
คริสตัล พาเลซ พบ แมนฯ ซิตี้ : วิเคราะห์บอล ช่องถ่ายทอดสด เอฟเอ คัพ 2025 นัดชิงชนะเลิศ
พรีวิวเอฟเอ คัพ 2024/25 นัดชิง: คริสตัล พาเลซ vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 | เวลา 22.30 น. | เวมบลีย์ สเตเดียม | ถ่ายทอดสดทาง beIN SPORTS 3 (ช่อง 609)
ศึกเอฟเอ คัพ อังกฤษ ฤดูกาล 2024/25 เดินทางมาถึงบทสรุป โดยในรอบชิงชนะเลิศปีนี้ "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ ม้ามืดประจำทัวร์นาเมนต์ จะดวลกับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เข้าชิงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
ทั้งสองทีมเคยพบกันมาแล้วในลีกฤดูกาลนี้ โดยเกมแรก แมนฯ ซิตี้ บุกเสมอพาเลซ 2-2 ก่อนจะกลับมาเปิดบ้านถล่ม 5-2 ที่เอติฮัด สเตเดียม
ความพร้อมของทั้งสองทีม
คริสตัล พาเลซ
โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ กุนซือชาวออสเตรีย พาทีมผ่าน แอสตัน วิลลา ในรอบรองฯ แบบเหนือความคาดหมาย 3-0 และฟอร์ม 5 นัดหลังไม่แพ้ใคร (ชนะ 2 เสมอ 3) เกมล่าสุดเพิ่งบุกชนะ สเปอร์ส 2-0 ในลอนดอน ดาร์บี้
ข่าวดีคือ อดัม วอร์ตัน กองกลางทีมชาติอังกฤษ อาจหายเจ็บข้อเท้าทันกลับมาลงสนาม โดยจะช่วยแดนกลางร่วมกับ วิลล์ ฮิวจ์ส, เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา และ ไดจิ คามาดะ ขณะที่แนวรุกมี เอเบเรชี เอเซ ที่ฟอร์มร้อนแรง ยิง 5 ประตูใน 4 เกมหลัง และมีส่วนร่วม 4 ประตูในเอฟเอ คัพ ฤดูกาลนี้ ผนึกกำลังกับ อิสไมลา ซาร์ สนับสนุน ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตตา ที่กดไปแล้ว 17 ประตูในซีซันนี้
ชาดี รีอัด และ เช็ก ดูกูเร ยังไม่ฟิต เช่นเดียวกับตัวสำรองบางรายที่หมดสิทธิ์ลงช่วยทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เป๊ป กวาร์ดิโอลา นำทัพเรือใบเข้าชิงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน หลังเอาชนะ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 2-0 ในรอบรองฯ และยังคงไม่แพ้ใน 10 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ (ชนะ 7 เสมอ 3)
เออร์ลิง ฮาลันด์ หายเจ็บข้อเท้ากลับมาลงสนามแล้ว และเจ้าตัวเคยยิงพาเลซได้ถึง 6 ประตูใน 4 เกมหลังที่พบกัน ส่วนเกมรับอาจใช้ มาเตอุส นูเนส กับ นิโก โอไรลี ยืนแบ็กสองฝั่ง โดยรายหลังทำผลงานโดดเด่นในเอฟเอ คัพ ยิง 3 จ่าย 2 จาก 5 นัด
เควิน เดอ บรอยน์ มีลุ้นออกสตาร์ตเป็นตัวจริง โดยมีสถิติดีในรอบชิง (ยิง 1 จ่าย 3 จาก 3 นัดชิงก่อนหน้า) แดนกลางยังมีตัวสอดแทรกอย่าง มาเตโอ โควาชิช, แบร์นาร์โด ซิลวา, อิลคาย กุนโดกัน และ นิโก กอนซาเลซ
แนวรุกนอกจาก ฮาลันด์ ยังอาจได้เห็น เฌเรมี โดกู และ โอมาร์ มาร์มูช ลงตัวจริงแทน ฟิล โฟเดน และ เจมส์ แม็คอาที ด้านแนวรับ เนธาน อาเก กับ โรดรี กลับมาซ้อมได้แล้ว แต่ไม่น่าพร้อมสำหรับการออกสตาร์ต
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
คริสตัล พาเลซ (3-4-2-1) :
ดีน เฮนเดอร์สัน – คริส ริชาร์ดส์, มักซ็องซ์ ลาครัวซ์, มาร์ค เกฮี – ดาเนียล มูนญอซ, วิลล์ ฮิวจ์ส, อดัม วอร์ตัน, ไทริก มิตเชลล์ – อิสไมลา ซาร์, เอเบเรชี เอเซ – ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตตา
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) :
เอแดร์ซอน โมราเอส – มาเตอุส นูเนส, รูเบน ดิอาส, ยอสโก กวาร์ดิโอล, นิโก โอไรลี – มาเตโอ โควาซิช, แบร์นาร์โด ซิลวา – เฌเรมี โดกู, เควิน เดอ บรอยน์, โอมาร์ มาร์มูช – เออร์ลิง ฮาลันด์
ความน่าจะเป็นของเกม
แม้ว่า แมนฯ ซิตี้ จะดูเหนือกว่าในเรื่องประสบการณ์และขุมกำลัง แต่ พาเลซ ก็พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาอันตราย โดยเฉพาะเกมรุกที่เล่นได้อย่างมีมิติมากขึ้นภายใต้การคุมทีมของ กลาสเนอร์
สถิติที่น่าสนใจคือ 4 นัดหลังที่คู่นี้พบกัน มีประตูรวมอย่างน้อย 4 ลูกทุกเกม และซิตี้ไม่แพ้เลย (ชนะ 2 เสมอ 2) อย่างไรก็ตาม เกมนี้ไม่มีใครได้เปรียบในเรื่องสนาม เพราะเตะกันที่เวมบลีย์
สกอร์ที่คาด : แมนฯ ซิตี้ เฉือนชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1
เกร็ดก่อนเกม
- ทั้งสองทีมพบกันมาแล้ว 57 ครั้ง: แมนฯ ซิตี้ ชนะ 31, พาเลซ ชนะ 12, เสมอ 14
- พบกันในเอฟเอ คัพ ครั้งสุดท้ายฤดูกาล 2016/17 ซิตี้ชนะ 3-0
- พาเลซ เข้าชิงเอฟเอ คัพ เป็นครั้งที่ 3 โดยสองครั้งก่อนแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งคู่
- แมนฯ ซิตี้ ชิงเอฟเอ คัพ เป็นครั้งที่ 14 คว้าแชมป์มาแล้ว 7 สมัย
- หาก เป๊ป คว้าแชมป์ได้ จะเป็นผู้จัดการทีมคนที่ 2 ต่อจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ได้แชมป์ฟุตบอลถ้วยในประเทศอังกฤษอย่างน้อย 3 ครั้งในแต่ละรายการ