6 วิธี “คลายเครียด” แนะนำโดย Harvard Health
เราทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุไหนก็มีความเสี่ยงต่อสภาวะเครียดด้วยกันทั้งนั้น ทั้งเรื่องเรียน ครอบครัว เพื่อน ความรัก งาน หรือแม้กระทั่งเรื่องของคนข้างตัว และเมื่อไรก็ตามที่เราเครียด ไม่มีใครอยากเครียดจนทรมานร่างกางของตัวเองแน่นอน เพราะความเครียดเป็นสาเหตุของหลาย ๆ โรค ตั้งแต่โรคที่เกี่ยวข้องกับจิตใจโดยตรงอย่างโรคซึมเศร้า เลยไปจนถึงอาการนอนไม่หลับ โรคกระเพาะอาหาร แต่ที่น่ากลัวคือโรคหัวใจ
เรามักไม่รู้ตัวว่าเราเครียด และไม่รู้แม้กระทั่งว่าจะลดความเครียดได้อย่างไร Sanook! Health จึงมีเคล็ดลับจาก Harvard Health มาฝากกันว่า หากเครียดเมื่อไร เราจะจัดการกับความเครียดอย่างไรดี
กำหนดลมหายใจ
แม้ว่าจะเป็นวิธีง่าย ๆ แต่ได้ผลดีกว่าที่คิด ลองหายใจเข้าลึก ๆ ผ่อนลมหายใจออกยาว ๆ ระหว่างหายใจเข้า พยายามหยุดคิดทุกเรื่องให้หมด เพ่งสมาธิไปกับการหายใจเข้าแต่เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น เมื่อเรามีสมาธิกับการหายใจ ก็จะทำให้เราหยุดเรื่องที่ทำให้เครียดได้
สำรวจร่างกาย
การสำรวจร่างกาย ควรลองทำหลังการกำหนดลมหายใจ 4-5 นาที โดยเลือกอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายที่มีกล้ามเนื้อ แล้วเราสามารถบังคับกล้ามเนื้อส่วนนั้น เช่น มือ นิ้วมือ ต้นแขน เท้า ข้อเท้า ต้นขา เข่า ฯลฯ เราส่งแรงไปขยับกล้ามเนื้อส่วนนั้นเพียงส่วนเดียว การสำรวจร่างกายแบบนี้จะช่วยให้เรารับรู้ถึงการทำงานของร่างกายได้ชัดเจนขึ้น และการเชื่อมโยงระหว่างร่างกายและจิตใจมากขึ้น
สร้างจินตนาการจากภาพ
สำหรับเทคนิคนี้ คุณต้องลองใช้จินตนาการสร้างภาพในหัวเพื่อเยียวยาจิตใจของคุณให้ดียิ่งขึ้น สามารถหาตัวช่วยเป็นภาพในแอปพลิเคชั่น ในออนไลน์เว็บไซต์ และภาพต่าง ๆ ที่เป็นภาพวิวทิวทัศน์อันสวยงาม โดยเลือกที่เป็นภาพในสีโทนเย็น เช่น ฟ้า เขียว ขาว การปลอบประโลมจิตใจด้วยภาพในสายตาจะช่วยให้เรามองโลกในแง่บวกมากขึ้น สามารถเลือกภาพที่คุณชอบให้มาอยู่ในสายตาบ่อย ๆ ได้ เช่น แปะภาพที่ชอบไว้ในห้องนอน ใช้เป็นภาพในจอมือถือ หน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อให้จิตใจสงบลง เป็นต้น
นั่งสมาธิ
การนั่งสมาธิช่วยให้เรากำหนดจิตใจไม่ให้ฟุ้งซ่านได้ง่าย ๆ เพียงลองนั่งในท่าที่สบาย ๆ กำหนดลดหายใจเข้าออก นึกถึงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงขณะนั้นโดยไม่นึกถึงเรื่องในอดีต หรืออนาคต วิธีง่าย ๆ นี้ช่วยมาได้มากแล้วทั้งกับผู้ป่วยโรควิตกกังวล ซึมเศร้า และอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ
โยคะ ไทเก๊ก ชี่กง
ศิลปิะการออกกำลังกายในศาสตร์จีนนี้ แม้ว่าจะโบราณ แต่ก็ให้ผลดีต่อร่างกายได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเป็นการกำหนดการขยับร่างกายเป็นจังหวะช้า ๆ ไปพร้อม ๆ กับการกำหนดลมหายใจเข้าออก ซึ่งทำให้สมาธิของเราจดจ่ออยู่กับทั้งการหายใจ การขยับกล้ามเนื้อออกท่าทางต่าง ๆ จนสามารถเลิกคิดเรื่องอื่นไปได้ และยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และสมดุลของร่างกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
หมั่นสวดมนต์
คุณอาจลองท่องบทสวดมนต์สั้น ๆ เรื่อย ๆ ไปทุกวัน ตอนเช้า หรือก่อนนอน โดยทำคู่กับการกำหนดลมหายใจเข้าออกให้เป็นจังหวะ นอกจากจะได้ในเรื่องของสมาธิแล้ว ยังช่วยให้ศาสนาปลอบประโลมจิตใจให้ร่มเย็นขึ้นด้วย
หากลองทำตามวิธีเหล่านี้แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางในการรักษาอาการเครียดด้วยวิธีอื่น เช่น การรับประทานยาปฏิชีวนะบางตัว เป็นต้น
