล้วยชนิดไหน ตัวช่วยชั้นดี ในการเลิกบุหรี่ กินเวลาไหน พร้อมเมนูกล้วย
จากการค้นคว้าข้อมูลพบว่า กล้วยหอม เป็นกล้วยที่ถูกกล่าวถึงบ่อยว่าเป็นตัวช่วยในการเลิกบุหรี่ เหตุผลก็คือ กล้วยหอมมีสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายหลายชนิด ได้แก่:
- โพแทสเซียม (Potassium) และ แมกนีเซียม (Magnesium): สารอาหารทั้งสองชนิดนี้ช่วยปรับสมดุลของเหลวในร่างกายและลดความอยากนิโคติน ซึ่งเป็นสารในบุหรี่ที่ทำให้เราเสพติด
- วิตามินบี 6 (Vitamin B6): มีส่วนช่วยในการผลิตเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ทำให้รู้สึกอารมณ์ดีขึ้น ช่วยลดความเครียดและความหงุดหงิดที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อเริ่มเลิกบุหรี่
- วิตามินซี (Vitamin C): การสูบบุหรี่ทำให้ร่างกายสูญเสียวิตามินซี การกินกล้วยหอมช่วยเพิ่มวิตามินซีและฟื้นฟูร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากการสูบบุหรี่ได้
ประโยชน์ของกล้วยหอมในการเลิกบุหรี่เพิ่มเติม
นอกจากวิตามินและแร่ธาตุที่กล่าวไปแล้ว กล้วยหอมยังมีสารสำคัญอื่น ๆ ที่ช่วยในการเลิกบุหรี่อีก ได้แก่:
- สารทริปโตเฟน (Tryptophan): สารนี้เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายใช้ในการสร้างสารเซโรโทนิน (Serotonin) หรือที่เราเรียกว่า "สารแห่งความสุข" เมื่อสมองผลิตสารนี้มากขึ้น จะช่วยลดอาการเครียด หงุดหงิด และซึมเศร้า ซึ่งเป็นอาการที่พบบ่อยในช่วงที่ร่างกายขาดนิโคติน
- คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน: กล้วยหอมให้พลังงานอย่างสม่ำเสมอ ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ทำให้ไม่รู้สึกโหยหรืออ่อนเพลีย ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กลับไปสูบบุหรี่ได้
- เส้นใยอาหาร (Fiber): เส้นใยในกล้วยช่วยให้อิ่มนานขึ้น และช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูร่างกาย
แนะนำวิธีกินกล้วยหอมเพื่อช่วยเลิกบุหรี่
การกินกล้วยหอมเพื่อช่วยเลิกบุหรี่นั้น ควรเน้นช่วงเวลาที่รู้สึกอยากสูบบุหรี่มากที่สุด เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นและช่วยลดความอยากนิโคตินได้ทันท่วงที
เมนูกล้วยที่ทำง่ายและช่วยในการเลิกบุหรี่
1. กล้วยหอมสด
วิธีทำ: ปอกเปลือกและกินได้ทันที
กินเมื่อไหร่: กินเมื่อรู้สึกอยากสูบบุหรี่ หรือกินเป็นของว่างช่วงบ่าย
2. สมูทตี้กล้วย
ส่วนผสม:
- กล้วยหอม 1 ผล
- นมจืดหรือโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ½ ถ้วย
- น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนชา (ถ้าชอบหวาน)
- น้ำแข็ง
วิธีทำ: นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นจนเนื้อเนียนละเอียด
กินเมื่อไหร่: ดื่มแทนอาหารเช้า หรือเมื่อต้องการความสดชื่นและพลังงาน
3. กล้วยอบ
วิธีทำ:
- หั่นกล้วยเป็นชิ้นหนาประมาณ ½ นิ้ว
- วางบนถาดอบที่รองด้วยกระดาษไข
- อบที่อุณหภูมิ 180°C (350°F) ประมาณ 10-15 นาที หรือจนกว่ากล้วยจะนิ่มและมีสีน้ำตาลทอง
กินเมื่อไหร่: กินแทนของหวาน หรือของว่างยามบ่าย
4. กล้วยบดกับธัญพืช
- ส่วนผสม:
- กล้วยหอม 1 ผล บดให้ละเอียด
- ข้าวโอ๊ต หรือซีเรียลชนิดไม่หวาน
- เมล็ดเจีย หรือเมล็ดแฟลกซ์
- วิธีทำ: ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน
- กินเมื่อไหร่: กินเป็นมื้อเช้า หรือของว่างยามเช้า
การกินกล้วยหอมเป็นเพียงตัวช่วยหนึ่งเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการตั้งใจจริงที่จะเลิกบุหรี่ หากมีอาการรุนแรง เช่น หงุดหงิดมากผิดปกติ วิตกกังวล หรือนอนไม่หลับ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและวิธีบำบัดที่เหมาะสมต่อไป