เทควันโดโลกซูฮกฝีมือ "พาณิภัค" พร้อมวางใจไทยเป็นเจ้าภาพเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2025
สหพันธ์เทควันโดโลกวางใจให้ประเทศไทยจัดการแข่งขันศึกใหญ่ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 2 ปี 2025 พร้อมชื่นชม "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2 สมัยติดต่อกัน
"บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยว่า ในช่วงก่อนการแข่งขันเทควันโดเยาวชนชิงแชมป์โลก 2024 ที่เมืองชุนชอน ประเทศเกาหลีใต้ สหพันธ์เทควันโดโลกได้วางโปรแกรมจัดประชุมประจำปีของคณะกรรมการบริหาร รวมถึงจัดประชุมใหญ่สามัญของสหพันธ์ ซึ่งตนในฐานะเหรัญญิกของสหพันธ์ และ "คุณบิ๊ก" ธนฑิตย์ รักตะบุตร เลขาธิการสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ในฐานะตัวแทนประเทศไทยเดินทางเข้าร่วมประชุมด้วย โดยงานนี้ผู้แทนจากกว่า 200 ชาติเข้าร่วม
ผศ.พิมล กล่าวต่อไปว่าสาระหลักๆที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยในการประชุมนั้นได้มีการสรุปผลงานโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ซึ่งนักกีฬาจากทวีปเอเชียได้เหรียญทองมากสุด 5 เหรียญทอง จาก 8 รายการที่มีจัดแข่งขัน โดยเกาหลีใต้ได้ 2 เหรียญทอง ส่วนไทยได้ 1 เหรียญทอง จาก "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ โดยอุซเบกิสถานและอิหร่าน ยังได้อีกชาติละ 1 เหรียญทอง
"ที่ประชุมได้พูดถึงเทควันโดในโอลิมปิกครั้งล่าสุดว่าประสบความสำเร็จในการจัดแข่งขันมาก และเหรียญรางวัลก็มีการกระจายไปในหลายๆชาติ มีประเทศใหม่ๆที่ได้รับเหรียญด้วย 5-6 ประเทศด้วยกัน ซึ่งในส่วนของประเทศไทยนั้นก็ได้รับคำชื่นชมด้วย"
"โดยที่ประชุมเชิดชูและแสดงความชื่นชม เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์เป็นสมัยที่ 2 ในศึกปารีส 2024 จนขึ้นทำเนียบเป็นเจ้าของเหรียญทอง 2 สมัย ซึ่งหนนี้ก็ยังมีนักกีฬาจากอุซเบกิสถาน อย่าง อุรุกเบ็ก ราชิตอฟ ที่ได้เหรียญทองสมัยที่ 2 ด้วย"
ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ยังเผยอีกว่า ที่ประชุมได้ยืนยันด้วยว่า จะให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเทควันโดรายการใหญ่ อย่างศึก เวิลด์ กรังปรีซ์ 2025 ซึ่งก็คาดว่าไทยจะได้จัดเป็นสนามที่ 2 ในช่วงเดือนพ.ย. 25 ที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ซึ่งทางสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยได้ทำเรื่องเสนอตัวที่จะเป็นเจ้าภาพ ก่อนจะได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพ ซึ่งส่วนหนึ่งตนมองว่าการที่ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โอกาสที่จะได้เป็นเจ้าภาพสูงมาก เพราะใครๆก็อยากมาประเทศไทย ซึ่งสำหรับการจัดเวิลด์กรังด์ปรีซ์ก็ถือเป็นครั้งแรกที่เราจะได้เป็นเจ้าภาพด้วย
"ส่วนหลังจากนี้สมาคมมีนโยบายว่าจะส่งนักกีฬาแข่งให้มากขึ้น เพราะถ้าอยากจะได้เหรียญโอลิมปิกและได้โควตาไปกันหลายๆคน เราต้องส่งแข่งเพื่อเก็บคะแนน จะไม่รอมาเก็บตกคัดสนามสุดท้าย ที่เป็นแมตช์ควอลิฟายระดับทวีปเหมือนครั้งก่อนๆแล้ว ซึ่งแมตช์คัดระดับทวีปถือว่ามีความเสี่ยงสูง เพราะหากไม่ได้โควตาก็จะตกไปเลย ที่สำคัญก็เป็นแมตช์ท้ายๆด้วย ซึ่งถ้าตกรอบแล้ว ก็จะไม่มีแมตช์อื่นให้แก้ตัวอีกแล้ว"
"เพราะฉะนั้นเราจึงเตรียมส่งนักกีฬาแข่งเก็บคะแนนให้ถี่ขึ้นแม้ว่าจะต้องทุ่มเงินส่งนักกีฬาแข่งขันเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนไม่น้อย เพราะรายการแข่งขันส่วนมากจะอยู่ที่ยุโรป และมีค่าใช้จ่ายสูง ผนวกกับในโอลิมปิก 2028 จะมีการใช้กฎระเบียบใหม่ในการเก็บคะแนน โดยหลังจบโอลิมปิกจะทำการเซตซีโรนับคะแนนใหม่ ซึ่งต่างจากแบบเดิมที่พวกที่ได้เหรียญคะแนนจะพุ่งกระฉูด แต่ระบบใหม่ก็จะมาเริ่มนับ 1 กันใหม่ ไม่มีใครเป็นรองใคร ซึ่งครั้งหน้าที่แอลเอ เราก็อยากจะเห็นนักกีฬาของเราไปโอลิมปิกให้ได้ 4 คน"